ฮวงจุ้ยคอนโด แบบไหนอยู่แล้วดี เลขห้องเป็นมงคล

1. ทำเลที่ตั้ง

          สิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของการเลือกซื้อคอนโดก็คือทำเลที่ตั้ง โดยเราควรเลือกคอนโดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย สะดวกสบายต่อการเดินทาง มีสภาพแวดล้อมที่ดี ตัวอาคารมีความสมมาตร เลี่ยงทำเลใกล้ทางด่วนหรืออยู่ใกล้อาคารที่มีระดับความสูงที่สูงกว่าคอนโด และไม่มีโครงสร้างแหลม ๆ ของสิ่งก่อสร้างใด ๆ ชี้มาที่ตัวคอนโด เพราะจะเป็นการขวางทางพลังงานที่ดีและนำโชคร้ายมาให้
2. ชั้นและเลขห้อง


          การเลือกชั้นและเลขห้องตามหลักฮวงจุ้ย สามารถทำได้ด้วยธาตุทั้ง 5 (ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ และธาตุไฟ) ซึ่งทางหลักฮวงจุ้ยจีนเชื่อกันว่า ธาตุต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กับตัวเลข โดยเราสามารถรับรู้ธาตุของเราได้ผ่านปีนักษัตร จากนั้นก็ดูความสัมพันธ์กันระหว่างธาตุ เพื่อบอกว่าชั้นและเลขไหนที่อยู่แล้วดี ชั้นและเลขไหนที่พออยู่ได้ และชั้นและเลขไหนที่ต้องห้าม ซึ่งเมื่อสรุปแล้ว ผลของธาตุและราศีต่าง ๆ เป็นดังนี้

          ธาตุดิน (ฉลู ปีมะโรง มีมะแม และปีจอ) : ชั้นและเลขห้องที่ดีควรลงท้ายด้วยเลข 5, 0, 2, 7 ส่วนชั้นและเลขห้องที่พออยู่ได้ จะลงท้ายด้วย 1 และ 6 ส่วนชั้นและเลขห้องที่ต้องห้าม จะลงท้ายด้วย 3, 8, 4, 9

          ธาตุทอง (ปีวอกกับปีระกา) : ชั้นและเลขห้องที่ดีควรลงท้ายด้วยเลข 4, 9, 5, 0 ส่วนชั้นและเลขห้องที่พออยู่ได้ จะลงท้ายด้วย 3 และ 8 ส่วนชั้นและเลขห้องที่ต้องห้าม จะลงท้ายด้วย 1, 6, 2, 7

          ธาตุน้ำ (ปีชวดกับปีกุน) : ชั้นและเลขห้องที่ดีควรลงท้ายด้วยเลข 1, 6, 4, 9 ส่วนชั้นและเลขห้องที่พออยู่ได้ จะลงท้ายด้วย 2 และ 7 ส่วนชั้นและเลขห้องที่ต้องห้าม จะลงท้ายด้วย 5, 0, 3, 8

          ธาตุไม้ (ปีขาลกับปีเถาะ) : ชั้นและเลขห้องที่ดีควรลงท้ายด้วยเลข 3, 8, 1, 6 ส่วนชั้นและเลขห้องที่พออยู่ได้ จะลงท้ายด้วย 5 และ 0 ส่วนชั้นและเลขห้องที่ต้องห้าม จะลงท้ายด้วย 2, 7, 4, 9

          ธาตุไฟ (ปีมะเส็งกับปีมะเมีย) : ชั้นและเลขห้องที่ดีควรลงท้ายด้วยเลข 2, 7, 3, 8 ส่วนชั้นและเลขห้องที่พออยู่ได้ จะลงท้ายด้วย 4 และ 9 ส่วนชั้นและเลขห้องที่ต้องห้าม จะลงท้ายด้วย 1, 6, 5, 0

          ***หมายเหตุ ปีฉลู ปีมะโรง มีมะแม และปีจอ : ธาตุดิน, ปีวอกกับปีระกา : ธาตุทอง, ปีชวดกับปีกุน : ธาตุน้ำ, ปีขาลกับปีเถาะ : ธาตุไม้ และปีมะเส็งกับปีมะเมีย : ธาตุไฟ*
3. ประตูห้อง

          นอกจากนี้เรายังควรเลือกใช้ประตูห้องที่เปิดเข้าไปด้านใน เพราะประตูแบบนี้ถือเป็นประตูที่ดี เนื่องจากเปรียบเสมือนการผลักพลังงานต่าง ๆ เข้าสู่ห้อง ต่างจากประตูแบบเปิดออก ที่เปรียบเสมือนการผลักพลังงานออกจากห้องนั่นเอง
4. ลักษณะห้อง

          สำหรับการเลือกห้องนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะเป็นสถานที่พักอาศัยของเรา ฉะนั้นก่อนตัดสินใจควรดูลักษณะภาพรวมและจุดต่าง ๆ ของห้องประกอบกันไปด้วย ดังนี้

          - ควรเลือกห้องที่มีรูปทรงธรรมดา สมส่วน ดูดี และสะอาด

          - ควรเลือกห้องที่พลังงานชี่ไหลเวียนได้สะดวก โดยถ้าเลือกไม่ได้ให้ใช้การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ แก้ฮวงจุ้ยแทน

          - ควรเลือกห้องที่อยู่ชั้นสูง ๆ เพราะจะทำให้ได้รับแสงจากธรรมชาติมากกว่า วิวสวยกว่า และได้รับพลังงานชี่ง่ายและมากกว่าห้องด้านล่าง

          - หากเป็นห้องสตูดิโอควรเลือกห้องที่มีอย่างน้อย 1 หน้าต่าง เพื่อให้มีการไหลเวียนภายในห้อง

          - ไม่ควรเลือกห้องที่ตรงกับลิฟต์หรือบันได เพราะจะเป็นพื้นที่ที่พลุกพล่าน ซึ่งก็จะทำให้พลังงานของเราพลุกพล่านตามไปด้วย

          - ไม่ควรเลือกห้องที่เปิดประตูเข้าไปแล้วเจอกับกำแพงทันที

          - ไม่ควรเลือกห้องที่เปิดเข้าไปแล้วเจอครัวทันที

          - ไม่ควรเลือกห้องที่ประตูห้องกับประตูระเบียงตรงกัน

          - ไม่ควรเลือกห้องที่อยู่ในมุมอับ ริม หรือสุดทางเดิน เพราะเปรียบเสมือนทางตัน ทำให้ชีวิตไม่มีทางออก

          - สำหรับการแก้ฮวงจุ้ย ไม่ควรใช้โทนสีแดงตกแต่งทิศเหนือของห้อง และไม่ควรใช้โทนสีฟ้าหรือสีดำตกแต่งห้องบริเวณทิศใต้ 

          จะเห็นว่าการเลือกห้องตามหลักฮวงจุ้ยไม่ได้ยุ่งยากหรือมีอะไรซับซ้อน แถมบางข้อก็ยังดูมีเหตุผลและน่าเชื่อถืออีกต่างหาก ฉะนั้นถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อคอนโดอย่างไรดี ลองนำหลักฮวงจุ้ยเหล่านี้ไปปรับใช้ดูก็ได้นะคะ 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก thespruce, homeonline, yourchineseastrology และ fengshuinexus