8 ความเชื่อผิด ๆ กับสิ่งที่เราคิดว่าสกปรกมาตลอด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ความเชื่อผิด ๆ กับสิ่งที่เราคิดว่าสกปรก หลายคนอาจกำลังเข้าใจผิด ดังนั้นลองมาเช็กกันหน่อย ข้อไหนนะที่คุณจะเซอร์ไพรส์

          เราอาจจะเคยได้ยินต่อ ๆ กันมา หรือคิดเอาเองว่าสิ่งโน้นสิ่งนี้สกปรก แต่รู้หรือไม่ว่าของบางอย่างก็ไม่ได้สกปรกอย่างที่เราคิด ในขณะที่ของบางอย่างที่คาดไม่ถึงซะอีกที่สกปรกกว่า วันนี้เราจึงขอนำเอา 8 ความเชื่อผิด ๆ ที่ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายแล้วว่ามันไม่ได้สกปรกจริง ๆ ซะหน่อย ถ้าอย่างนั้นลองมาดูให้ประหลาดใจกันดีกว่า ...
 
1. ห้องน้ำ

          เชื่อหรือไม่ ว่ามีเชื้อแบคทีเรียอีโคไลอยู่ในซิงค์ล้างจาน มากกว่าในห้องน้ำที่ถูกกดชักโครกแล้วซะอีก รวมถึงยังมีเชื้อฟีคัลโคลิฟอร์ม (ซึ่งเป็นสาเหตุให้อุจจาระร่วง) อยู่ในเขียงหั่นอาหารมากกว่าในห้องน้ำถึง 200 เท่าอีกด้วย ที่เป็นอย่างนี้เนื่องจากเราคิดว่าห้องน้ำเป็นสถานที่ที่สกปรก เราจึงทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ที่เราคาดไม่ถึง เรามักละเลยมันนั่นเอง
 
2. เหรียญ

          เชื้อโรคชอบสภาพแวดล้อมที่นุ่มและชื้น ในขณะที่เหรียญทำมาจากโลหะที่นอกจากจะแห้งและแข็ง ยังมีคุณสมบัติยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นทองแดง นิกเกิล หรือเงิน จึงไม่เหมาะจะเป็นที่อยู่อาศัยเชื้อโรค เพราะไม่มีปัจจัยที่เอื้อต่อการมีชีวิตนั่นเอง
 
3. น้ำลายเจ้าตูบ

          แม้น้ำลายของน้องหมาจะลื่น แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันมีเชื้อโรค เพราะอันที่จริง ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมนุษย์เราต่างหากที่สกปรกกว่า ดังนั้นการโดนคนกัดจึงอันตรายกว่าถูกหมากัดด้วยซ้ำ และหากเราเคยได้ยินเกี่ยวกับโรค "อนามัยจัด" (Hygiene Hypothesis) เราจะรู้ว่าเด็ก ๆ ควรเล่นกับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ได้รับจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ  ซึ่งจะสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้นะ
 
4. เครื่องประดับ

          ด้วยเหตุผลเดียวกับเหรียญ คือ เครื่องประดับที่ทำมาจากทองแดง นิกเกิล หรือเงิน ไม่เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อโรค ยิ่งไปกว่านั้นวัสดุประเภทเงินแท้ ยังอาจสามารถฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย และด้วยเหตุผลที่โลหะป้องกันการแพร่ขยายของเชื้อโรคได้ ดังนั้นการแลกเครื่องประดับกันใส่กับเพื่อนจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจค่ะ
 
5. สวนหลังบ้าน

          ความสกปรกก็คือความสกปรก แต่ไม่ได้หมายถึงต้องมีเชื้อโรคร้ายแรงเสมอไป ดังนั้นการพาเด็ก ๆ ไปนั่งเล่นในสวนจึงไม่ใช่เรื่องอันตราย เพราะแบคทีเรียที่มีในสวนไม่ได้รุนแรงจนทำอันตรายมนุษย์ได้ และยังไม่สามารถเข้าไปในตัวเราได้หากเราไม่ได้มีบาดแผล อย่างไรก็ตามหากมีสัตว์เลี้ยงไปถ่ายทิ้งไว้ในสวน ก็อาจมีเชื้อโรคที่ทำอันตรายเด็ก ๆ ได้
 
6. ลูกบิดประตู

          เชื้อโรคจะปนเปื้อนในบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ แต่ประตูของบางสถานที่ก็เปิดทิ้งไว้ทั้งวัน ดังนั้นมันจึงสะอาดกว่าที่เราคิด นอกจากนี้ลูกบิดประตูส่วนใหญ่จะทำจากโลหะ ซึ่งไม่เหมาะเป็นที่เจริญเติบโตของเชื้อโรค ในทางกลับกันห้องน้ำสาธารณะซะอีกที่สกปรกกว่า เพราะมีคนเพียง 67% เท่านั้นที่จะล้างมือหลังการใช้ และเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ล้างด้วยสบู่ อีกทั้งการเป่ามือให้แห้งยังเป็นการแพร่กระจายเชื้อโรคอีกด้วย
 
7. ถังขยะ

          เชื่อหรือไม่ว่าอ่างอาบน้ำยังมีเชื้อโรคมากกว่าถังขยะซะอีก เพราะแม้ถังขยะจะมีแบคทีเรียมากมาย แต่มันก็ไม่ได้อันตรายทุกชนิด โดยเราสามารถทำให้ถังขยะปลอดเชื้อได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสูตรคลอรีน แอลกอฮอล์ และไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ส่วนห้องครัวก็ให้ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นช่วยฆ่าเชื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นฉุน และยังไม่เป็นอันตรายต่อเด็กและสัตว์เลี้ยงด้วย นอกจากนี้ควรทำให้ถังขยะแห้งอยู่เสมอ เพราะเชื้อโรคไม่สามารถอาศัยในที่ที่ปราศจากน้ำได้
 
8. ปัสสาวะ

          อาจจะดูน่าตกใจ แต่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินว่าปัสสาวะนั้นปลอดเชื้อโรค ส่วนสิ่งที่อันตรายจริง ๆ คืออุจจาระต่างหาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนักจุลชีววิทยาทั้งหลาย จึงกังวลเกี่ยวกับพื้นที่ครัวรวมถึงเนื้อสัตว์ดิบ ว่าจะมีเชื้ออีโคไลและเชื้อซาลโมเนลลา ที่ปนเปื้อนมาจากอุจจาระซ่อนอยู่
 
          น่าประหลาดใจใช่ใหมล่ะ แต่อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งชะล่าใจจนไม่ได้ระวังตัวเองนะคะ เพราะความสกปรกย่อมปะปนอยู่ทุกที่ มากน้อยแตกต่างกันไป ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ