x close

7 สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนคิดจ้างแม่บ้าน

 7 สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนคิดจ้างแม่บ้าน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           สมัยนี้การทำงานบ้านเป็นเรื่องไม่ถนัดสำหรับคนรุ่นใหม่หลายคน อีกทั้งค่าครองชีพที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จนคนส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตในแต่ละวันหมดไปกับการทำงานนอกบ้านกันซะหมด เลยไม่มีใครทำหน้าที่แม่บ้านดูแลทำความสะอาด แถมกว่าจะถึงบ้านก็หมดเรี่ยวแรงจัดการบ้านไปซะแล้ว หลายคนจึงเริ่มมองหาตัวแทนที่จะมาช่วยทำความสะอาดบ้านและจัดแจงความเรียบร้อย ๆ ต่าง ๆ แทน แต่การจ้างแม่บ้านก็ไม่ใช่เพียงแค่รับมาแล้วจบเลยเท่านั้น ลองมาพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนคิดจ้างแม่บ้านกันดีกว่าค่ะ

1. ลองคิดดูดี ๆ ว่าจำเป็นหรือเปล่า

           ก่อนจะคิดจ้างแม่บ้านมาเนี่ย ลองถามตัวเองดูสิว่าคุณจำเป็นต้องใช้แม่บ้านจริง ๆ หรือแค่เพราะความขี้เกียจของตัวเองกันแน่ ถ้าคุณเป็นแม่บ้านอยู่แล้ว การอยู่บ้านเฉย ๆ ทั้งวันก็น่าจะมีเวลาให้คุณทำความสะอาดนี่นา และถ้าคิดว่าบ้านใหญ่จริง ๆ จนทำความสะอาดไม่ไหว อาจจ้างคนมาทำความสะอาดใหญ่นาน ๆ ครั้งแทนก็ได้ เชื่อเถอะว่าประหยัดกว่าการจ้างแม่บ้านประจำเยอะเลยล่ะ แต่ถ้าคุณเป็นคนทำงานนอกบ้านที่ไม่มีเวลาจริง ๆ ก็โอเค


2. เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

           ลองเทียบกันดูว่าการจ้างแม่บ้านประจำ หรือใช้บริการทำความสะอาดเป็นครั้งคราวจะดีกว่ากัน ทั้งนี้จริง ๆ แล้วทั้งสองแบบก็มีข้อเสียต่างกันไปทั้งคู่นั่นแหละ มันสำคัญตรงที่ว่าแบบไหนเหมาะกับบ้านของคุณมากกว่าเท่านั้นเอง โดยบริการทำความสะอาดนั้นจะรวดเร็วว่องไวกว่า แต่ควรใช้แค่นาน ๆ ครั้งเท่านั้น ไม่อย่างนั้นได้จ่ายแพงแน่ ในขณะที่แม่บ้านอาจทำให้คุณมีภาระรายจ่ายแบบตายตัวซึ่งหารออกมาเป็นวันแล้วราคาถูกกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้แม่บ้านที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพกันทุกคน ดังนั้นลองชั่งน้ำหนักดูความเหมาะสมด้วยนะคะ


3. เรียนรู้เรื่องกฏหมายให้ดี

           อย่าคิดว่าการจ้างคนมาทำงานเป็นเรื่องง่าย ๆ เด็ดขาด ควรเช็คกฎหมายต่าง ๆ ให้ดีด้วยว่าคุณควรให้ค่าแรงเขาเท่าไหร่ และถ้าจ้างแรงงานต่างด้าวต้องไปแจ้งหน่วยงานไหนหรือไม่ มิฉะนั้นเกิดมาเดือดร้อนเอาทีหลังจะหาว่าไม่เตือน ที่สำคัญอย่าลืมเรื่องให้ความสำคัญกับข้าวของที่อาจสูญหาย หรือความเป็นส่วนตัวที่จะลดลง หากมีสัญญาอะไรที่ป้องกันได้ ให้รีบจัดการไว้แต่เนิ่น ๆ เลยก็ดี


4. ตกลงเรื่องค่าจ้างให้ดี

           คิดเสียก่อนว่าคุณจะให้ค่าจ้างการทำงานเป็นชั่วโมง รายวัน หรือจะให้เป็นค่าจ้างรายเดือนกันแน่ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป โดยค่าจ้างต่อชั่วโมงอาจทำให้แม่บ้านพยายามอู้ให้งานเสร็จช้าลง เพื่อยืดเวลาขึ้นไปอีก ในขณะที่ค่าจ้างต่อวันอาจทำให้แม่บ้านรีบทำให้เสร็จเร็ว ๆ และไม่สะอาดเท่าที่ควร ขณะที่การจ้างรายเดือนคุณเองจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงอาหารการกินให้กับพวกเขาด้วย คุณจึงควรพิจารณาเรื่องพวกนี้ให้ดี ว่าจะจัดค่าจ้างอย่างไรให้คุ้มที่สุด


5. ถามจากเพื่อน ๆ

           การจ้างคนแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยนอยู่กับข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงของคุณออกจะเป็นเรื่องเสี่ยงอยู่สักหน่อย เพราะสมัยนี้ดูหน้าใช่ว่าจะรู้ใจ เห็นหน้าซื่่อ ๆ บางคนอาจซ่อนพฤติกรรมร้าย ๆ เอาไว้ จนคุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นการเลือกจ้างคนที่คนรู้จัก จากคำแนะนำของเพื่อน หรือคนในครอบครัว ก็น่าจะปลอดภัยกว่า แต่ถ้าอยากให้มั่นใจอีกหน่อยก็เลือกแม่บ้านจากบริษัทจัดหางานที่การันตีความรับผิดชอบด้วย ก็จะทำให้สบายใจมากขึ้น


6. สัมภาษณ์ก่อนด้วย

           งานแม่บ้านก็เหมือนงานอื่น ๆ ที่คุณควรสัมภาษณ์ก่อนจะรับเข้าทำงาน จะได้ลองคุยดูจนพอรู้นิสัยใจคอหรือประวัติคร่าว ๆ บ้าง ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องจัดสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการนักหรอก แค่นั่งคุยกันสบาย ๆ ก็พอแล้ว ซึ่งคำถามหลัก ๆ ที่คุณควรถามก็คือเรื่องงานการก่อนหน้านี้ ภูมิลำเนา และครอบครัวของเขานั่นเอง


7. จัดช่วงทดลองงาน

           ไม่ใช่ว่าพอสัมภาษณ์เสร็จแล้วถูกใจ ก็ควรจ้างงานเลยทันทีหรอกนะคะ เพราะต่อให้พูดจาดีแค่ไหน ก็รับรองเรื่องผลการทำงานไม่ได้หรอก ดังนั้นก่อนจะตกลงว่าจ้างกันเป็นเรื่องเป็นราว คุณควรจัดช่วงทดลองงานก่อน เป็นระยะเวลาเท่าไหร่ก็ว่าไป เพื่อทดสอบว่าเขาจะทำความสะอาดได้เรียบร้อยหมดจดถูกใจคุณหรือเปล่า อ้อ..แล้วก็อย่าลืมตกลงเรื่องค่าจ้างในช่วงทดลองให้ดีด้วยล่ะ


           ทั้งนี้หลังจากจ้างแม่บ้านแล้วก็อย่าเพิ่งชะล่าใจเกินเหตุ จนวางทรัพย์สินมีค่าทิ้งไว้เด็ดขาด ควรเก็บใส่ลิ้นชักหรือเซฟแล้วล็อคให้แน่นด้วย ไม่อย่างนั้นเกิดหายขึ้นมา จะมาเสียใจทีหลังก็ไม่ทันแล้วนะคะ








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนคิดจ้างแม่บ้าน อัปเดตล่าสุด 11 มกราคม 2556 เวลา 14:24:28 17,281 อ่าน
TOP