เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ใครที่มีอาการเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ เป็นประจำโดยไม่ทราบสาเหตุ แถมอาการป่วยยังดูทนทาน ไม่ยอมหายไปไหนสักที ลองสังเกตความสะอาดของห้องน้ำในบ้านดูบ้างก็ดีนะคะ เพราะบางครั้งเชื้อโรคร้ายที่แฝงตัวอยู่ในบ้าน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเจ็บป่วยอยู่บ่อย ๆ ก็แฝงกายเร้นลับอยู่ในห้องน้ำบ้านเรานี่เอง เพราะฉะนั้นต้องรีบมาดูข้อมูลแหล่งเชื้อโรคในห้องน้ำต่อไปนี้ แล้วจัดการทำความสะอาดให้สิ้นซากกันได้เลย จะได้หายป่วยเรื้อรังสักที
1. สารเคมีจากยาแนวกำแพงสารเคมีจากยาแนวกำแพง ที่เรานำมาใช้ซ่อมบำรุงรอยโหว่ของกำแพงห้องน้ำ มีส่วนกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และในกรณีที่สูดดมในปริมาณที่เข้มข้น อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นสาเหตุให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหลในทันที ส่วนคนที่เป็นโรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการของโรคเหล่านี้ก็อาจจะกำเริบได้เรื่อย ๆ ฉะนั้นภายหลังจากการซ่อมแซมผนังห้องน้ำ ควรเปิดประตูและพัดลมดูดอากาศ เพื่อระบายความเข้มข้นของสารเคมีจากยาแนวกำแพงออกไปให้ได้มากที่สุด
2. ความชื้นที่เกินพิกัดความชื้นเป็นบ่อเกิดของเชื้อรา และแบคทีเรียกว่า 100,000 ชนิด ซึ่งแน่นอนว่ามีเยอะชนิดขนาดนี้ ก็ย่อมต้องมีตัวจี๊ดสักตัวหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคภัย อาการผิดปกติในร่างกายเราได้ เช่น โรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้ เป็นต้น ดังนั้นเราควรจะกำจัดความชื้นในห้องน้ำ ด้วยการเปิดประตูระบายอากาศ เปิดพัดลมดูดอากาศ และหลังอาบน้ำเสร็จทุกครั้งควรใช้ม็อบเช็ดพื้นห้องน้ำให้หมาดหรือแห้งได้ก็ยิ่งดี เพื่อป้องกันการฝังตัวของเชื้อราด้วยค่ะ
3. ติดพัดลมดูดอากาศผิดตำแหน่งลองสำรวจพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำของคุณดู ว่าติดถูกตำแหน่งแล้วหรือเปล่า เนื่องจากมีหลายบ้านที่ติดพัดลมดูดอากาศไม่ถูกตำแหน่ง อย่างเช่น ติดพัดลมดูดอากาศบนเพดาน ซึ่งทำให้พัดลมดูดอากาศวนเวียนอยู่ในห้องน้ำ ไม่ได้ดูดอากาศจากข้างในห้องน้ำ ออกไปด้านนอกตัวบ้าน ซึ่งก็จะทำให้อากาศไม่ถูกถ่ายเทอย่างที่คิด ความชื้นก็ไม่ได้กระจายตัวออกไปไหน และที่สำคัญบริเวณใต้หลังคา รวมไปถึงบริเวณอื่น ๆ ก็จะมีความชื้น และเชื้อราสะสมอยู่เต็มไปหมดอีกต่างหาก ฉะนั้นหากพบว่าติดพัดลมดูดอากาศผิดตำแหน่งจริง ควรย้ายมาติดตั้งตรงบริเวณกำแพงห้องน้ำ หรือตำแหน่งที่เอื้อให้พัดลมดูดอากาศจากภายในห้องน้ำออกไปนอกบ้านได้จะดีกว่า
4. น้ำยาทำความสะอาดฤทธิ์รุนแรงบางครั้งอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นก็มีสาเหตุมาจากสารเคมีในน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่เราใช้อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะน้ำยาทำความสะอาดที่มีแอมโมเนีย และคลอรีนผสมอยู่ เพราะสารประกอบทั้ง 2 ชนิดนี้ ถูกค้นพบว่ามีส่วนรู้เห็นในการก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง โรคปอด และมีส่วนทำให้โรคหอบหืดกำเริบด้วยค่ะ
5. เชื้อโรคสะสมตรงก็อกน้ำก็อกน้ำเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มักถูกละเลย จนกลายเป็นการเปิดโอกาสให้เชื้อโรค และแบคทีเรียจากมือของสมาชิกทุกคนในบ้านไปรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียตัวร้ายวกกลับมาทำร้ายคนในบ้านให้เกิดอาการป่วยไข้ได้ โดยเฉพาะคนที่มีภูมิต้านทานต่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเพื่อป้องกันอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ที่มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคและเชื้อไวรัสเหล่านี้ ก็ควรทำความสะอาดก็อกน้ำด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์บ่อย ๆ หรือต้องล้างมือทุกครั้งก่อนจะรับประทานอาหาร หรือสัมผัสร่างกายตัวเอง
6. เปลี่ยนม่านห้องน้ำสำหรับคนที่ใช้ม่านห้องน้ำแบบไวนิลอยู่ ควรเปลี่ยนมาใช้ม่านห้องน้ำแบบโพลีเอสเตอร์ หรือม่านไนลอนที่สามารถซักได้ดีกว่า เนื่องจากในไวนิลมีสารพาเลทที่เป็นสารอันตราย ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และอันตรายอื่น ๆ กับเราได้มากมายเลยล่ะค่ะ
7. หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูปน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำหลายชนิดที่ขายตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป มักจะผสมสารเคมีสำหรับกัดเซาะคราบสกปรก ที่อาจจะมีความรุนแรงต่อผิวของเราได้ แถมกลิ่นฉุนของสารเคมีเหล่านี้ ยังอาจจะทำลายระบบทางเดินหายใจของเราอีกต่างหาก ฉะนั้นลองเปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดา กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดห้องน้ำดูดีกว่า แค่นำทั้ง 2 อย่างมาผสมกัน แล้วนำไปป้ายทิ้งไว้บนคราบสกปรกสัก 30 นาที จากนั้นก็ขัดทำความสะอาดตามปกติ วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้เยอะเลยทีเดียวจ้า
8. คลอรีนในน้ำแม้ว่าจะเป็นข้อมูลที่ทำให้หลายคนสะดุ้ง แต่ก็คงต้องยอมรับว่า สารคลอรีนในน้ำประปาที่ผ่านมาตามฝักบัว ก็มีสิทธิ์ทำร้ายสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน โดยเฉพาะในขณะที่อาบน้ำอุ่น สารคลอรีนที่ถูกปล่อยออกมาตามท่อ ก็จะระเหยเป็นไอตามออกมาด้วย และเมื่อเราสูดดมนาน ๆ เข้า ก็อาจเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รวมทั้งมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านม ฉะนั้นควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำ สำหรับกรองคลอรีนออกจากน้ำก่อนเราอาบก็ดีนะคะ
9. สารตะกั่วจากสีทาบ้านรุ่นเก่าหากบ้านของคุณสร้างมานานนับสิบปีแล้ว และเป็นตอนที่สร้างบ้านก็ยังไม่มีนวัตกรรมสีทาบ้านที่ปลอดภัยกับสุขภาพร่างกายอย่างปัจจุบันนี้ ก็เป็นไปได้ว่า สีทาบ้าน รวมทั้งท่อประปาของคุณอาจมีสารตะกั่วปะปนอยู่ ซึ่งถ้าหากได้รับสารตะกั่วในปริมาณมาก ก็มีสิทธิ์สะสมในร่างกาย ทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำลายโครงสร้างกระดูก ทำให้กระดูกผุ และอ่อนแอได้
10. แร่ใยหินนอกจากสารตะกั่วแล้ว บ้านที่สร้างมานานก็ควรต้องระวังแร่ใยหิน ที่แฝงตัวอยู่ในพื้นไวนิลด้วย เนื่องจากพื้นไวนิลเก่า มักจะมีทั้งสารตะกั่ว และแร่ใยหินซุกซ่อนอยู่ เมื่อเราสัมผัสโดยตรง หรือสูดดมในปริมาณมาก อาจจะเสี่ยงเป็นโรคปอดอักเสบ หรือโรคมะเร็งได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ให้เลี่ยงใช้อุปกรณ์ที่ผลิตมาเนิ่นนานเกิน 10 ปี เช่น ฉนวนกันความร้อน กระเบื้อง ไวนิล พลาสติก ฝ้าเพดานและอุปกรณ์สร้างบ้านทุกชนิดที่ผลิตในปีนั้นด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพที่แฝงกายอยู่ในห้องน้ำบ้านเรา ดังนั้นหากรู้ต้นสายปลายเหตุอย่างนี้กันแล้ว ก็อย่าลืมหลีกเลี่ยงและป้องกันตัวเอง รวมทั้งทุกคนในบ้านจากความเสี่ยงเหล่านี้ด้วยนะคะ
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
