x close

บ้านย้อมแมวเกลื่อนตลาด ระวังไว้ก่อนเสียรู้ !

บ้านย้อมแมวเกลื่อนตลาด ระวังไว้ก่อนเสียรู้

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           พบบ้านยุคใหม่ใช้วัสดุไม่เหมาะสม พร้อมงัดเทคนิคมาซิกแซ็กเอาเปรียบผู้บริโภค ย้ำ ! ก่อนซื้อควรระวังให้ดี

           วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556 นายดัมพ์ ผดุงวิเชียร หัวหน้าภาควิชาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยถึงสถานการณ์บ้านจัดสรรในปัจจุบันว่า บ้านที่ใช้วัสดุไม่มีคุณภาพยังคงมีอยู่ ตัวอย่างเช่น การเอาโฟมธรรมดาใส่ผนังแทนโฟมอีพีเอส (Expandable Polystyren) ของโครงการจัดสรรโครงการหนึ่งตามที่เป็นข่าว ซึ่งถือเป็นความสะเพร่าของช่าง แต่ประเด็นคือหน้าที่หนึ่งของผู้ประกอบการต้องทำตามสเปคที่สถาปนิกหรือหน่วยงานทางการกำหนด และส่วนใหญ่อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่เสี่ยงต่อการใช้วัสดุไม่เหมาะสม คืออาคารสูง

           โดย นายดัมพ์ กล่าวว่า ตอนนี้หลายบริษัทเริ่มตื่นตัวมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าวิศวกรไม่สามารถมานั่งดูช่างทำงานได้ 24 ชั่วโมง แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์กับผู้รับเหมาต้องมีความเชื่อใจกันและกัน โดยปัญหาที่มักเกิดขึ้นก็คือ

          1.  ความเร่งรีบของการเปิดโครงการ ทำให้คนงานต้องเร่งเก็บงานจนเกิดปัญหา

          2.  บริษัทไม่สามารถควบคุมลูกน้องได้ และอาจมีการไปว่าจ้างผู้รับเหมาอื่นมาช่วย เมื่อมีคนงานไม่พอ ทำให้ไม่สามารถควบคุมการทำงานของบริษัทที่มารับช่วงต่อได้

           ทั้งนี้ บ้านสำเร็จรูปกับบ้านที่ดาวน์ระหว่างการก่อสร้างก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งบ้านที่ดาวน์แล้วค่อยก่อสร้าง เรามีโอกาสเข้าไปดูระหว่างก่อสร้างได้ จึงมีความเสี่ยงต่อการยัดไส้น้อยกว่า แต่หากเป็นบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว แม้โอกาสเสี่ยงในโครงการล้มอาจมีน้อย แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่อยู่ใต้กำแพงบ้านคืออะไร ถือเป็นข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน


นอกจากนี้ ในการซื้อบ้านสิ่งที่ควรรู้และควรเช็กให้ดี มีดังนี้ ..

         เช็กคุณภาพของบริษัทว่ามีความมั่นคงพอไหม หากเกิดปัญหาเศรษฐกิจ

         ดูคุณภาพในการก่อสร้าง เช่น นิยมใช้การสร้างแบบไหน ใช้เวลาก่อสร้างนานแค่ไหน แล้วพิจารณาว่าอันไหนเหมาะกับตัวเอง

         ควรถามเซลส์ก่อนซื้อบ้านว่าการก่อสร้างใช้วิธีนำวัสดุสำเร็จรูปมาต่อกัน หรือค่อย ๆ ก่อขึ้นมาทีละส่วน เพราะหากใช้วัสดุไม่เหมาะสมก็จะเกิดแตกร้าวของวัสดุที่ต่างประเภทกัน ซึ่งเจอบ่อยในบ้านจัดสรร โดยวัสดุไม่สามารถยึดตัวติดกันได้ และในระยะยาวก็จะแยกออกเรื่อย ๆ

         ดูสภาพพื้นดินในการก่อสร้าง ว่ามีการอัดตัวแน่นแค่ไหน เพราะบางโครงการมีการถมดินในช่วงเวลาที่สั้นเกินไป ทำให้ดินยังไม่เซตตัวดี ยังมีอัตราการยุบตัวอยู่ ซึ่งพบบ่อยมากในบ้านจัดสรรที่มีโรงรถหรือลานซักล้างแยกออกจากตัวบ้าน เพราะจะใช้เสาเข็มสั้น หากเป็นวัสดุไม่ได้คุณภาพก็จะแย่ขึ้นไปอีก

         ในส่วนที่เป็นรอยต่อ จะใช้โฟมอีพีเอส (Expandable Polystyren) สอดเข้าไป เพื่อให้รอยต่อสามารถยืดหยุ่นได้เวลาทรุดตัว แต่ส่วนใต้คานมักจะพบว่าใช้วัสดุย่อยสลายได้เข้าไปถม จึงเป็นปัญหาภายหลังในเรื่องของความชื้น ซึ่งปกติจะใช้ทรายหยาบถมเข้าไปแทน

         สำหรับวิธีการดูแบบพื้นฐานที่สุด คือการเคาะผนัง ถ้าวัสดุเหมือนกันเวลาเคาะจะมีเสียงเท่ากัน แต่ถ้ามีโพรงหรือวัสดุที่แตกต่างเกิดขึ้น เสียงที่เคาะก็จะไม่เท่ากัน โดยควรเคาะดูจุดสำคัญบริเวณเชื่อมต่อระหว่างส่วนชื้นกับส่วนแห้ง เช่น ผนังห้องน้ำที่เชื่อมต่อกับห้องอื่น เป็นต้น โดยให้ลองเปิดฝักบัวทิ้งไว้ หากมีความชื้นซึมออกมาแสดงว่ามีความผิดปกติ

         รอยวงกบกับผนัง หากมีรอยต่อที่ไม่สนิท จะถูกปิดเอาไว้ด้วยซิลิโคน ซึ่งถ้าหากซิลิโคนหมดอายุ อาจเกิดการรั่วซึมของน้ำฝนเข้ามาด้านในได้ ซึ่งเราสามารถเช็กคุณภาพกับโครงการได้หากเป็นบ้านที่กำลังก่อสร้าง โดยขอดูหน้างานได้ทันที

         ส่วนบ้านที่ใช้วัสดุสำเร็จรูปมาต่อกัน ถ้าหน้าฝนไม่มีการรั่วซึม แสดงว่ามีการเชื่อมต่อที่ดี แต่หากมีรอยรั่วน้ำจะซึมเข้ามาตรงรอยต่อ

           ขณะที่ การแก้ปัญหาเหล่านี้ในอนาคต หากวัสดุสำเร็จรูปถูกสร้างในโรงงานที่มีการประกันคุณภาพ ระบบของที่พักอาศัยก็จะดีขึ้น เพราะในต่างประเทศก็มีมานาน ช่างแค่มาต่อส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แล้วเดินระบบไฟฟ้าสำเร็จรูป ส่วนในเมืองไทยช่างฝีมือดี ๆ ก็จะน้อยลง เพราะระบบอุตสาหกรรมมาแทน แม้จะได้ของที่ดีขึ้น แต่ก็มีความหลากหลายลดลง เพราะวัสดุจะถูกสร้างมาคล้าย ๆ กัน

           นอกจากนี้อาจมีการลักไก่การเดินระบบไฟฟ้า ประปา และระบบบำบัดน้ำภายในบ้านได้ เช่น อาจเดินสายไฟเข้าไปในท่อเพื่อให้ต้นทุนถูกลง แต่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรแทน โดยก่อนรับมอบงาน เราสามารถเช็กได้ทุกเรื่อง แม้แต่ฟองอากาศเล็ก ๆ บนวอลเปเปอร์ก็สามารถเคลมได้ สิ่งสำคัญคือผู้บริโภคต้องดูสัญญาให้ดี อ่านให้ละเอียด โดยไม่ต้องด่วนตัดสินใจเซ็น ถ้าเจอตัวหนังสือเล็ก ๆ ก็ต้องถามเซลส์ให้ชัดเจนก่อน


ข้อคำนึงเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน


      1.  ไปดูก่อนว่าโครงการที่จะซื้อตอบโจทย์ได้จริงหรือเปล่า

      2.  สภาพข้างเคียงเป็นอย่างไร

      3.  ศึกษาเรื่องการคมนาคม เดินทางสะดวกไหม

      4.  เพื่อนบ้านเป็นอย่างไร ถือเป็นข้อสำคัญเพราะอาจเกิดปัญหาตามมา






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บ้านย้อมแมวเกลื่อนตลาด ระวังไว้ก่อนเสียรู้ ! อัปเดตล่าสุด 18 กันยายน 2556 เวลา 15:05:54
TOP