รีวิวการแต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเตรียล ลอฟท์ (Industrial Loft) ตกแต่งด้วยท่อแป๊บ เฟอร์นิเจอร์ไม้พาเลททำเอง ใช้งบไปทั้งหมดไม่ถึงสองหมื่น
[DIYห้องนอน+ไม้พาเลท] เมื่อลงมือทำห้องนอน Industrial Loft ด้วยตัวเอง |
ความดิบ..ที่นอนได้ ในราคาหมื่นกว่าบาท !!
หลังจากที่รอมานาน ในที่สุดก็ว่างเขียนกระทู้แรกกับเขาสักที ปกติเป็นคนเขียนเล่าอะไรไม่ค่อยเก่ง แฮ่ ๆ ๆ แต่วันนี้อยากจะเล่าเพื่อแบ่งปันวิธีตกแต่งห้องนอนแนวลอฟท์ง่าย ๆ ด้วยตัวเองกัน เผื่อใครจะเกิดไอเดียเอาไปใช้ได้บ้างฮะ ไปเริ่มกันเลย…
ห้องนอนของผมมีขนาดแค่ 3.50x3.10 เมตร มีกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ 2 ฝั่ง มีผนังสูงถึง 3.20 เมตรเลยทีเดียว...สูงมาก ตอนเห็นห้องนอนครั้งแรกทำเอาคิดหนักเลย เพราะถ้าวางตู้ก็ไม่เข้า สั่งตัดตู้ก็ราคาแพงเว่อร์วังมาก คงไม่ไหวแล้วกลัวได้แบบธรรมดา ไม่ถูกใจวัยใสแบบผมอีก...ก็เลยทำเองนี่แหละ แล้วความบันเทิงก็เริ่มต้นขึ้น...
ขั้นตอนแรกพยายามหาสไตล์ห้องที่ต้องการ และแล้วก็มาจบที่แนวอินดัสเทรียล ลอฟท์ (Industrial Loft) ซึ่งโจทย์ในการทำห้องครั้งนี้ของผมมีไม่เยอะแค่
1. เป็นห้องที่ดูโล่งและไม่มีตู้เสื้อผ้า
2. มีความเป็นโชว์รูมเหมือนร้านเสื้อผ้า
3. ต้องมีที่วางรองเท้าที่โชว์ได้ **อันนี้สำคัญมากเพราะผมเป็นคนชอบรองเท้า ที่จริงอยากทำตู้เก็บรองเท้าแบบคุณเวย์ ไทยเทเนียม แต่ติดที่ห้องแสนจะเล็ก ฮืออ**
4. ต้องเป็นห้องที่มีความดิบหน่อย เก็บกดมานาน ฮ่า ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตย้ายบ้านบ่อยมาก ทุกครั้งที่ย้ายก็ทำบ้านซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่หมด แล้วห้องนอนก็จะเป็นแนวติดวอลเปเปอร์เรียบ ๆ อบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็สั่งเป็นเซตเข้ามาเลย ซึ่งก็ตามใจตัวเองมากก็ไม่ได้ฮะ ต้องอิงความเห็นของพ่อกับแม่ด้วย แต่ครั้งนี้เป็นไงเป็นกัน จะทำห้องนอนขัดใจผู้ใหญ่ ฮ่า ๆ ๆ
5. ต้องทำได้จริงในงบประมาณที่ไม่เกิน 20,000 บาท (ไม่ใช่อะไรนะฮะ ตั้งงบห้องนอนไว้แค่นั้น ถ้าทำเองแล้วแพงกว่าซื้ออิเกียมามิกซ์ก็ไม่ไหวมั้ง แฮ่ ๆ)
เมื่อคิดได้แล้วปฏิบัติการก็เริ่มขึ้น เริ่มจากวัดขนาดส่วนสูงจริงของห้องทั้งหมดทุกด้าน แล้วเริ่มที่งานผนังก่อนเลย มาดูห้องตอนแรกกันฮะ
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- เนื่องจากผนังที่ผมเลือกตอนแรกคิดในใจแค่อยากได้ปูนดิบกับผนังอิฐแดง แต่ก็แอบกังวลเพราะทั้งชีวิตเคยอยู่แต่ห้องที่ติดวอลเปเปอร์ -.- เลยไปเดินส่องดูลายวอลเปเปอร์ที่เป็นปูนเปลือยตามโฮมโปร ก็เจอที่ถูกใจบ้างแต่ก็ดุดัน มีความโหด ความเถื่อนมากไปหน่อย เลยตัดสินใจเรียกวอลเปเปอร์เจ้าประจำมาที่บ้านก่อน พอเปิดดูก็เจอลายผนังอิฐตรงผนังโชว์ที่ถูกใจได้อันนึงแล้ว ทางร้านก็แนะนำให้ผมติดสีพื้นด้วยแต่พอดูแล้วหาที่ถูกใจไม่ได้ แว่บนั้นในสมองก็สั่งการว่า ถ้าไม่ถูกใจห้ามสั่ง แค่ผนังปูนเองง่ายจะตาย ผมเลยสั่งวอลเปเปอร์ลายไปอย่างเดียว ซึ่งทางร้านจะมาติดให้ในอีก 3 วัน แต่เขาขอว่าก่อนจะมาติดเราต้องทาผนังให้เรียบร้อยก่อน และแล้วงานของผมก็เริ่มต้นขึ้น !
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- เพราะงานผนังเปลือยเป็นอะไรที่ผมไม่เคยทำมาก่อน เลยแวะไปที่พึ่งเดิมโฮมโปร แล้วก็ได้พบสีที่น่าทึ่งตัวหนึ่ง คือ สีลวดลาย Nippon Momento Elegant ผมจึงเลือกซื้อมา ซึ่งห้องของผมมีส่วนผนังที่จะต้องทาไม่ถึง 30 ตารางเมตร เลยซื้อสีมา 2 แกลลอน (1แกลลอน : 15-20 ตารางเมตร) พนักงานเขาบอกมาครับ ^^ ซึ่งในส่วนของงานผนังปูนเปลือยนี้ ผมได้ซื้อทั้งหมด 3 อย่างคือ
1. สีรองพื้นปูนเก่า Primer
2. สีทาพื้นผิว Nippon Momento Elegant : Sparkle Silver (สีตัวนี้ตอนเห็นในชาร์ตสี กลัวมันอ่อนไปพนักงานเลยใส่แม่สีดำเพิ่มไปให้ ฮี่ ๆ แหล่มกบเลย)
3. เคลือบเงา Clear Coat
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ได้เวลาทำงานสี เริ่มด้วยทาสีรองพื้นปูนเก่าเพื่อให้สีที่ทาติดทนนาน ทาเสร็จทิ้งไว้ 40 นาทีแล้วทาซ้ำอีกรอบแล้วก็นอนผึ่งพุงรอยาวไป 3 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยทาสีสร้างลวดลายกันเลย
![แต่งห้องนอน]( "แต่งห้องนอน")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ตัวสีเป็นสีพร้อมใช้เลย ขั้นตอนก็ไม่ยากแค่เอาแปรงจุ่มสี แล้วทาบนผนัง (ขั้นตอนที่สำคัญสุดสำหรับลายต่างๆ ถ้าต้องการให้ลายไปในทางไหนให้วาดในขั้นตอนนี้ไปเลย) ทาได้พื้นที่ประมาณ 1 ตารางเมตร ก็เอาเกียงพลาสติกที่แถมมาปาดกลับไปมาได้เลย สีจะอ่อนจะเข้มก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้ ถ้าต้องการสีอ่อนก็ปาดเยอะ ๆ (สีจะยิ่งเทา แต่ผมไม่อยากได้สีเทาอ่อน เลยปาดแค่เล็กน้อยพอกรุบกริบ ^^)
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ทาไป ฟังเพลงไปเพลิน ๆ เกือบเสร็จผนังด้านหนึ่งแล้ว เกว่าจะทาแล้วให้ลายได้อย่างใจ พอทาเสร็จความเก่งก็มา เมื่อทาครบทั้ง 2 รอบแล้วก็เป็นอันเสร็จ (สำหรับวันนี้) ออกมาเฟี้ยวฟ้าว กระดิ่งแมวอย่างใจคิด TT.TT ปริ่มมาก
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- เอาล่ะเช้าวันถัดไป ผนังแห้งสนิทแล้ว (จะเป็นเหมือนสีทาแบบด้าน ๆ) ถึงเวลาทาเคลือบสี เพื่อให้สีดูเงาดูเป็นปูนเก่าที่สะอาดสะอ้านและทนทานมากขึ้น ลื่นปรื๊ด ลื่นปรื๊ด
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- เนื้อสีเคลียร์โค้ด จะเป็นสีขาวขุ่น ๆ แต่พอทาไปแล้วจะแห้งและใสไปเอง ผมทาไปเต็มพื้นที่ 2 แกลลอน ทาได้ 3 รอบเลย เงาแว่บ มันแผล็บเลย รวมใช้เวลาทาสีผนังทั้งหมด 2 วัน ทันเวลาที่ช่างจะมาติดวอลเปเปอร์พอดี หลังจากครบ 3 วันช่างก็มาติดวอลเปเปอร์ลายที่สั่งไว้ ตื่นเต้นมากว่ามันจะออกมาเป็นยังไง
** เหตุผลที่ติดเป็นวอลเปเปอร์แทนการใช้อิฐจริง เพราะคิดว่าถ้าทำผนังอิฐเรียงกันที่ผนัง เนื่องจากเป็นกำแพงสูงจะทำความสะอาดยากและอาจจะสะสมฝุ่น เลยต้องตัดใจเลือกเป็นวอลเปเปอร์แทนฮะ
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ช่างมาติดวอลเปเปอร์แล้ว กำลังติดกันท่ามกลางอากาศที่ร้อนราวอยู่กลางทะเลทราย
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- เฮ้ ๆ ติดเสร็จแล้ว หน้าตาก็ออกมาประมาณนี้เลย สวยถูกใจมาก
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- การทำห้องที่แท้จริง...ได้มาถึงแล้ว ว่ะฮ่า ๆ ๆ พอเห็นงานแล้วจะร้องไห้ดีไหม ก่อนอื่นต้องทำการร่างแบบและคิดคร่าว ๆ เกี่ยวกับ รูปแบบ อุปกรณ์ วัสดุต่าง ๆ ที่ต้องใช้ รวมทั้งแหล่งจัดซื้อต่าง ๆ ภาพนี้คือแบบที่ผมร่างไว้คร่าว ๆ ด้วยดินสอ (ไม่ถนัดการใช้โปรแกรมแบบคนอื่นเขา เลยต้องพึ่งวิธีเบสิก) อาจจะเน่าไปหน่อย เขินจัง
- ป.ล. การร่างแบบสำคัญมากกับการสั่งของต่าง ๆ ผมเลยวาดค่อนข้างละเอียด เพื่อกำหนดขนาดของที่จะต้องสั่งได้ครบถ้วนถูกต้อง งานเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกทำครั้งนี้ เป็นแบบดิบ ๆ ที่ทำจากท่อแป๊บเหล็กผสมกับไม้ (พาเลทนอก) ท่อที่เลือกใช้คือ ท่อกัลวาไนซ์ ขนาด 1/2 นิ้วหรือ 4 หุน ท่อคาดฟ้า ผมว่ามันทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เลยนะ แต่ที่จะยากคือการหาร้านที่จะรับทั้งตัดท่อแป๊บและต๊าปเกลียวด้วย เพราะมันเป็นงานจุกจิก ร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปไม่ค่อยรับและยิ่งตอนนี้เฟอร์นิเจอร์แนวนี้เป็นที่นิยม ร้านค้าต่าง ๆ ที่รับตัดเหล็กเลยพากันทำในราคาที่แพงหูฉี่มาก จนงงว่า "อะไรกันแค่ตัดแป๊บเหล็กเนี่ยนะ ?"
- ตอนหาร้านก็ถอดใจไปมาก เพราะส่งไลน์ไปถามมาสองเจ้าราคาโหดเหี้ยมมาก แค่ตัดเหล็กที่รวมความยาว 11 เมตร เขาคิด 8,000 บาท+ต๊าปเกลียวแพงมากฮะ เหมือนโชคดีของผม ที่เสิร์ชกูเกิลไปเจอร้านหนึ่งที่เขารับตัดแป๊บตามขนาดพร้อมต๊าปเกลียวด้วย เลยไลน์ไปถามราคา เจ้าของร้านดีมากครับ นับเป็นเจ้าแรกที่ตอบผมเร็วมากและกระตือรือร้น แถมราคาตัดเหล็ก+ต๊าปเกลียว+นอตและข้อต่อต่าง ๆ = 3700 บาท+278 บาท (ค่าส่ง) เท่านั้นเอง แถมถ้าสั่งปุ๊บพรุ่งนี้รอรับของที่บ้านได้เลย บริการเร็วอย่างกับนั่งมอเตอร์ไซค์ไปปากซอย
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ได้เหล็กแป๊บมาแล้วก็จัดแจงพ่นสีเหล็กให้เป็นสีดำ (ก่อนพ่นสีจริงและสีรองพื้น ควรทำความสะอาดเหล็กด้วยน้ำสบู่/ผงซักฟอก) จากนั้นก็พ่นสีรองพื้น ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วพ่นสีจริง
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- พ่นสีรองพื้นสีเทาเก๋ ๆ
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- แห้งแล้วก็พ่นสีดำด้านทับไปโลด
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ประกอบตามแบบที่ร่างไว้
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- เสร็จแล้วไปประกอบติดผนังกันเลย ลุ้นมาก ๆ ว่าจะออกมาได้ตามแบบรึเปล่า ไขอัดให้แน่นแล้วก็ตู้ม...กลายเป็นราวติดผนัง วันนี้ติดเฉพาะราวที่ไม่ต้องมีไม้เป็นส่วนประกอบไปก่อน ฮี่ ๆ มี 3 ราว
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ราวที่ 1
![แต่งห้องนอน]( "แต่งห้องนอน")
- ราวที่ 2
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ราวที่ 3
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- ส่วนของงานไม้พาเลท ผมหาซื้อจากร้านแถว ๆ บ้าน ย่านบางนา-ตราด กม.20 ร้านนี้เสิร์ชเจอในกูเกิลอีกเช่นกัน ฮี่ ๆ แฟนพันธุ์แท้กูเกิล ร้านนี้เขาโฆษณาว่าไม้พาเลทเกรดเอ เนื้อขาว ซึ่งราคาก็ไม่แพง ราคามาตรฐานอยู่ที่ 180 บาทต่ออัน ในร้านมีหลายขนาดให้เลือก ผมเลือกซื้อมา 2 แบบ แบบแรกเป็นพาเลทนอกยุโรปขนาด 80x120 เซนติเมตร ราคา 180 บาท 8 อัน (ใช้ทำเตียงนอน) และอีกอันเป็นพาเลทญี่ปุ่น (เอามาทำโต๊ะ) ขนาด 86x135 เซนติเมตร ตัวนี้ถูกมากและเนื้อสวยมาก ๆ ราคาแค่ 100 บาทเท่านั้น เพราะเป็นขนาดที่ไม่นิยมกันเลยเอามา 1 อัน พร้อมกับซื้อไม้แกะแล้วแบบยกมัด 10 แผ่น ขนาด 10x120 เซนติเมตร มาอีก 1 มัดในราคาแค่ 100 บาท รวมเสียกับค่าพาเลทไปแค่ 1,640 บาทเท่านั้นเอง...แหล่มกบ
![แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์]( "แต่งห้องนอนสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์")
- อันที่เป็นไม้สีเข้มมีตราปั๊มสวย ๆ คือของญี่ปุ่น (ทางร้านว่างั้น) ที่จะเอามาทำโต๊ะวางของ วางคอมพ์
ห้องนอนของผมมีขนาดแค่ 3.50x3.10 เมตร มีกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ 2 ฝั่ง มีผนังสูงถึง 3.20 เมตรเลยทีเดียว...สูงมาก ตอนเห็นห้องนอนครั้งแรกทำเอาคิดหนักเลย เพราะถ้าวางตู้ก็ไม่เข้า สั่งตัดตู้ก็ราคาแพงเว่อร์วังมาก คงไม่ไหวแล้วกลัวได้แบบธรรมดา ไม่ถูกใจวัยใสแบบผมอีก...ก็เลยทำเองนี่แหละ แล้วความบันเทิงก็เริ่มต้นขึ้น...
ขั้นตอนแรกพยายามหาสไตล์ห้องที่ต้องการ และแล้วก็มาจบที่แนวอินดัสเทรียล ลอฟท์ (Industrial Loft) ซึ่งโจทย์ในการทำห้องครั้งนี้ของผมมีไม่เยอะแค่
1. เป็นห้องที่ดูโล่งและไม่มีตู้เสื้อผ้า
2. มีความเป็นโชว์รูมเหมือนร้านเสื้อผ้า
3. ต้องมีที่วางรองเท้าที่โชว์ได้ **อันนี้สำคัญมากเพราะผมเป็นคนชอบรองเท้า ที่จริงอยากทำตู้เก็บรองเท้าแบบคุณเวย์ ไทยเทเนียม แต่ติดที่ห้องแสนจะเล็ก ฮืออ**
4. ต้องเป็นห้องที่มีความดิบหน่อย เก็บกดมานาน ฮ่า ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตย้ายบ้านบ่อยมาก ทุกครั้งที่ย้ายก็ทำบ้านซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่หมด แล้วห้องนอนก็จะเป็นแนวติดวอลเปเปอร์เรียบ ๆ อบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็สั่งเป็นเซตเข้ามาเลย ซึ่งก็ตามใจตัวเองมากก็ไม่ได้ฮะ ต้องอิงความเห็นของพ่อกับแม่ด้วย แต่ครั้งนี้เป็นไงเป็นกัน จะทำห้องนอนขัดใจผู้ใหญ่ ฮ่า ๆ ๆ
5. ต้องทำได้จริงในงบประมาณที่ไม่เกิน 20,000 บาท (ไม่ใช่อะไรนะฮะ ตั้งงบห้องนอนไว้แค่นั้น ถ้าทำเองแล้วแพงกว่าซื้ออิเกียมามิกซ์ก็ไม่ไหวมั้ง แฮ่ ๆ)
เมื่อคิดได้แล้วปฏิบัติการก็เริ่มขึ้น เริ่มจากวัดขนาดส่วนสูงจริงของห้องทั้งหมดทุกด้าน แล้วเริ่มที่งานผนังก่อนเลย มาดูห้องตอนแรกกันฮะ
- เพราะงานผนังเปลือยเป็นอะไรที่ผมไม่เคยทำมาก่อน เลยแวะไปที่พึ่งเดิมโฮมโปร แล้วก็ได้พบสีที่น่าทึ่งตัวหนึ่ง คือ สีลวดลาย Nippon Momento Elegant ผมจึงเลือกซื้อมา ซึ่งห้องของผมมีส่วนผนังที่จะต้องทาไม่ถึง 30 ตารางเมตร เลยซื้อสีมา 2 แกลลอน (1แกลลอน : 15-20 ตารางเมตร) พนักงานเขาบอกมาครับ ^^ ซึ่งในส่วนของงานผนังปูนเปลือยนี้ ผมได้ซื้อทั้งหมด 3 อย่างคือ
1. สีรองพื้นปูนเก่า Primer
2. สีทาพื้นผิว Nippon Momento Elegant : Sparkle Silver (สีตัวนี้ตอนเห็นในชาร์ตสี กลัวมันอ่อนไปพนักงานเลยใส่แม่สีดำเพิ่มไปให้ ฮี่ ๆ แหล่มกบเลย)
3. เคลือบเงา Clear Coat
- ได้เวลาทำงานสี เริ่มด้วยทาสีรองพื้นปูนเก่าเพื่อให้สีที่ทาติดทนนาน ทาเสร็จทิ้งไว้ 40 นาทีแล้วทาซ้ำอีกรอบแล้วก็นอนผึ่งพุงรอยาวไป 3 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยทาสีสร้างลวดลายกันเลย
- ตัวสีเป็นสีพร้อมใช้เลย ขั้นตอนก็ไม่ยากแค่เอาแปรงจุ่มสี แล้วทาบนผนัง (ขั้นตอนที่สำคัญสุดสำหรับลายต่างๆ ถ้าต้องการให้ลายไปในทางไหนให้วาดในขั้นตอนนี้ไปเลย) ทาได้พื้นที่ประมาณ 1 ตารางเมตร ก็เอาเกียงพลาสติกที่แถมมาปาดกลับไปมาได้เลย สีจะอ่อนจะเข้มก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้ ถ้าต้องการสีอ่อนก็ปาดเยอะ ๆ (สีจะยิ่งเทา แต่ผมไม่อยากได้สีเทาอ่อน เลยปาดแค่เล็กน้อยพอกรุบกริบ ^^)
- ทาไป ฟังเพลงไปเพลิน ๆ เกือบเสร็จผนังด้านหนึ่งแล้ว เกว่าจะทาแล้วให้ลายได้อย่างใจ พอทาเสร็จความเก่งก็มา เมื่อทาครบทั้ง 2 รอบแล้วก็เป็นอันเสร็จ (สำหรับวันนี้) ออกมาเฟี้ยวฟ้าว กระดิ่งแมวอย่างใจคิด TT.TT ปริ่มมาก
- เนื้อสีเคลียร์โค้ด จะเป็นสีขาวขุ่น ๆ แต่พอทาไปแล้วจะแห้งและใสไปเอง ผมทาไปเต็มพื้นที่ 2 แกลลอน ทาได้ 3 รอบเลย เงาแว่บ มันแผล็บเลย รวมใช้เวลาทาสีผนังทั้งหมด 2 วัน ทันเวลาที่ช่างจะมาติดวอลเปเปอร์พอดี หลังจากครบ 3 วันช่างก็มาติดวอลเปเปอร์ลายที่สั่งไว้ ตื่นเต้นมากว่ามันจะออกมาเป็นยังไง
** เหตุผลที่ติดเป็นวอลเปเปอร์แทนการใช้อิฐจริง เพราะคิดว่าถ้าทำผนังอิฐเรียงกันที่ผนัง เนื่องจากเป็นกำแพงสูงจะทำความสะอาดยากและอาจจะสะสมฝุ่น เลยต้องตัดใจเลือกเป็นวอลเปเปอร์แทนฮะ
- ช่างมาติดวอลเปเปอร์แล้ว กำลังติดกันท่ามกลางอากาศที่ร้อนราวอยู่กลางทะเลทราย
- เฮ้ ๆ ติดเสร็จแล้ว หน้าตาก็ออกมาประมาณนี้เลย สวยถูกใจมาก
- ป.ล. การร่างแบบสำคัญมากกับการสั่งของต่าง ๆ ผมเลยวาดค่อนข้างละเอียด เพื่อกำหนดขนาดของที่จะต้องสั่งได้ครบถ้วนถูกต้อง งานเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกทำครั้งนี้ เป็นแบบดิบ ๆ ที่ทำจากท่อแป๊บเหล็กผสมกับไม้ (พาเลทนอก) ท่อที่เลือกใช้คือ ท่อกัลวาไนซ์ ขนาด 1/2 นิ้วหรือ 4 หุน ท่อคาดฟ้า ผมว่ามันทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เลยนะ แต่ที่จะยากคือการหาร้านที่จะรับทั้งตัดท่อแป๊บและต๊าปเกลียวด้วย เพราะมันเป็นงานจุกจิก ร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปไม่ค่อยรับและยิ่งตอนนี้เฟอร์นิเจอร์แนวนี้เป็นที่นิยม ร้านค้าต่าง ๆ ที่รับตัดเหล็กเลยพากันทำในราคาที่แพงหูฉี่มาก จนงงว่า "อะไรกันแค่ตัดแป๊บเหล็กเนี่ยนะ ?"
- ตอนหาร้านก็ถอดใจไปมาก เพราะส่งไลน์ไปถามมาสองเจ้าราคาโหดเหี้ยมมาก แค่ตัดเหล็กที่รวมความยาว 11 เมตร เขาคิด 8,000 บาท+ต๊าปเกลียวแพงมากฮะ เหมือนโชคดีของผม ที่เสิร์ชกูเกิลไปเจอร้านหนึ่งที่เขารับตัดแป๊บตามขนาดพร้อมต๊าปเกลียวด้วย เลยไลน์ไปถามราคา เจ้าของร้านดีมากครับ นับเป็นเจ้าแรกที่ตอบผมเร็วมากและกระตือรือร้น แถมราคาตัดเหล็ก+ต๊าปเกลียว+นอตและข้อต่อต่าง ๆ = 3700 บาท+278 บาท (ค่าส่ง) เท่านั้นเอง แถมถ้าสั่งปุ๊บพรุ่งนี้รอรับของที่บ้านได้เลย บริการเร็วอย่างกับนั่งมอเตอร์ไซค์ไปปากซอย
- ได้เหล็กแป๊บมาแล้วก็จัดแจงพ่นสีเหล็กให้เป็นสีดำ (ก่อนพ่นสีจริงและสีรองพื้น ควรทำความสะอาดเหล็กด้วยน้ำสบู่/ผงซักฟอก) จากนั้นก็พ่นสีรองพื้น ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วพ่นสีจริง
- พ่นสีรองพื้นสีเทาเก๋ ๆ
- แห้งแล้วก็พ่นสีดำด้านทับไปโลด
- ประกอบตามแบบที่ร่างไว้
- เสร็จแล้วไปประกอบติดผนังกันเลย ลุ้นมาก ๆ ว่าจะออกมาได้ตามแบบรึเปล่า ไขอัดให้แน่นแล้วก็ตู้ม...กลายเป็นราวติดผนัง วันนี้ติดเฉพาะราวที่ไม่ต้องมีไม้เป็นส่วนประกอบไปก่อน ฮี่ ๆ มี 3 ราว
- ราวที่ 1
- ราวที่ 2
- ราวที่ 3
- ส่วนของงานไม้พาเลท ผมหาซื้อจากร้านแถว ๆ บ้าน ย่านบางนา-ตราด กม.20 ร้านนี้เสิร์ชเจอในกูเกิลอีกเช่นกัน ฮี่ ๆ แฟนพันธุ์แท้กูเกิล ร้านนี้เขาโฆษณาว่าไม้พาเลทเกรดเอ เนื้อขาว ซึ่งราคาก็ไม่แพง ราคามาตรฐานอยู่ที่ 180 บาทต่ออัน ในร้านมีหลายขนาดให้เลือก ผมเลือกซื้อมา 2 แบบ แบบแรกเป็นพาเลทนอกยุโรปขนาด 80x120 เซนติเมตร ราคา 180 บาท 8 อัน (ใช้ทำเตียงนอน) และอีกอันเป็นพาเลทญี่ปุ่น (เอามาทำโต๊ะ) ขนาด 86x135 เซนติเมตร ตัวนี้ถูกมากและเนื้อสวยมาก ๆ ราคาแค่ 100 บาทเท่านั้น เพราะเป็นขนาดที่ไม่นิยมกันเลยเอามา 1 อัน พร้อมกับซื้อไม้แกะแล้วแบบยกมัด 10 แผ่น ขนาด 10x120 เซนติเมตร มาอีก 1 มัดในราคาแค่ 100 บาท รวมเสียกับค่าพาเลทไปแค่ 1,640 บาทเท่านั้นเอง...แหล่มกบ
- อันที่เป็นไม้สีเข้มมีตราปั๊มสวย ๆ คือของญี่ปุ่น (ทางร้านว่างั้น) ที่จะเอามาทำโต๊ะวางของ วางคอมพ์
- เริ่มจากงานยาก งานละเอียด ขัดเสี้ยนด้วยกระดาษทรายเบอร์ 5 ที่ไม่ยอมใช้เครื่องขัดเพราะคิดว่าแค่นิดเดียวเอง ไม่เคยใช้แรงมานานพอมาทำอะไรแบบนี้ถึงกับปวดตัว ตอนขัดชิลมาก วันถัดไปเกือบตาย ฮ่า ๆ ๆ
- รวมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ กระดาษทรายหยาบและละเอียด สีย้อมไม้ แปรงขนอ่อน และแรงงานตัวเอง หลังจากขัดเสี้ยนแล้วก็สวยวิ้ง เห็นลายไม้ชัดเจนสวยขั้นระดับซูเปอร์ (ทึ่งตัวเองทำไปได้)
- ขั้นตอนต่อไปก็ละเลงสีย้อมไม้กันเลย ผมทำตามวิธีที่ข้างแกลลอนแนะนำเลย คือทารอบแรกทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วขัดด้วยกระดาษทรายละเอียด ทาซ้ำรอบ 2 แล้วขัดด้วยกระดาษทรายอีกรอบ ส่วนรอบที่ 3 หรือรอบสุดท้ายแค่ทาแล้วปล่อยให้แห้งสนิท ก็จะได้เนื้อไม้ที่ปิ๊งปั๊ง ฟรุ้งฟริ้ง อย่างกับไม้เฟอร์นิเจอร์ทั่วไปเลยทีเดียว
- เวลาทาจะเห็นความต่างของสีไม้ชัดเจนมากฮะ ยิ่งทายิ่งฟิน ทำไปยิ้มไป (ท่าทางจะไม่เต็มฮะ ฮ่า ๆ ๆ) พอชัดเสร็จหมดแล้ว ได้เวลาแยกมาทำโต๊ะอเนกประสงค์
- อุปกรณ์ในการตัดไม้ก็ไม่ได้ยากเกินไป แต่ทุกอย่างก็ใหม่หมดสำหรับผม ตอนแรกคิดหนักว่าจะเลื่อยยังไงไม้มันก็แอบแข็ง แต่บังเอิญพ่อบอกว่าที่บ้านมีลูกหมูที่เปลี่ยนใบไว้ตัดไม้ได้ ก็สนุกสิฮะงานนี้ ฮี่ ๆ ครั้งแรกในชีวิตที่จับลูกหมูตัดไม้
- เริ่มด้วยการตัดแบ่งไม้พาเลทออกเป็น 2 ส่วน แล้วเก็บงานขัดไม้ ทาสีย้อมไม้กันอีกรอบ
- ทากาวลาเท็กซ์ไม้ให้ทั่วในบริเวณที่จะประกบไม้เข้าด้วยกัน
- ประกบไม้เสร็จแล้วก็จะได้แบบนี้ สวยอย่างที่คิดไว้เลย
- ตั้งใจจะให้โต๊ะตัวนี้เลื่อนไปมาได้ เลยต้องเพิ่มล้อเข้าไปซะหน่อย ไขกันยาวไป
- เพิ่มความเก๋ไก๋สไลเดอร์ของโต๊ะด้วยตัวล็อกสายยู ราคาแค่ 13 บาทเอง ข้อดีอีกอย่างของการติดสายยู ก็เพื่อให้ไม้ติดกันและไม่เคลื่อนตัว
- เสร็จเรียบร้อยหน้าตาแบบนี้เลย หล่ออย่าบอกใครเลยใช่ไหมฮะ จบไปอีกหนึ่งชิ้นที่แสนจะภูมิใจ
- มาต่อที่ส่วนของแผ่นไม้ ชั้นวางของที่จะใช้ไม้พาเลทขนาด 10x120 เซนติเมตรมาต่อกัน ซึ่งการต่อของผมก็แสนจะง่าย แค่เอาไม้ประกบเป็นคานด้านใต้ 2 ฝั่งหัวท้าย แล้วยึดไม้เข้าด้วยนอตตามมีตามเกิด มีนอตแบบไหนก็ใช้แบบนั้นฮะ ซึ่งหลังจากยึดไม้แล้วก็ ขัดและทาสีย้อมไม้ไปตากแดด (อีกแล้ว)
- เจาะรูไม้ตามขนาดท่อแป๊บ อุปกรณ์ในการเจาะไม้หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปราคาไม่แพงครับ ไม่เกิน 200-300 บาท ซื้อแล้วคุ้มฮะ
- เป็นรูปกลม น่ารัก สวยงาม แต่ดำไปหน่อยเพราะเวลาสว่านเจาะมันร้อน ไม้งี้ไหม้เป็นควันขึ้นมาเลย
- ได้เวลานำไปประกอบเข้ากับตัวท่อแป๊บตามขนาด ตามแบบต่างๆ มาได้เกินครึ่งทางแล้ว
- ประกอบแล้วอย่ารีรอครับ ไปติดตั้งกันเลย...เห่อมาก เวลายึดติดกำแพงต้องให้พี่มาช่วยครับ เขาถนัดด้านเจาะ
- ยึดราวฝั่งผนังเสร็จหมดแล้ว รวมทั้งการ์ดบอร์ดแสนรัก ฮี่ ๆ จากนั้นก็ยึดชั้นวางหมวกบนหัวเตียง ไม่ได้ถ่ายตอนทำไว้แต่อันนี้ไม่ยากครับ แค่วัดแล้วเจาะง่าย ๆ
- สภาพหลังจากที่ติดชั้นวาง ยกไม้พาเลทมาวางเป็นเตียง และเอาโต๊ะอเนกประสงค์ขึ้นมาไว้บนห้องแล้ว รกมากไปหน่อยพอดีว่าตั้งแต่ย้ายบ้านและทำห้องมาก็ย้ายตัวไปแทรกนอนตามหลืบตามรูที่ห้องพี่ชายมาตลอด แฮ่ ๆ อายจัง
- แล้วก็มาถึงโค้งสุดท้าย ชิ้นสุดท้ายสำหรับงานตกแต่งครั้งนี้ ก่อนอื่นนำไม้พาเลทที่ขัดไว้ดีแล้วทั้ง 2 อัน มาแยกส่วนเอาขาออกให้หมด เหลือแค่ส่วนด้านหน้าที่เป็นกระดานเอาไว้
- จากนั้นก็นำมาประกบติดเป็นแผ่นเดียวกันด้วยการเอาไม้มายึดตรงกลางรอยต่อ
- ต่อเสร็จแล้ว นำไม้ส่วนที่เหลือมาตอกขวางตามร่อง เสียดายมากไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนนี้เอาไว้
เอาล่ะเมื่อเสร็จทั้งหมดก็ยกไปตั้งบนห้องได้เลย (ป.ล. ตอนยกควรมีผู้ช่วยเพราะมันหนักจริง ๆ ฮะ ยก 2 คนยังเฮือกเลย) สุดท้ายก็ได้เวลาอัดรูปเพื่อมาตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มความสุนทรีในห้องสักหน่อย ผมเลือกอัดรูปจากที่ตัวเองเคยถ่ายมา ผมว่ามันทรงคุณค่าทางจิตใจดีนะ ห้องตัวเองจะมีรูปที่คนอื่นถ่ายมันก็ไม่แนวปะ ส่วนกรอบรูปที่ใช้ผมหาขนาดตามที่ต้องการยากมาก จึงได้สั่งตัดกรอบร้านลุงแถว ๆ บ้านซึ่งถูกมาก จริง ๆ ถ้าอยากได้กรอบรูปแนะนำเลยว่าไปสั่งตัดตามร้านเก่าแก่ดีกว่า เขาไม่ค่อยชาร์จเยอะ แถมบริการดีเป็นเลิศไม่ต้องรอนานด้วยนะ มาดูรูปที่ผมเลือกกัน
- พอใส่กรอบแล้วดูมีชีวิต ดูงามขึ้นอีก 50% เลย เป็นอันเสร็จหมดทุกอย่าง มาดูกันว่าหลังจากจัดห้องแล้วหน้าตาจะออกมาเป็นยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลย
- ผนังฝั่งประตูทางเข้าห้องนอน
- โต๊ะไม้พาเลทที่แสนจะภูมิใจ ได้สั่งตัดกระจกมาวางปิดหน้าเพื่อทำเป็นโต๊ะได้ด้วย ที่สำคัญวางของแล้วมองเห็นได้อีกต่างหาก เหมาะมากสำหรับคนชอบหาของไม่เจอ ฮ่า ๆ ๆ
- เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครครับ ในส่วนของราวแขวนเสื้อผ้าแบบเปลือย ตอบโจทย์ที่อยากได้แบบร้านขายเสื้อผ้า
- ราวแขวนกางเกงแนว ๆ
- ชั้นวางซีดี วางหนังสือก็ได้นะ ฮี่ ๆ
- เตียงนอนไม้พาเลท มีช่องว่างสำหรับเก็บของได้ด้วย เป็นไอเทมที่คุ้มค่ามาก
- ในด้านฝั่งที่นอนและชั้นวางหมวก อาจมีการต่อเพิ่มชั้นไปในอนาคต ตามปริมาณหมวกที่เพิ่มขึ้น 555
- ชั้นวางรองเท้า (ส่วนหนึ่ง)
- มาจบสุดท้ายด้วยมุมที่นอนมองเห็นทุกคืน นอนเองก็คิดว่าไม่ใช่ห้องตัวเอง ปลื้มปริ่ม
- สุดท้ายสภาพจริงหลังจากใช้วิธีการทุบพุง ยึดคอมพ์พี่ชายมาใช้เพื่อรวมรูปลงพันทิปฮะ ฮ่า ๆ ๆ
จบแล้วกับการทำห้องนอนกลิ่นอายอินดัสเทรียล ลอฟท์ ในแบบของผม ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เพราะมันยาวมาก หวังว่าจะเป็นไอเดียของผม จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงฮึดให้กับคนที่อยากทำห้องด้วยตัวเองกันนะฮะ
การทำห้องด้วยตัวเอง ไม่ยากครับ ผมเองก็ไม่ใช่ช่างไม้ ไม่ใช่ช่างอะไรสักอย่าง เป็นแค่ช่างมันเต๊อะ ฮ่า ๆ ๆ ยังทำได้เลย ขอแค่คุณมีใจรัก มีเวลา และมีความพยายามฮะ เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่กำลังอยากทำห้องเองครับ
สรุปห้องนี้ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด อยู่ที่ 18,000+ บาทนิดหน่อย ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนลงแรงทีเดียวครับ
- ค่าวอลเปเปอร์ 5,700 บาท
- ค่าแป๊บเหล็ก 3,700+ค่าส่ง 278 บาท
- ค่าไม้พาเลท 9 อัน 1,640 บาท
- ค่าชั้นวางหมวกที่ซื้อจากโฮมโปรไม่เกิน 350 บาท
- ค่าพรินท์รูป+กรอบประมาณ 550 บาท
- ค่าตู้โชว์อิเกีย 1,990 บาท
- ค่าไพรเมอร์รองพื้น+ค่าสีโมเมนโต+เคลียร์โค้ดประมาณ 1,700 บาทต่อ 1 ชุด ผมใช้ 2 ชุดเท่ากับประมาณ 3,400 บาท
- ค่าสีย้อมไม้+เครื่องมือประมาณ 850 บาท
- ค่าเครื่องมือจิปาถะประมาณ 500 บาท
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ เบชิต้าน้อย แห่งดาวนาแมกซ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
