x close

ซ่อมบ้านเรื่องง่าย ที่คุณเองก็ทำได้

ซ่อมบ้านเรื่องง่าย ที่คุณเองก็ทำได้

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          บ้านที่สร้างมานานหลายปี อาจจะมีจุดชำรุดทรุดโทรมให้เราต้องซ่อมแซมบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือตัวบ้านเองก็ตาม แต่พอพูดถึงเรื่องงานซ่อมแซมบ้าน หลายคนก็อาจจะคิดไปไกลว่าต้องจ้างช่าง หรือต้องยกเครื่องใช้ไปให้ศูนย์บริการซ่อมแซมให้หรือเปล่า ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป เพราะจุดชำรุดเล็กน้อยบางอย่างเราก็สามารถซ่อมได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง อย่างจุดชำรุดในบ้านต่อไปนี้ ที่เราก็มีวิธีซ่อมแซมแบบบ้าน ๆ มาฝากกันด้วย

1. เครื่องซักผ้ารั่ว

          หากจู่ ๆ เครื่องซักผ้าที่เคยใช้งานได้ตามปกติก็เกิดมีน้ำรั่วไหลออกมาในระหว่างการซัก ก็คงต้องรีบตรวจสอบกันก่อนที่น้ำจะไหลท่วมบ้าน ขั้นแรกให้คุณหยุดการทำงานของเครื่องซักผ้าก่อน แล้วมาตรวจสอบท่อสายยางสำหรับน้ำทิ้ง ที่อยู่บริเวณด้านหลังเครื่องซักผ้า สำรวจดูในแน่ชัดว่ามีร่องรอยของการรั่ว หรือรอยแตกบ้างหรือไม่ หากพบว่าต้นเหตุของน้ำรั่วซึมมาจากสายยาง จะได้ไปหาซื้อสายยางมาใหม่ แล้วก็จัดการถอดอันเก่าออก ใส่สายยางอันใหม่เข้าไปแทนตามวิธีในคู่มือการใช้ที่แนบมา หรือถ้าหาคู่มือไม่เจอ ก็ไม่ยากค่ะ ให้คุณค่อย ๆ ขันนอตตรงบริเวณหัวต่อของสายยางท่อน้ำทิ้ง แล้วค่อย ๆ ดึงสายยางอันเก่าที่ชำรุดออกมา เสียบสายยางอันใหม่เข้าไป จากนั้นก็ขันนอตเข้าที่ให้แน่นหนาเหมือนเดิม

2. คราบเชื้อราบนกำแพง

          ในขณะที่อากาศชื้น ๆ ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราบนกำแพงเป็นปื้นดำ ๆ ได้บ้าง ซึ่งถ้าหากเราปล่อยทิ้งไว้ ก็จะเป็นอันตรายกับสุขภาพคนในบ้าน โดยเฉพาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ดังนั้นคงดีกว่าหากเราจะกำจัดเชื้อราเหล่านี้ให้หมดไป ด้วยการผสมน้ำยาฟอกขาว 1 ถ้วยตวง ลงในน้ำอุ่น 1 แกลลอน จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำ หรือผ้าขี้ริ้วจุ่มน้ำยาที่ผสมไว้ เช็ดทำความสะอาดเชื้อราบนผนังให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง น้ำยาฟอกขาวอาจจะกัดกร่อนสีบนผนังให้หลุดลอกไปบ้าง ซึ่งหลังจากทำความสะอาดผนังเรียบร้อยและแห้งสนิทดีแล้ว ก็คงต้องทาสีผนังใหม่อีกรอบ เพื่อความสวยงามกลมกลืน

3. ชักโครกน้ำไหลไม่หยุด

          หากเกิดปัญหานี้ขึ้น เป็นใครก็คงต้องกุมขมับ เพราะกลัวบิลค่าน้ำจะพุ่งพรวดไปอย่างเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นเราจึงต้องรีบซ่อมแซมโดยด่วน ด้วยการเปิดฝาถังพักน้ำชักโครกออกดู แล้วลองดันลูกลอยขึ้นเบา ๆ ดูว่าน้ำหยุดไหลออกมาจากท่อรึเปล่า ถ้าใช่ก็ฟันธงได้เลยว่า ปัญหาน้ำไหลไม่หยุดเกิดจากลูกลอยอยู่สูงเกินไป ให้คุณแก้ปัญหาด้วยการใช้มือ 2 ข้างจับคันโยกลูกลอยให้แน่น แล้วบิดปลายด้านลูกลอยให้กดลงไปในน้ำ รอให้น้ำสูงขึ้นปริ่มๆ ระดับบน ถ้าน้ำยังไม่หยุดไหล ก็เพิ่มการบิดทีละน้อย แต่ระวังอย่าบิดมากเกินไป เพราะน้ำจะหยุดไหลก่อนที่จะได้น้ำในระดับที่พอจะล้างชักโครกลงได้ ดังนั้นจึงต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ บิดลูกลอยให้อยู่ในระดับที่พอดี

4. รอยแตกบนพื้นถนน

          พื้นถนนหน้าบ้านหรือลานจอดรถที่มีรอยแตกแยกเพิ่มขึ้นทุกวัน ก็อย่านิ่งนอนใจเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นความชำรุดบนพื้นจะยิ่งขยายวงกว้างให้แก้ไขกันยากขึ้นไปอีก ดังนั้นก่อนอื่นเราต้องเคลียร์เศษสกปรกในร่องพื้นออกมาก่อน และหากรอยแตกมีความลึกมาก ควรเททรายลงไปเติมก่อนชั้นนึง จากนั้นก็สั่งซื้อยางมะตอยผสมสำเร็จมาเทเติมรอยแตกบนพื้นให้เต็ม และควรปิดกั้นเส้นทางไม่ให้รถผ่านจนกว่ายางมะตอยจะแห้งสนิทดีด้วยนะคะ

5. รูตะปูบนผนัง


          สำหรับใครที่เคยตอกตะปูบนผนังเพื่อแขวนสิ่งของ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจ ไม่ได้แขวนอะไรแล้ว ก็คงต้องมีร่องรอยของรูตะปูหลงเหลืออยู่บนผนัง ทำให้ผนังเกิดตำหนิไม่สวยงาม เราก็สามารถซ่อมแซมได้ ด้วยการกางหนังสือพิมพ์บนผนัง ให้ระยะห่างระหว่างผนังกับขอบหนังสือพิมพ์เหลือประมาณ ¼ นิ้ว จากนั้นใช้เกรียงปาดอะคริลิค สำหรับยาแนวรอยแตกผนังโดยเฉพาะ (หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป ราคาประมาณกระป๋องละ 150 บาท) มาอุดรูตะปูให้เต็มเสมอกับผนัง จากนั้นใช้เกรียงปาดอะคริลิคส่วนเกินออกให้หมด แล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำทำความสะอาดคราบสกปรกจากการซ่อมแซมอีกครั้ง หากสีบนผนังหลุดลอก หรือซีดลง ก็ควรจะทาสีผนังทับให้สวยงาม

         งานซ่อมแซมบ้านที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง และเราก็พอจะซ่อมแซมเองได้ ก็น่าจะลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ เพราะใครจะรักบ้านและดูแลบ้านได้ดีเท่ากับเจ้าของบ้านล่ะ จริงไหม ?
 



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ซ่อมบ้านเรื่องง่าย ที่คุณเองก็ทำได้ อัปเดตล่าสุด 8 มกราคม 2557 เวลา 18:07:06 5,244 อ่าน
TOP