สำหรับคุณแม่เวิร์กกิ้งวูแมนที่ต้องรับผิดชอบทั้งงานนอกบ้านและงานภายในบ้าน คงจะเหน็ดเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะต้องจัดการของใช้ในบ้านแล้ว ยังต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ให้กับลูก ๆ ด้วย แถมลูก ๆ ก็ใช่ย่อยเพราะทั้งของเล่นของใช้มักวางระเกะระกะเต็มห้องไปหมด แบบนี้คงต้องจัดการกันซะหน่อยแล้วล่ะ
เคล็ดลับจัดเก็บของใช้
1. ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกล่องเก็บของใช้ ตะกร้าใส่ของเล่น เรารู้ว่าคุณซื้อให้ลูกได้อยู่แล้วล่ะ แต่ถ้าคุณอยากสอนพวกเขา ก็ควรให้ลูกซื้อตะกร้าหรือกล่องเก็บของด้วยตัวเอง เพราะเขาจะเห็นคุณค่าของมันมากกว่าของที่เขาได้มาฟรี ๆ และลูกก็หาทางใช้มันบ่อยขึ้น โดยการเก็บของเล่นของใช้ของตัวเองไปไว้ในกล่องหรือตะกร้าที่ซื้อมานั่นเอง 2. เลือกกล่องหรือตะกร้าที่มีสีสันแตกต่างกัน เพราะสีสันต่าง ๆ จะทำให้ลูกจำได้ง่ายขึ้นว่าตระกร้าหรือกล่องไหนใส่ของอะไรบ้าง เช่น ตะกร้าสีชมพูของลูกสาวเอาไว้ใส่ตุ๊กตาสุดน่ารัก ส่วนตะกร้าสีฟ้าเอาไว้เก็บตัวต่อเลโก้ของลูกชาย เป็นต้น ซึ่งวิธีการจำสีกล่องนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะ 3. สำหรับเด็กเล็ก ๆ พวกเขาอาจะยังไม่รู้ประสีประสา ฉะนั้นการใช้ทฤษฎีสีของเราอาจจะไม่ได้ผล แต่คุณสามารถสอนลูกได้โดยการนำภาพของเล่นน่ารัก ๆ ไปติดไว้ด้านหน้าของกล่องหรือตะกร้าเก็บของ หากลูกรื้อของเล่นออกมาคุณก็ชวนเขาเล่นเกมจับคู่ซะเลย โดยให้ลูกดูรูปหน้ากล่องแล้วจับของที่มีหน้าตาใกล้เคียงกันไปใส่ แค่นี้คุณก็ไม่ต้องเก็บของเองแล้ว แถมยังได้มีกิจกรรมกับลูกน้อยให้เขาได้เรียนรู้อีกด้วย 4. บางครั้งคุณอาจจะต้องวุ่นวายกับการหาของใช้ในห้องลูก ซึ่งพอถึงเวลาจริง ๆ สิ่งของที่คุณต้องการก็ไม่ค่อยออกมาให้เห็นซะด้วย ฉะนั้นจากนี้ก็จัดเรียงชั้นวางของซะใหม่ เอาของที่ต้องใช้บ่อย ๆ ไว้ด้านล่างและเรียงการใช้ขึ้นไปตามลำดับ ลูกของคุณจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการหยิบใช้สิ่งของด้วย เช่น หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ให้ลูกหยิบผ้าขนหนูจากชั้นล่างสุดมาเช็ดตัว แล้วหยิบแป้งชั้นสองมาโรยตัว หลังจากใช้เสร็จก็เอาชุดนอนจากชั้นบนสุดในตู้มาใส่ นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาของคุณได้แล้ว ยังเป็นการฝึกฝนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเองได้ดีทีเดียวเคล็กลับการรักษาความสะอาด
1. สิ่งที่คุณควรจะสอนลูกเพิ่มเติม นอกจากการจัดเก็บสิ่งของแล้วก็คือการรักษาความสะอาดไม่ว่าจะเป็นบนเตียงนอน ในตู้เสื้อผ้า หรือรอบ ๆ ห้อง ลองให้ลูกหัดเก็บเตียงนอนให้เป็นระเบียบทุกครั้งที่ลุกจากเตียงดูสิ หากในห้องนอนของลูกมีถังขยะก็ให้นำไปทิ้งเพราะเศษขนมต่าง ๆ จะดึงดูดพวกแมลงวันและแมลงสาบเข้ามา ดังนั้นอย่าให้เหลือเศษขยะไว้ในห้องเชียว 2. สอนลูกให้รู้จักจัดระเบียบตู้เสื้อผ้า และทำความสะอาดห้องอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งถึงสองครั้ง และถ้าเป็นไปได้สอนให้ลูกนำผ้าไปซักด้วยก็ดีนะ เขาจะได้รู้จักรับผิดชอบและช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น 3. รู้ ๆ กันอยู่ว่าลูกโตเร็วขนาดไหน ทำให้คุณต้องซื้อเสื้อผ้าและรองเท้ามาเปลี่ยนให้เขาบ่อย ๆ ดังนั้นทุก ๆ เดือนควรชวนลูก ๆ มาดูสิว่ามีของหรือเสื้อผ้าชิ้นไหนบ้างที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ก็จัดการเก็บใส่ถุงแล้วนำไปให้ลูก ๆ ของเพื่อนคุณก็ได้เผื่อพวกเขาอาจจะจำเป็นต้องใช้ หรือไม่ก็พาลูกเอาของไปบริจาคด้วยกันซะเลย เขาจะได้เรียนรู้การแบ่งปันสิ่งของให้กับคนอื่นด้วย 4. หากลูกของคุณยังดื้อดึงไม่ยอมเอาไปบริจาค และงอแงจะเก็บของเอาไว้คนเดียว เราก็มีวิธีแก้ไขนิสับแบบนี้มาแนะนำนั่นคือ ให้ลูกเอาของเก่ามาแลกของใหม่กับคุณ จะเป็นของเล่นหรือของใช้ก็ได้ จะทำให้คุณกำจัดของเก่าทิ้งไปได้แล้วล่ะ เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าวิธีจัดการห้องของลูกนั้นไม่ยากเลย แค่คุณใช้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็คงช่วยประหยัดเวลาของคุณไปได้เยอะเลยล่ะ ทีนี้หลังจากกลับมาที่บ้านก็ไม่ต้องหงุดหงิดใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้อีกแล้ว เก็บใบหน้าคุณแม่จอมเฮี้ยบเอาไว้ แล้วยิ้มแย้มให้กับลูก ๆ ที่กำลังรอคุณอยู่ที่บ้านดีกว่า
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
