เจ๋งอะ ! Tiny House สัญชาติไทย ไม่มีที่ดินก็สร้างบ้านอยู่เองได้

          Tiny House สัญชาติไทย แบบบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ขนาด 14.4 ตารางเมตร ไม่มีที่ดินก็สร้างบ้านอยู่เองได้

          สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรก หากไฟล์ภาพ ข้อความ เว้นวรรคบรรทัดตกหล่น ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ เจ้าของกระทู้ภูมิลำเนาเดิมเป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาใช้ชีวิตเรียนและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านพี่ชายที่นนทบุรี เป็นคนไม่ชอบอยู่คนเดียว แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ต้องการซื้อคอนโด เพราะไม่ได้ทำงานในเมืองที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบ หรือถ้าซื้อคอนโด ทาวน์โฮม บ้านจัดสรรนอกเมืองก็ไม่ใช่คำตอบ อยากอยู่ใกล้ชิดครอบครัวมากกว่า แล้ววันหนึ่งก็ได้รู้จักเจ้า Tiny house โห...เฮะ…มันคืออะไรเนี่ย เห็นแล้วหลงรักเลย นี่แหละคำตอบของฉัน บ้านที่ฉันอยากมีคือแบบนี้ Home is where the heart is เพราะคนแบบฉันใช้ใจนำทาง


          - Tiny house มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปจนถึงยุโรป นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และเมื่อไม่นานมานี้ สิงคโปร์เพื่อนบ้านเราก็มีบริษัทชื่อ Big tiny รับสร้างและหาสถานที่ไปวางให้ด้วย โดยถ้าหากอยากรู้เพิ่มว่า Tiny House คืออะไร ตามไปอ่านที่ คุณอุ้ม สิริยากร เขียนไว้ใน readthecloud ได้นะคะ คุณอุ้มอาศัยอยู่ในเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของ Tiny house เลยค่ะ


          - รูปแบบของ Tiny house ออกแบบตามการใช้งานและงบประมาณของผู้อยู่ แต่ขนาดจะถูกกำหนดด้วย รย.16 ตามพรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522


          - เมื่อหัวใจเรียกร้อง ก็เริ่มลงมือนั่งตัดโฟม แปะ ๆ ติด ๆ มองฝันตัวเอง นั่งหาข้อมูล ดูคลิป ศึกษาวิธีการ วัสดุ ประเมินราคาคร่าว ๆ


          - พี่ชายของเจ้าของกระทู้เป็นวิศวกรช่วยดูงานโครงสร้างและงานระบบทุกอย่าง ชุดช่วงล่างนำเข้าจากอเมริกา สามารถขันนอตติดกับฐานบ้านได้เลย มีระบบกันสะเทือนและเบรกในตัว รับน้ำหนักสูงสุดได้ 5 ตัน น้ำหนักเพื่อความปลอดภัยจะอยู่ที่ 3.5 ตัน นำเข้าเสียภาษีถูกต้อง ใช้เวลาสั่งซื้อจัดส่ง 2 เดือน ของใหม่แกะกล่องส่งถึงหน้าบ้าน


          - เริ่มประกอบในเวิร์กชอปข้างบ้าน แชสซีและฐานบ้านจะเป็นชิ้นงานเดียวกัน ขนาดของบ้านกว้าง 2.4 เมตร ยาว 6 เมตร เราใช้เหล็กของสยามยามาโตะ ซึ่งมีมาตรฐานกว่าเหล็กที่ขายตามร้านทั่วไปในราคาที่เท่ากัน สามารถตรวจสอบคุณภาพของวัสดุย้อนหลังไปถึงโรงงานได้พร้อมใบ Certificate รับรองคุณภาพวัสดุ หลังเล็กแต่ความละเอียด เรา 2 พี่น้องใส่เต็มทุกตารางนิ้ว พี่ชายลงมือเชื่อมเอง พี่น้อย ช่างประจำบ้านเป็นผู้ช่วย ส่วนเจ้าของกระทู้ในขั้นตอนนี้ช่วยหยิบของ ส่งของ


          - เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อเชื่อมฐานบ้านเสร็จแล้วใส่ชุดล้อ ลากไปชุบฮอทดิพ กัลวาไนซ์ (Hot-dipped Galvanized) รวมทั้งเสาและชิ้นส่วนประกอบอื่น ๆ ของบ้าน


          - ค่าความหนาสังกะสีที่ชุบได้มีค่าสูงสุด 142 ไมครอน อยู่กันยาว ๆ ไป คนผุบ้านไม่ผุ

          เมื่อฐานบ้านพร้อมแล้วก็เริ่มขึ้นโครงบ้าน ข้อแม้ของเจ้าของกระทู้คือ เคลื่อนย้ายได้ในอนาคต ลากกลับไปไว้บ้านที่ต่างจังหวัด หรือแล้วแต่จังหวะชีวิตในอนาคต ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยในการลากจึงให้น้ำหนักรวมทั้งหมดไม่เกิน 3.5 ตัน โดยทั่วไปของ Tiny house น้ำหนักจะอยู่ในราว ๆ นี้ จะไม่เบาเหมือน Caravan เพราะการใช้งานและวัสดุที่ใช้ต่างกัน


          - โครงหลักของบ้านจะเป็นเหล็กชุบกัลวาไนซ์และโครงคร่าวกัลวาไนซ์ ตัวบ้านกว้าง 2.4 เมตร ยาว 6 เมตร และสูง 3 เมตร โปร่ง ๆ สบาย ๆ


          - งานระบบน้ำ เดินท่อน้ำร้อนและน้ำเย็น ใช้ก๊อกผสมทุกจุด เดินท่อใต้พื้นบ้านและซ่อนภายในผนัง ไม่มีงอกออกมานอกผนังบ้าน จุดเข้าน้ำดี จุดออกน้ำเสียอยู่ใต้พื้นบ้านทั้งหมด มีการยึดติดด้วยแคลมป์อย่างแน่นหนา ทดสอบระบบว่าไม่รั่วไม่ซึม ก่อนปิดผนัง


          - งานระบบไฟ  สายไฟร้อยเฟล็กซ์ป้องกันการบาดและหนูแทะ มีระบบกราวด์แยกเบรกเกอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า จุดต่อไฟเข้าบ้านเป็นพาวเวอร์ปลั๊ก ถอดเคลื่อนย้ายได้สะดวก ส่วนระบบสุขาภิบาล ของเสียจากห้องน้ำเจ้าของกระทู้เลือกฝังถัง Sats ไว้ใต้พื้น เพราะไม่อยากเดินไปเทแบบฝรั่ง


          - พื้นบ้านเป็นไม้อัดหนา 20 มิลลิเมตร ทากันซึม ผนังภายนอกและผนังภายในเป็นไม้อัดหนา 10 มิลลิเมตร เราใช้ไม้อัดกันน้ำของไต้หวันทั้งหลัง (ช่วงที่สร้างเป็นหน้าฝนพอดี เราเอาไม้อัดทดลองตากแดด ตากฝน แช่น้ำอยู่หลายเดือน ไม่มีการพองใด ๆ เจ้าของกระทู้ซื้อที่บางโพ) เราเลือกใช้ไม้อัดแทนสมาร์ทบอร์ดเพราะต้องการน้ำหนักที่เบากว่า และใส่ฉนวนกันความร้อนรอบบ้าน

          - Wrap บ้านด้วยแผ่นกันน้ำของ Tyvek ความชื้นเข้าไม่ได้ แต่ระบายออกได้เหมือนชุดกันสารเคมี 1 ม้วนใช้ได้ 1 หลังพอดี ส่วนประตูหน้าต่างใช้ของ Windsor มีขอบยางกันน้ำ

          - ภายนอกปิดด้วยแผ่นเมทัลชีท เป็นลอนแบบมีคลิปล็อค ไม่เห็นหัวสกรู สีเทาด้าน จบงานด้านนอก

          มาเริ่มงานตกแต่งภายใน Tiny house ของเจ้าของกระทู้นั้นขนาด 2.4x6 เมตร ด้วยพื้นที่ 14.4 ตารางเมตร จึงแบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความชอบ เจ้าของกระทู้ชอบกิน ชอบทำขนม เสื้อผ้าของสะสมไม่ได้เยอะ ครัวเลยใหญ่จัดเต็ม ส่วนที่นอนรองลงมา มีที่นั่งทำงาน นั่งกินข้าว ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นที่เล็ก ๆ ถ้ามีการจัดสรรที่ดีก็ใช้สอยได้สะดวกสบายและเพียงพอ

          - พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องยางกันน้ำ ซื้อที่บางโพพร้อมติดตั้ง พื้นห้องน้ำทากันซึมก่อนปูกระเบื้อง และยาแนวด้วยอีพ็อกซี่ไม่ต้องขัดล้างกันบ่อย ๆ


          - ผนังภายในปิดผิวด้วยลามิเนต ชุดครัวบิวท์อินใช้แผ่นพลาสวูดปิดผิวด้วยลามิเนต กันน้ำ ไม่ผุ ไม่พอง ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของใช้ของอิเกีย ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำน้ำร้อน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ แอร์ ติดตั้งสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ฝักบัว ก๊อกน้ำ

          - ด้านบนของเพดานห้องน้ำเป็นที่เก็บของ ไม่ได้ทำเป็นชั้นนอน เนื่องจากเจ้าของกระทู้อยู่คนเดียวจึงอยากให้ห้องน้ำโปร่ง ๆ ความสูงของห้องน้ำ 2.20 เมตร ชูมือขึ้นแล้วหมุน ๆ กางแขนขึ้นและลงแบบสบาย ๆ


          - เริ่มตกแต่งใส่รายละเอียด ซื้อเฟอร์นิเจอร์ เติมพร็พให้มีสีสัน ไปช้อปอิเกีย


          - โซนนั่งเล่นและที่นอนเป็น Sofa Bed


          - ถ้าวิวหน้าต่างที่มองออกไป เป็นภูเขา ทะเล จะเพิ่มความรื่นรมย์


          - พื้นที่ครัว จัดสรรช่องเก็บของ

          - ที่นั่งทำงาน พื้นที่จัดเก็บของ เก็บเสื้อผ้าใช้แล้ว

          - ประตูห้องน้ำ บานตู้เสื้อผ้า

          - ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้ง

          พื้นที่ 14.4 ตารางเมตร สำหรับเจ้าของกระทู้นั้นพออยู่ เพราะเราทำกิจกรรมได้แค่อย่างเดียวในเวลานั้น ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อบ้าน  MY14 Tiny house และเจ้าของกระทู้ก็เกิดวันที่ 14 ชีวิตย่อส่วน มีแต่ของจำเป็น ลดของที่ไม่จำเป็น พอเราใช้ชีวิตมา ณ จุดหนึ่งความชอบจะชัดเจนขึ้น จะเหลือของในชีวิตไม่กี่อย่างที่เราต้องการจริง ๆ  ขึ้นบ้านใหม่ตรงกับวันเกิดหลานพอดี อบเค้กวันเกิดให้หลานสาว กิจกรรมปิดเทอม กิน เล่น นอน

          ความสุขเกิดขึ้นง่ายรอบตัวเรา เป็นความสุขในพื้นที่ของสายใยแห่งครอบครัว ขอบคุณพี่ชายที่สนับสนุน ช่วยเหลือ และแนะนำจนสำเร็จ ขอบคุณพี่น้อย พี่ตู่ ช่างประจำบ้านของเรา  อยู่แล้วมีความสุข

          ใครสนใจยินดีให้คำปรึกษาและเยี่ยมชมบ้านได้นะคะ พื้นที่ 14.4 ตารางเมตร มันก็พอใช้ชีวิตอยู่ได้จริง ๆ หวังว่าประชากร Tiny house ในเมืองไทยจะเพิ่มขึ้นเป็นชุมชน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ลลัลดา เลี้ยงรักษา