รีโนเวทบ้านเดี่ยวสองชั้น ตกแต่งสวยหรูเหมือนอยู่อังกฤษ

          สำหรับคนที่ชอบการตกแต่งบ้านสไตล์อังกฤษ วันนี้ คุณ สมาชิกหมายเลข 2741017 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ขอถ่ายภาพหลังรีโนเวทบ้านพร้อมตกแต่งใหม่ในเป็นบ้านสไตล์อังกฤษมาให้ชมกัน ซึ่งเป็นการตกแต่งบ้านสไตล์อังกฤษแบบโบราณ ผนังสีแดง เฟอร์นิเจอร์แบบคลาสสิก ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านในแดนผู้ดีเลยล่ะ
[SR] แต่งบ้านสไตล์อังกฤษด้วยตัวเอง โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 2741017

          ขออนุญาตไม่เรียงตามระยะเวลาก่อนหลังนะครับ เพราะค่อย ๆ แต่งมาเรื่อย ๆ ใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ลงมือเก็บเล็กเก็บน้อย หลาย ๆ ขั้นตอนก็ลืม ๆ ไปบ้างสลับกัน เอาเป็นว่าเจอรูปไหนก็อธิบายรูปนั้นนะครับ

          - เริ่มต้นจากตัวบ้านก่อนนะครับ ต้องบอกว่าก่อนแต่งบ้าน ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเก็บไว้ รูปนี้ต้องไปก๊อบเค้ามาเพื่อเอามาเปรียบเทียบให้ทุกท่านเห็นภาพ Before&After อย่างที่แจ้งไว้ด้านบนครับ ตัวบ้านตอนซื้อมาใหม่ ๆ คือเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ภายในเนื้อที่ 53 ตารางวา ภายนอกตัวบ้านแถมต้นปาล์ม 3 ต้น ภายในมีผนังกับฝ้าที่ทาสีขาวใว้ให้ พร้อมไฟนีออนกลมติดเพดานอีกห้องละ 1 ดวง


          - ขอเริ่มจากห้องนั่งเล่นนะครับ จากห้องสี่เหลี่ยมยาว ๆ ผนังขาว ๆ ไฟนีออนกลม ๆ มุมห้องจะเห็นรูปปั้นเดวิดไม้สัก ฝีมือพ่อ-แม่เจ้าของกระทู้แกะสมัยทั้ง 2 เรียนเพาะช่างด้วยครับ จขกทเคยลองดีตอนเด็กขึ้นไปยืนบนหัว ตกดึกนอนไม่ได้ ปวดหัวเหมือนมีใครมาเหยียบ คุณแม่นึกได้ให้ไปใหว้ขอโทษเดวิด หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ แล้วก็ผมลงทุนก่ออิฐเป็นประตูโค้งเพื่อกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องทานอาหารให้เป็นสัดส่วน ไหน ๆ ก่อผนังโค้งแล้วก็ทำเป็นเตาผิงซะเลย


          - ส่วนที่ก่อก็ทำกันเองครับ สองคนแม่ลูก ไม่มีช่างปนเลย เตาผิง เจ้าของกระทู้ทำเองล้วน ๆ ซื้อกระเบื้องปูพื้นมาวางบนกรอบไม้ปิดของด้วยไม้บัวทาสีดำ กลไกเตาผิงเป็นของปลอมนะครับ ทำจากพัดลมเป่าคอมพ์ ตัวละ 200 บาท เอาแบบที่ไม่ต้องผ่านหม้อแปลง ต่อผ่านดิมเมอร์เพื่อปรับความแรงได้ ติดตั้งใว้ในเตาผิงโดยเอาผ้าแพรสีเหลือง ๆ ส้ม ๆ มาแปะไว้บนพัดลม ด้านล่างก็เอาไฟฮาโลเจนส่องให้แสงกระทบกับฝ้า เปิดสวิตช์ลมจะพัดผ้าแพรสะบัดพร้อมไฟที่ส่งมาจากด้านล่าง ถ้าไม่สังเกตก็เปลวไฟดี ๆ นี่เองครับ จะเอาไฟแรงไฟค่อยก็หมุนดิมเมอร์เอา


          - อันนี้มองอีกมุมหนึ่งครับ ม่านสีเขียวซื้อจากโฮมโปร จำได้ว่าผืนละ 700-800 บาท ราวม่านซื้อจากร้านไม้แถวบ้านที่เค้ากลึงสำเร็จไว้แล้ว เลือกที่ท่อนใหญ่ ๆ หน่อย ดูแข็งแรงดี เจ้าของกระทู้ปีนติดตั้งเองครับ ไม่เสียตังค์จ้างช่าง

          - มุมน้ำชา เนื่องจากมีคนแอบเห็นแล้วไปบอกต่อ ๆ กัน จนมีคนมาขอดูบ้านบ่อย ๆ ตัว เจ้าของกระทู้เช้าก็ออกทำงานเย็น ๆ กลับมาคุณแม่จะเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่ามีคนมาด้อม ๆ มอง ๆ ที่หน้าบ้าน แม่เลยเชิญเข้ามาข้างใน บ่อย ๆ เข้าเลยมีโต๊ะนำชาไว้ชงรับแขกซะเลย


          - อีกมุมของห้องนั่งเล่นครับ ชั้นวางทีวีก็ทำกันเองสองคนแม่ลูก เริ่มจากคุณแม่ไปได้ไม้เก่ามาจากจตุรจักร เจ้าของกระทู้เลยยึดมาแปรรูปเป็นชั้นวางทีวีซะเลย เสากลม ๆ ก็ซื้อจากร้านไม้เจ้าเดิมที่ทำราวม่านแต่เอาท่อนใหญ่กว่า ของตกแต่งจุก ๆ จิก ๆ ก็สะสมมาเรื่อย ๆ ครับ ไม่ใช่ของแพง จานที่แปะผนังก็ร้านขายจานที่แฟชั่นไอส์แลนด์ใบละสองร้อยกว่าบาท


          - มุมนี้มองเข้าไปจะเห็นทะลุไปถึงส่วนที่เป็นห้องทานข้าว มีชั้นเก็บไวน์ (คุณแม่เรียกชั้นวางขวดน้ำปลา) ดูหรูหราแต่จริง ๆ จะบอกว่าลงทุนน้อยมาก ซื้อชั้นวางขวดมาจากอิเกียอันละสามร้อยกว่าบาทมาวางต่อ ๆ กัน เอาไม้บัวที่เอาไว้เก็บมุมยึดขาตั้งของแต่ละชั้นให้ต่อ ๆ กันเป็นแนวยาว ตั้งขึ้นโดยใช้เหล็กตัวแอลยิงยึดขาด้านที่ติดผนังด้วยพุกให้ติดกับกำแพง รับรองความปลอดภัย ไม่ล้มแน่นอนครับ ไวน์ที่เก็นก็มีทั้งถูกและแพง มีกรองครูส์ปนมา 2-3 ตัวเก็บมาสิบกว่าปีไม่กล้าเปิด ปีเตอร์เวลล่าขวดละ 299 ก็มีนะครับ ทานง่าย


          - เล่นไลท์ติ้งส่องมาจากด้านล่าง ดู (เหมือนจะ) แพง มองทะลุไปเห็นห้องครัวแว้บ ๆ


          - ขอบคุณสำหรับทุกคำติชมนะครับ วันนี้มาต่อห้องครัวกัน จากห้องเดิมที่มีผนังกับฝ้า ตัดสินใจทาสีเขียวขี้ม้าครับ (ทาเอง) ตัดบัวด้วยสีขาว เห็นห้องเล็ก ๆ แค่นี้ทาสีอย่างเดียวหมดไปวันนึงเลยครับ ชุดครัวก็อิเกียครับ เฉพาะตัวเคาน์เตอร์ ท็อปไม้ ซิงค์ และตู้คัพบอร์ดติดผนังพร้อมติดตั้งหมดไปราว ๆ 8 หมื่น ฮู้ดดูดควัน เตาไฟฟ้า ตู้เย็นอีกต่างหากครับ รวม ๆ แล้วน่าจะแสนสามสำหรับห้องนี้ครับ


          - ไม้ท็อปเหลือเลยตัดเอามาพิงผนังตรงเตากันน้ำมันกระเด็น ตอนนี้ยังไม่ได้เซาะบัวครับ

          - ยกใส่หลังรถขับไปร้านวงกบให้เซาะบัวตามโค้งที่เราตัด ค่าแรง 50 บาท

          - จากฮู้ดดูดควันแสตนเลสธรรมดาจากโฮมโปร ลูปด้วยกระดาษทรายพ่นสีทองแดง วัดขนาดของกรอบไปให้ร้านกรอบรูปแถวบ้านทำกรอบมาสวม สภาพออกมาแบบที่เห็นครับ


          - ให้ดูกรอบรูปครับ รูปคือร้าน Union Oyster House เก่าแก่อายุ 200 กว่าปี ที่ Boston มีโอกาสได้ไปทานเลยเอาถุงกระดาษมาตัดใส่กรอบราคา 650 บาท ใช้แต่งห้องครัวได้ครับ


          - มาต่อห้องทานข้าวกันนะครับ จากที่เคยเล่าให้ฟังว่าผมกั้นห้องนั่งเล่นด้วยผนังอิฐก่อโค้งเพื่อกั้นอาณาเขตระหว่างห้องนั่งเล่นกับทานข้าว ผลออกมาตามรูปครับ ไม้ระแนงที่เพดานจำได้ว่าได้มาจากร้านไม้ที่บางโพพันกว่าบาท มาแขวนกับเพดานตกแต่งด้วยเถาองุ่นปลอมเดินไฟเอง ออกมาได้บรรยากาศไปอีกแบบ

          - ตั้งใจทำเป็นไอส์แลนด์สำหรับทำอาหารและนั่งทานไปด้วย ไป ๆ มา ๆ ใช้นั่งทานอาหารอย่างเดียวครับ ตัวตู้ก็มาจากชุดครัวบิวท์อินของอิเกียที่ซื้อเผื่อมาอีกชุด ซื้อท็อบไม้มาวางด้านบน ขากลึงที่รับท็อปก็มาจากไทวัสดุท่อนละไม่กี่ร้อย ประกอบเสร็จยึดติดกับพื้นด้วยเหล็กตัวแอลกันโยก

          - ตกแต่งผนังนี้ด้วยจานที่ซื้อจากร้านแฟชั่นไอส์แลนด์

          - ของตกแต่งผนังนี้ ต้องขอบคุณพี่ชายกับพี่สะไภ้ที่หิ้วมาฝากจากอังกฤษบ่อย ๆ ครับ


          มาถึงหน้าบ้านครับ เปรียบเทียบให้ดู Before & After

          - Before


          - After

          - เริ่มจากลงตีนตุ๊กแกใว้รอบตัวบ้านครับ บางคนก็บอกว่ามันจะทำให้ผนังเปื่อย แต่อยู่บ้านหลังนี้มาสิบปีก็ยังไม่เจออะไรนะครับ ผนังก็ยังสดใหม่ ด้านในก็ไม่มีรา เจองูตัวเล็ก ๆ ครั้งเดียวเลื้อยมาจากบ้านหลังอื่นที่ทำการต่อเติม

          - เริ่มจากลงอิฐบล็อคปูพื้นสีแดง ตามด้วยเอาอิฐมอญมาก่อแปะผนัง ส่วนนี้จ้างช่างทำครับ เหมาเป็นรายวันวันละ 800 บาท 3 วันเสร็จเราคุมงานเอง ในระหว่างคุมงานก็ทาสีวงกบไปด้วย สีอิฐมอญจริง ๆ มันจะเฉดเดียวกันนะครับ เจ้าของกระทู้เอากระดาษแข็งมาเจาะช่องเท่าขนาดของก้อนอิฐแล้วทาบพ่นสีเสปรย์เทาบ้างดำบ้าง คละกันไปให้ดูธรรมชาติ เล่นไลท์ติ้งฮาโลเจนส่องกวาดที่ผนังอิฐเป็นจุด ๆ ได้บรรยากาศอังกฤษหนาว ๆ เศร้า ๆ


          - มาต่อชั้นลอยนะครับ เดิมตั้งใจจะเอา Day Bed มาตั้งไว้นอนอ่านหนังสือ แต่หาที่สวย ๆ ถูกใจยังไม่เจอ เลยจัดเป็น X\'mas Corner ไปก่อนครับ มุมนี้ช่วงเดือนธันวาคมอากาศเริ่มหนาว เปิดเพลงคริสต์มาส นั่งห่มผ้าอ่านหนังสือ ลืมไปเลยครับว่าอยู่เมืองไทย

          - ขอออกตัวอีกครั้งนะครับว่า เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีอาชีพอะไรที่เกี่ยวกับการแต่งบ้าน มัณฑนากรหรือแวดวงการออกแบบใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นแค่พนักงานออฟฟิสตัวเล็ก ๆ วัน ๆ นั่งดูตัวเลข บ้านหลังนี้เกิดจากความชอบส่วนตัวเวลาไปเห็นไปเจออะไรที่ใหนสวย ๆ ก็จดก็จำ สำคัญคือก่อนที่จะแต่งแต่ละส่วน เจ้าของกระทู้จะยืนมองนั่งมองพื้นที่ตรงนั้นแล้วเอาภาพที่เราเคยชอบมาสวมลงไป อาศัยว่าพอมีความรู้เรื่องเจาะ ๆ ไช ๆ DIY บ้างนิดหน่อยแต่ละห้องแต่ละส่วน ใช้เวลาค่อย ๆ เก็บทีละเล็กละน้อย เสียตังค์เสียเวลาไปกับบ้านเราดีกว่าออกไปใช้จ่ายอย่างอื่น กว่าจะได้อย่างที่เห็นก็ร่วม ๆ หกปีครับ ขอย้ำนะครับว่า ใคร ๆ ก็ทำได้


          วันนี้มาต่อห้องนอนกันครับ ห้องนอนเป็นห้องสุดท้ายของบ้านที่เพิ่งจะแต่งเสร็จ หลังจากซื้อบ้านมาเกือบหกปี คือรอเจ้าสาวให้มาช่วยกันแต่ง สุดท้ายพอได้เจ้าสาว ห้องก็ออกมาแบบนี้ครับ

          - เตียงเสาดูเหมือนจะแพง ต่อราคาจากห้าหมื่นกว่า 2 ปีผ่านไปเหลือสองหมื่นหก ที่เค้าลดให้คงเป็นเพราะหาคนซื้อยาก ส่วนมากคิดว่าเตียงเสาคือต้องมีห้องนอนใหญ่ ๆ จริง ๆ เรามาจัดให้เข้าที่เข้าทางก็พอดูได้ครับ

          - โคมไฟช่อ 800 บาทจากร้านของเก่า


          - จากประสบการณ์ที่ทาสีห้องครัวเองคนเดียว...เข็ดเลยครับ เนื่องจากพื้นที่ห้องนี้เป็นสองเท่า ขอจ้างช่างทาสีดีกว่า ช่างมากัน 2 คนพอเปิดกระป๋องสีถึงกับอึ้ง บอกไม่เคยทาห้องสีแดงเข้มมาก่อนและเก็บขอบบัวสีดำด้วย ทายาก ทิ้งงาน ต้องหาช่างชุดที่สองมาแก้งาน คนนี้มาเดี่ยวครับมาพร้อมแปรงอันเดียวครึ่งวันจบ งานสวยเลย ห้องนี้ทั้งห้องจ้างช่างอย่างเดียวคือทาสี นอกนั้น เจ้าของกระทู้จัดการเองหมดครับ

          - เตาผิงพี่ชายหิ้วมาฝาก 15 กิโลกรัม ก็อุตส่าห์หอบมาได้เนอะ