7 เสียงกระซิบเตือนจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่ากำลังผิดปกติ !

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณกำลังมีอาการผิดปกติ เสียงกระซิบจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ จะบ่งบอกว่าถึงเวลาซ่อมแซมแล้วนะ

          ใครจะรู้ว่าความผิดปกติบางอย่างที่มาจากเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น คือสัญญาณที่บ่งบอกให้รีบหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด ก่อนที่คุณจะต้องควักเงินจากกระเป๋าออกมาต้อนรับสมาชิกเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่ มาทบทวนกันซิว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านของคุณเคยเกิดปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้หรือไม่ ถ้าเคยก็รีบทำตามด่วนเลยจ้า

1. ตัวทำลายขยะในท่อน้ำทิ้งหยุดทำงาน

          เป็นสัญญาณเตือนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าว่า ให้คุณรีบตรวจสอบกลไกการทำงานโดยด่วน ก่อนอื่นเราต้องเช็กดูให้แน่ใจก่อนว่าปลั๊กเสียบอยู่หรือไม่ ถ้าเสียบอยู่แต่เครื่องไม่ทำงานให้ลองตรวจดูที่ท่อน้ำท่อทิ้ง ว่ามีสิ่งของติดอยู่ไหม หยิบมันออกมาแล้วกดปุ่มทำงานใหม่ แต่ถ้าลองวิธีพื้นฐานแล้วยังใช้งานไม่ได้ ก็เตรียมยกหูโทรเรียกช่างมาซ่อมได้เลย

2. อาหารในตู้เย็นไม่เย็นเลย

          บ่งบอกชัดเจนว่าเกิดจากการทำงานที่ไม่ปกติภายในเครื่อง ปัญหานี้มาจากฝุ่น เศษหิน หรือเส้นผมเข้าไปติดอยู่ในแผงเหล็กทำความเย็นด้านหลังตู้เย็น อย่าเพิ่งกลุ้มใจไปว่าจะต้องซื้อตู้เย็นใหม่หรือเปล่า วิธีแก้ง่ายนิดเดียวแค่ใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดสิ่งสกปรกออก หรือจะใช้แปรงขนนุ่มปัดออกก็ได้เช่นกัน

3. มีน้ำแข็งเกาะที่ด้านล่างช่องแช่แข็ง

          นั่นหมายความว่าช่องละลายน้ำแข็ง มีน้ำล้นออกมาและเกาะตัวเป็นน้ำแข็งไปแล้ว เมื่อเราเปิดเครื่องละลายน้ำแข็ง น้ำจะไหลลงมาอยู่ที่ฐานและค่อย ๆ ล้น ต่อมาก็จะกลายเป็นน้ำแข็งที่เกาะอยู่จนเต็มด้านล่างช่องแช่แข็ง ทางที่ดีรีบนำของออกจากตู้เย็น แล้วถอดปลั๊ก เพื่อละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่จนหมด และหมั่นทำอยู่เป็นประจำ



4. ปั่นผ้าแล้วไม่ยอมแห้ง

          มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง นั่นคือ ตัวกรองอากาศมีสิ่งอุดตัน ทำให้เครื่องดูดอากาศเข้าทำงานไม่ได้ และมอเตอร์เดรนไม่ยอมปล่อยน้ำทิ้ง เพราะมีคราบน้ำยา หรือเศษผ้านานนับปีอุดตันอยู่ที่ช่องระบายน้ำทิ้ง ดังนั้นเพื่อให้เครื่องซักผ้าอยู่กับเราไปอีกนาน ก็ต้องรีบไปทำความสะอาดตัวกรองและช่องระบายน้ำทิ้งในเครื่องซักผ้ากันเถอะ

5. เหม็นกลิ่นตุ ๆ ที่ฝาเครื่องซักผ้า

          อาจเป็นไปได้ว่ามีเชื้อราอยู่ในเครื่องซักผ้าแล้วล่ะ ทุกครั้งที่ซักผ้าเราจำเป็นที่จะต้องปิดฝาเครื่องให้แน่นหนา แต่บางบ้านหลังจากซักเสร็จก็ยังปิดอยู่อีก เพราะไม่อยากให้มีฝุ่นผงเข้าไปเกาะตัว เจ้าเชื้อราเลยมาเยือนแทน และมักจะเกาะอยู่ตามฝาเครื่องซักผ้า แถมยังส่งกลิ่นประหลาดมาให้กวนใจ แก้ได้โดยการเปิดเครื่องปั่นน้ำร้อน หรือผสมน้ำส้มสายชูลงไปหน่อย จากนั้นเปิดฝาเพื่อระบายความอับชื้นเมื่อไม่ใช้งาน รวมถึงหมั่นนำผ้ามาเช็ดที่ฝาเครื่องซักผ้าทุกครั้งหลังปั่นผ้าเสร็จ รับรองเจ้าเชื้อรากระเด็นหายแน่

6. เตาแก๊สจุดไฟไม่ติด

          เป็นเสียงกระซิบจากเตาแก๊สว่าคงมีอะไรอุดตันอยู่ที่หัวเตาแน่ ๆ เพราะขณะทำอาหารมักจะมีเศษอาหารกระเด็นเข้าไปอุดตันอยู่ วิธีแก้แสนจะง่าย เพียงแค่นำผ้าสะอาด ๆ มาเช็ดปัดเศษอาหารออก เท่านี้เตาแก๊สเราก็กลับมาใช้ได้ปกติดังเดิมแล้ว

7. เตาไฟฟ้าไม่ยอมร้อน

          สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเตาไฟฟ้าคงร้องเรียกอยากได้หัวเตาอันใหม่ซะแล้ว การที่หัวเตาทำความร้อนไม่ยอมร้อนนั้นเป็นเพราะคุณแม่บ้านอาจจะวางของที่หนักเกินไปจนหัวเตาพังได้ หากตรวจสอบวิธีพื้นฐานแล้วยังไม่หาย คงถึงเวลาต้องเปลี่ยนหัวเตาใหม่แล้วล่ะ ถ้าไม่อยากเปลี่ยนหลายครั้ง ก็ต้องเช็กดูบ่อย ๆ ว่าที่หัวเตามีฐานรองรับแน่นหนาหรือไม่

 
          แม้ว่าเครื่องใช่ไฟฟ้าเหล่านี้จะไม่มีชีวิต แต่มันก็สามารถส่งสัญญาณบอกเราได้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับ ทางที่ดีลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปสังเกตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านดูนะคะ เผื่อจะเป็นเสียงกระซิบเตือนให้คุณรู้ตัวก่อนสายเกินแก้ก็ได้