เห็นช่วงนี้หลาย ๆ คนเริ่มอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแนวเปิดร้านกาแฟหรือเปิดร้านอาหาร เลยจะขอไอเดียตกแต่งร้านกาแฟเล็ก ๆ จาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1015907 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากกัน เพราะนอกจากจะเป็นไอเดียตกแต่งร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ทั้งสวยทั้งน่ารักแล้ว ยังใช้งบน้อยและตกแต่งไม่เกิน 10 วันอีกต่างหาก
มาเปลี่ยนร้านธรรมดาเป็นร้านกาแฟ ด้วยงบไม่ถึงแสน โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 1015907
สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนครับ วันนี้มีรายการโชว์ห่วยอีกแล้วครับ (^..^)
เรื่องมีอยู่ว่าน้องสาว (ลูกพี่ลูกน้อง) เขาสนใจจะเปิดร้านกาแฟแถว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่เขาพักอาศัยครับ) แต่เขาบอกกับผมว่าร้านที่เขาจะไปเช่าเปิดเนี่ย เขามีงบอยู่ไม่เกิน 1 แสนบาทพอจะทำได้ไหม ? และให้เวลาในการทำร้านให้เสร็จขอ 10 วันครับ (เพราะได้ฤกษ์ยามมาแล้ว ถ้าเสร็จไม่ทันต้องเลื่อนไปอีก 2 เดือนถึงจะเปิดได้ครับ) พอได้ฟังแบบนี้แล้วผมเลยบอกน้องเขาไปว่า "ขอไปดูร้านเดิมก่อนนะครับเผื่อไม่ต้องทำอะไรมากก็น่าจะทัน" ว่าแล้วเขาก็พาผมไปเย็นวันนั้นทันทีเลย
พอมาเห็นสถานที่ (ตามในภาพครับ) ด้านหน้าปิดแผ่นไม้เฌอร่า พื้นปูกระเบื้องสีสันสดใส กรอบกระจกอะลูมิเนียมสีเงิน กระจกเยอะมาก ตรงกลางกั้นด้วยผนังกระจกอะลูมิเนียมสีชา พอดูเสร็จแล้วก็เลยถามน้องกลับไปว่าอยากได้ร้านแบบไหน น้องเขาตอบผมเลยทันทีว่าอยากได้ร้านแบบไหนก็ได้แต่ไม่ใช่แบบเดิม ว่าแล้วผมก็ตอบน้องไปว่าพี่ไม่รับปากนะครับ ขอเวลาไปคิดแบบก่อนนะครับ -..-" ว่าโอเคหรือเปล่า ?
ด้านหน้าร้านครับ
ภายในร้านครับ ภายในร้านของเดิมจะมีกระจกเยอะมากครับ พอกลับมาถึงบ้านผมก็เริ่มลงมือทำแบบโดยให้เงื่อนไขกับตัวเองว่า ของที่ใช้ในการทำหรือตกแต่งต้องสามารถถอดออกมาใช้งานในที่ใหม่ได้หรือต้องใช้วัสดุที่ราคาประหยัดครับ (เนื่องจากสัญญาที่น้องเช่าเป็นแบบปีต่อปี เผื่อเขาไม่ต่อสัญญาก็สามารถถอดย้ายไปที่ใหม่ได้ครับ) โดยทำแบบออกมาคร่าว ๆ เฉพาะด้านหน้าร้านและแปลนภายในก็ได้ตามนี้แหละครับ 
พอน้องเห็นแบบก็โอเคครับ (อาจเพราะเขารีบด้วยแหละครับ -..-" ) ผมเลยอธิบายไปว่าด้านหน้าเราจะใช้ไม้พาเลทเก่ามาปิดทับของเดิมไปเลย ส่วนเรื่องเคาน์เตอร์เราจะใช้เป็น 2 ชิ้นคือส่วนปิดด้านหน้ากับตัวโต๊ะ ผนังด้านในส่วนที่เป็นกระจกเราจะปิดด้วยแผ่นยิปซั่ม เหลือผนังอิฐโชว์แนวด้านล่างไว้ (จะได้ประหยัด) ส่วนผนังกระจกเดิมเราจะถอดออก และกั้นด้วยผนังเบาแทนแต่ไม่ต้องเต็มพื้นที่ครับ ส่วนเคาน์เตอร์เราจะวางเป็นแนวยาวเพราะจะทำให้ดูเหมือนมีพื้นที่กว้างขึ้นและลูกค้าก็จะเห็นด้านนอกได้ด้วยครับ สำหรับผนังตกแต่งก็จะใช้งานโครงเหล็กโชว์และกรอบรูป โดยสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาหน้าร้านก็จะมีโต๊ะโครงเหล็กและเก้าอี้ด้านหน้าร้าน พร้อมกับเปลี่ยนกรอบอะลูมิเนียมของเดิมให้เป็นสีดำเพราะจะทำให้ร้านดูเด่นขึ้นครับ เสร็จแล้วผมเลยถามน้องต่อว่ามีโลโก้ร้านแล้วหรือยัง น้องเลยบอกให้ผมช่วยออกแบบโลโก้ร้านให้ด้วย ! พอกลับบ้านไปจัดการนัดช่างทันทีเลยครับ (ช่างอยู่แถวบ้านพอดี) นัดให้เข้ามาเลยครับ ส่วนคืนนี้ผมก็นั่งออกแบบโลโก้ร้านต่อเลยครับ
รูปโลโก้ที่ออกแบบได้มา 3 แบบครับ น้องกับแฟนน้องเลือก 2 แบบล่างครับ
วันรุ่งขึ้นตื่นแต่เช้าไปซื้อไม้พาเลทเก่าก่อนเลยครับ ร้านไม้เปิด 08.00 น. ส่วนช่างจะเข้างาน 09.00 น. ครับ ไม้พาเลทเก่าราคาตกแผ่นละ 8 บาท ผมซื้อมาทั้งหมด 2,000 บาทครับ
กรุด้านหน้าร้านแล้วครับ
งานกั้นผนังเบาและปิดในส่วนของหน้าต่างก็เสร็จไปพร้อม ๆ กันจบไปแล้วครับหนึ่งวันครับ งานผนังเบาพร้อมแรงและของรวมถอดผนังกระจกเดิมขนย้ายให้ด้วย ราคาอยู่ที่ 15,000 บาทครับ
วันที่ 2 : ช่างเข้ามาทำแผงเคาน์เตอร์และกรุเสาด้านใน 2 ต้นครับ ช่างไฟฟ้าทำการย้ายและติดตั้งโคมไฟครับ ราคางานกรุ, ผนังไม้ด้านหน้า, เสา 2 ต้น, โครงเหล็กและแผงหน้าเคาน์เตอร์ (แผงไม้หน้าเคาน์เตอร์ใช้ไม้โครงครับ) ราคารวมเหล็ก ไม้ และค่าแรง 12,000 บาทครับ ส่วนงานไฟฟ้ามีย้ายตำแหน่งไฟและติดตั้งโคมไฟใหม่ จำนวนรวม 15 จุด ราคาจุดละ 250 บาท (ไม่รวมสายไฟ) ค่าสายไฟ 50 เมตร 800 บาทกับค่าแรงช่างไฟฟ้า 3,700 บาทครับ วันที่ 3 : ซื้อเหล็กทั้งหมดที่จะใช้ที่ร้านขายเหล็กครับ จากนั้นเข้ามาช่วยกันทำที่บ้านเพื่อนครับผม วันที่ 4 : ก็ยังอยู่บ้านเพื่อนครับผม แต่วันนี้งานโครงเสร็จแล้วครับ ต่อไปเป็นงานทำสี โดยนัดช่างสีให้เข้ามาทาสีรอไว้ก่อนครับที่หน้างาน
ส่วนของเคาน์เตอร์ โต๊ะ และชั้นวางของครับ
แผงเหล็กแขวนติดผนังตกแต่งครับ ส่วนตาข่ายสีเหลืองทำมาจากตะแกรงไวเมทที่ใช้ในงานเทพื้นของเก่าครับแต่เอามาทำสีใหม่ ^^ วันที่ 5 : เก็บรายละเอียดแล้วเริ่มขนย้ายไปไว้ที่หน้างาน สรุปงานเหล็กทั้งหมดโดนไป 16,000 บาทครับทั้งของและแรงงานครับผม วันที่ 6 : งานสีเสร็จพอดีครับ
งานส่วนต่อไปคืองานพื้นครับ ตอนแรกที่คิดไว้คือจะใช้พื้นกระเบื้องยางเพราะเข้าใจว่าราคาถูกกว่า แต่พอสืบไปสืบมาจึงทราบว่าถ้าเป็นกระเบื้องยางที่เป็นลายไม้ราคาจะสูงตกตารางเมตรละ 690 บาทรวมค่าติดตั้ง เลยนำมาเทียบกันแผ่นพื้นลามิเนตลายไม้ตกตารางเมตรละ 550 บาทรวมติดตั้งครับ ซึ่งถูกกว่าและสามารถถอดไปติดตั้งที่อื่นได้ โดยที่หลังรื้อแล้วจะมีความเรียบร้อยกว่ากระเบื้องยางครับ เลยตัดสินใจใช้และเหตุผลอีกอย่างคือติดตั้งวันเดียวเสร็จครับ
วันที่ 7 : ติดตั้งแผ่นพื้นไม้ลามิเนตพร้อมกับนำแบบป้ายไปให้ร้านทำป้ายผลิตครับ
ติดตั้งแผ่นพื้นไม้ลามิเนตเรียบร้อยละราคาอยู่ที่ 25,500 บาท 
วันที่ 8 : ทำการติดตั้งงานเหล็กทั้งหมดรวมถึงรูปภาพตกแต่งผนัง ติดตั้งกันเองครับ ส่วนค่าใช้จ่ายในส่วนรูปภาพก็มี- กรอบรูปขนาด A3 จำนวน 9 กรอบ (800 บาท ของมือสอง)
- รูปขาว-ดำและสีขนาด A3 ราคา 90 บาท
- กรอบรูปขนาด 20"x24" (800 บาท ค่าอัดรูป 300 บาท )
- กรอบรูปขนาด 16"x20" (600 บาท ค่าอัดรูป 300 บาท )
ผนังด้านนี้ตกแต่งด้วยงานเหล็กครับ
งานติดตั้งโต๊ะด้านหน้าร้านครับ
วันที่ 9 : เป็นงานป้ายและตกแต่งตัวหนังสือครับ โดยป้ายด้านหน้าใช้ระแนงของเดิมทาสีดำและติดตั้งตัวหนังสือชื่อร้าน ส่วนด้านข้างทำแผ่นป้ายยื่นออกมาครับ
ส่วนตัวหนังสือส่วนนี้ให้ทางร้านป้ายแกะผ้าไวนิลมาครับ แล้วทางเราทาบกับแผงไม้และหนังแล้วใช้สีสเปรย์พ่นครับ (ต้องใช้มือทาบระหว่างพ่นด้วยนะครับ)
ราคางานป้ายพร้อมติดตั้ง 5,000 บาทครับ
บรรยากาศภายในร้านหลังตกแต่งครับ
เคาน์เตอร์หน้าร้านครับ สรุปแล้วน้องผมเสียค่าใช้จ่ายในการทำร้านประมาณ 82,890 บาทครับ (ไม่เกินงบ) ^..^ อย่างไรฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ (กะว่าจะเริ่มรับงานแล้วละครับแบบที่ช่วยให้ราคาประหยัด ๆ ตามงบของลูกค้าอะครับ ^^) เพื่อน ๆ คนไหนสนใจติดต่อได้นะครับผม 086-345-4791 บอมครับ (เชียงใหม่และกรุงเทพฯ นะครับ)
ร้านเปิดแล้วครับผม ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1015907 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
