20 วิธีพับเก็บสิ่งของให้เหมือนมืออาชีพมาเอง !

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก buzzfeed.com

         วิธีพับสิ่งของต่าง ๆ ด้วยไอเดียมากมาย ให้เหมือนกับมืออาชีพมานั่งพับด้วยตัวเอง ใครอยากจัดระเบียบด้วยการพับสิ่งของให้เรียบร้อย มาทำตามวิธีดังนี้ได้เลย

          หลายคนคงหงุดหงิดกับการพับผ้า ถุงพลาสติก หรือของอื่น ๆ ที่ต้องการจะนำไปเก็บในที่ต่าง ๆ เพราะของบางชิ้นดูเหมือนจะพับง่าย แต่พอถึงเวลาจริง ๆ กลับพับยากเสียเหลือเกิน บางทีก็พับไม่ได้รูปตามที่ต้องการบ้าง มุมหรือขอบลื่นหลุดบ้าง และไม่รู้จะเริ่มต้นพับอย่างไรดี ที่คิดว่าเป็นวิธีที่ถูกแล้วก็ผิดเสียอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเจอกับปัญหาแบบไหนมา ก็สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วย 20 วิธีพับเก็บสิ่งของให้เหมือนมืออาชีพ ที่เว็บไซต์ buzzfeed.com รวบรวมมาให้ชมต่อไปนี้เลยจ้า


1. ผ้าปูเตียง

          เริ่มจากนำผ้าปูเตียงมาพับครึ่งแล้วสอดมุมผ้าเอาไว้ด้วยกัน จากนั้นจัดผ้าปูเตียงให้เข้าทรง เสร็จแล้วพับขอบผ้าที่มีส่วนโค้งเข้าหากึ่งกลาง และพับด้านข้างของผ้าปูเตียงมาบรรจบกันที่กึ่งกลาง และจับผ้าทั้ง 2 ด้านพับเข้าหากันอีกครั้ง


2. ถุงพลาสติก

          กางถุงพลาสติกออกแล้วให้มือรีดถุงให้เรียบ แล้วพับครึ่งตามแนวยาวทั้ง 2 ครั้ง จากนั้นพับก้นถุงเข้ามาให้เป็นรูปสามเหลี่ยม พร้อมกับพับทบในลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงหูหิ้ว และเว้นหูหิ้วไว้เล็กน้อย สำหรับใช้สอดเก็บเอาไว้ในช่องว่างกับรอบพับอีกด้านของถุงพลาสติก


3. ถุงใส่กล่องข้าวกลางวัน

          หลังจากที่นำกล่องข้าวใส่ถุงพลาสติกแล้ว ก็บิดหูหิ้วให้แน่น ๆ แล้วคลายออกประมาณครึ่งหนึ่งของหูหิ้ว จากนั้นกางปากถุงออก แล้วครอบปากถุงพลาสติกลงไปที่กล่องข้าวให้มิดชิด เมื่อกล่องข้าวอยู่ในถุงพลาสติกเรียบร้อยแล้ว ก็กลับด้านถุงพลาสติกขึ้นมา ก็จะมีหูหิ้วเอาไว้ถือกล่องข้าวเดินไปเดินมาสบาย ๆ


4. เสื้อยืด

          ใช้มือขวาจับที่ไหล่เสื้อ ส่วนมือซ้ายจับที่กึ่งกลางของตัวเสื้อ จากนั้นดึงไหล่เสื้อไปไว้ที่ชายเสื้อด้านล่าง แล้วยกทั้ง 2 มือขึ้นมาสะบัดเล็กน้อยให้ผ้าเข้าที่ หันด้านหน้าของเสื้อเข้าหาตัว ก่อนจะพับแขนเสื้อซ่อนไว้ที่ด้านหลัง



5. ถุงขนม

          คลี่ปากถุงขนมออกมา แล้วพับมุมซองด้านซ้ายกับด้านขวาเข้าหากึ่งกลาง จากนั้นพับปากถุงด้านบนลงมาประมาณ 3-4 ทบ เสร็จแล้วจับด้านข้างของซองขนม ซึ่งเป็นส่วนที่พับลงมาในขั้นตอนแรก พับกลับไปด้านหลัง



6. เสื้อเชิ้ต

          กางเสื้อเชิ้ตออกโดยหงายหลังเสื้อเชิ้ตขึ้น แล้ววางนิตยสารไว้กึ่งกลางระหว่างแขนเสื้อทั้ง 2 ข้าง จากนั้นพับด้านข้างของเสื้อเชิ้ตข้างใดข้างหนึ่งเข้ามาก่อน แล้วพร้อมกับพับแขนเสื้อแนบไปกับลำตัว ทำตามขั้นตอนนี้กับเสื้ออีกข้าง พับชายเสื้อด้านล่างมาไว้ที่กึ่งกลาง ก่อนจะพับทบอีกครั้งไปถึงปกเสื้อ แล้วค่อยดึงนิตยสารออก


7. ผ้าเช็ดตัว

          เริ่มจากพับทบผ้าเช็ดตัวไปทีละครึ่ง จนกระทั่งกลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าผืนเล็ก ๆ เสร็จแล้วก็ค่อยพับจากด้านข้างด้านใดด้านหนึ่งเข้าหากกึ่งกลาง แล้วพับทบไปยังปลายผ้าเช็ดตัวอีกด้าน


8. ผ้าเช็ดตัวสำหรับนำไปแขวน

          แบ่งผ้าเช็ดตัวออกเป็น 3 ส่วน แล้วพับส่วนแรกไปยังส่วนที่ 2 ก่อนพับเข้าหาส่วนที่ 3 จากนั้นพับครึ่งอีกครั้ง หากจะให้ชัวร์ก็ใช้วิธีพาดผ้าเช็ดตัวลงบนแขนของตัวเอง แล้วค่อยนำไปแขวนก็ได้

9. เสื้อผ้าเด็กเล็ก

          เมื่อกางเสื้อผ้าของเด็กออกมาให้พับปลายขากางเกงเข้าหาช่วงไหล่ จากนั้นพับแขนเสื้อทั้ง 2 ข้างเข้าหาตัวเสื้อ แล้วจับตัวเสื้อพับครึ่งอีกครั้ง เสร็จแล้วก็พลิกด้านหน้าของเสื้อเด็กขึ้นมาเท่านั้นเอง


10. ขากางเกงสำหรับใส่รองเท้าบูท

          พับขากางเกงขึ้นมาให้อยู่ประมาณกึ่งกลางของหน้าแข้ง จากนั้นใช้มือรีดขากางเกงไปด้านข้าง ก่อนพับทบเข้าหาข้อเท้า แล้วสวมทับด้วยถุงเท้าอีกชั้น หลังจากนั้นค่อยสวมรองเท้าบูท


11. ปลอกหมอนใหญ่ส่วนเกิน

          สำหรับปลอกหมอนที่มีขนาดใหญ่กว่าหมอนหนุน หลังจากที่สวมหมอนเข้าไปในปลอกหมอนแล้ว ดึงกึ่งกลางของปลอกหมอนขึ้นมา แล้วสอดปลายปลอกหมอนเก็บไว้ด้านใน เสร็จแล้วก็ใช้มือรีดปลอกหมอนเพื่อไล่อากาศออกให้หมด


12. ผ้าเช็ดปากพร้อมกระเป๋าใส่ของ

          เริ่มจากปูผ้าเช็ดปากลงบนพื้นเรียบ ๆ แล้วพับครึ่ง จากนั้นจับชายผ้าด้านบนพับลงมาครึ่งหนึ่ง แล้วใช้มือรีดผ้าให้เรียบตึง พลิกผ้าด้านล่างขึ้นมา พร้อมกับพับชายผ้าจากด้านขวาไปด้านซ้าย และพับชายผ้าจากด้านซ้ายมายังด้านขวาซ้ำอีกครั้ง


13. ผ้าเช็ดปากแบบกระเป๋า 3 ชั้น

          เริ่มจากพับครึ่งจากด้านซ้ายไปหาด้านขวา แล้วพับครึ่งอีกครั้งแต่พับจากด้านล่างเข้าหาด้านบน จับมุมผ้าด้านขวาคลี่ออกมาแล้วพับไปหามุมล่างด้านซ้าย จากนั้นพับมุมด้านขวาชั้นที่ 2 สอดเข้าไปใต้ผ้าชั้นแรก พับมุมผ้าชั้นที่ 3 สอดเข้าไปใต้ผ้าชั้น 2 จากนั้นพลิกกลับด้านแล้วพับชายผ้าด้านซ้ายเข้าหากึ่งกลางประมาณ 1 นิ้ว พร้อมกับพับชายผ้าด้านขวาทับผ้าชั้นแรก กลับด้านผ้าขึ้นมาก่อนนำช้อน-ส้อมใส่เข้าไป

14. กางเกงในผู้ชาย

          พับช่วงกึ่งกลางของกางเกงเข้าหาขากางเกงด้านซ้าย จากนั้นจับขากางเกงด้านซ้ายพับไปทบกับขากางเกงด้านขวา แล้วพับปลายขากางเกงในขึ้นมาไว้ที่กึ่งกลาง แล้วพับเข้าหาขอบกางเกงในอีกครั้งก่อนนำไปเก็บ


15. เสื้อแขนยาว

          พลิกด้านหลังของเสื้อขึ้นมา แล้วพับปลายแขนเสื้อทั้ง 2 ด้านเข้าหากัน ก่อนจะพับด้านข้างของตัวเสื้อเข้ามายังกึ่งกลางทั้งด้านซ้ายและด้านขวา พับชายเสื้อทบขึ้นมาประมาณ 2-3 ครั้ง พร้อมกับพลิกตัวเสื้อด้านหน้าขึ้นมาอีกครั้ง


16. เสื้อกล้ามหรือเสื้อสายเดี่ยว

          กางเสื้อออกมาโดยให้สายเสื้ออยู่ด้านล่าง และหลังเสื้ออยู่ด้านบน จากนั้นพับสายเสื้อกับตัวเสื้อช่วงหน้าอกขึ้นมา แล้วพับด้านขวาของตัวเสื้อเข้าหาด้านซ้าย เสร็จแล้วก็พับตัวเสื้อจากด้านล่างขึ้นมาด้านบนอีกครั้ง


17. ผ้าห่อของขวัญ

          สำหรับการห่อของขวัญด้วยผ้าก็มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับรูปร่างของสิ่งของที่อยู่ด้านใน ซึ่งสามารถห่อได้ทั้งของที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม สี่เหลี่ยมผืนผ้ารวมไปถึงทรงกระบอก แต่ทั้งนี้ของทุกชิ้นที่กล่าวมามีสิ่งหนึ่งเหมือนกันก็คือ ควรห่อด้วยผ้ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเท่านั้น


18. ซองจดหมาย

          เริ่มจากพับมุมบนของกระดาษเหลือใช้เข้าหากันพร้อมกับรีดขอบให้เรียบ พับขอบกระดาษด้านล่างขึ้นมาให้พอดีกับมุมกระดาษ แล้วพับปลายกระดาษด้านซ้ายและด้านขวาเข้าหากัน พับมุมด้านบนลงมา แล้วใช้วาชิเทปติดทั้ง 3 มุมเข้าด้วยกัน


19. ชุดเดรสจากผ้าปูเตียง

          จับมุมผ้าด้านใดด้านหนึ่งขึ้นมา แล้วพาดผ้าที่เหลือไปยังอีกด้านของลำตัว จากนั้นใช้มุมผ้าด้านใดด้านหนึ่งพาดไปด้านหลังอีกครั้ง ก่อนนำมาผูกกับมุมผ้าอีกด้านให้ตรงกับช่วงไหล่ และใช้เข็มกลัดซ่อนปลายกลัดผ้าชั้นนอกกับชั้นในเอาไว้ด้วยกัน


20. กระดาษหนังสือพิมพ์

          เนื่องจากการถือหนังสือพิมพ์อ่านทั้งเล่มดูจะใหญ่เกินไป ถ้าอย่างนั้นจากนี้ก่อนจะอ่านให้พับครึ่งหนังสือพิมพ์เสียก่อน แล้วค่อย ๆ เปิดอ่านจากมุมบนของหนังสือ จากนั้นจึงเปิดดูครึ่งแรกของหน้า และถ้าหากหนังสือยาวเกินไป ก็แค่พับครึ่งจากด้านล่างขึ้นด้านบนเท่านั้นเอง

          หวังว่า 20 วิธีพับเก็บของใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นใน เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ ที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นบ้างนะคะ