การย้ายบ้านถือเป็นเรื่องใหญ่และชวนปวดหัวแน่นอนหากไม่มีการวางแผนให้ดี แถมค่าจ้างรถขนของก็ไม่ใช่ถูก ๆ จึงควรคำนวณให้ดีว่าจะขนของกี่รอบและแต่ละรอบจะขนอะไรไปบ้าง นอกจากนี้ยังต้องรับมือกับลูกน้อยในบ้านที่อาจจะปรับตัวไม่ทันกับการ ย้ายที่อยู่ใหม่ เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ เพื่อนใหม่ ฯลฯ และวันนี้เรามี 10 ทิปส์ย้ายบ้านอย่างมืออาชีพ พร้อมให้ลูกน้อยของคุณแฮปปี้ มาแนะนำกันค่ะ
1. พูดคุยเรื่องย้ายบ้านถือเป็นขั้นตอนแรกเลยสำหรับการย้ายบ้านที่สมาชิกในครอบครัวต้องปรึกษาหารือและพูดคุยกัน และถ้าหากคุณรู้อยู่แล้วว่าเรื่องการย้ายบ้านจะทำให้ลูก ๆ เกิดความกังวลล่ะก็ ควรสร้างบรรยากาศที่ดี เช่น อาหารมื้อพิเศษในระหว่างพูดคุยกัน เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศดูซอฟต์ลงทันที จากนั้นก็บอกถึงเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องย้ายบ้าน รวมทั้งเรื่องการย้ายโรงเรียนของลูก ๆ ด้วย
2. ให้เด็ก ๆ ช่วยตัดสินใจเรื่องที่อยู่ใหม่ หากคุณมีแพลนจะย้ายที่อยู่ใหม่อย่างแน่นอนแล้ว ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าจะเลือกบ้านแบบไหน เช่น บ้านสองชั้น มีที่จอดรถกว้าง มีสระว่ายน้ำ ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ แต่รายละเอียดดังกล่าวควรให้ลูกของคุณมีส่วนในการตัดสินใจด้วย เช่น พวกเขาอาจจะอยากได้สนามหญ้ามากกว่าลานจอดรถกว้าง ๆ หรืออยากได้บ้านที่มีสระว่ายน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรมีตัวเลือกให้พวกเขาสัก 2-3 หลัง เพื่อที่จะได้อยู่ในงบที่คุณวางไว้ รวมทั้งอยู่ในพิกัดที่สะดวกแก่การไปทำงาน หรือการไปรับ-ส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียน
3. ทำให้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แน่นอนว่าไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่กังวลว่างานใหม่จะเป็นอย่างไร จะคุ้มค่ากับการย้ายที่อยู่หรือไม่ หรือเพื่อนบ้านจะเป็นอย่างไร เด็ก ๆ ก็มีความกังวลไม่ต่างกัน เนื่องจากพวกเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนใหม่ที่โรงเรียน และอาจเป็นไปได้ว่าระบบการเรียนการสอนอาจต่างจากโรงเรียนเดิมด้วย ดังนั้น คุณควรสร้างบรรยากาศที่ดีและทำให้พวกเขามั่นใจในสิ่งที่ต้องเจอไม่ว่าจะดีหรือร้าย และควรย้ำให้พวกเขารู้ว่านี่คือโอกาสดีที่พวกเขาจะได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ นั่นเอง
4. ไม่ต้องขนไปทุกอย่างเมื่อถึงเวลาเคลื่อนย้ายของออกมารวมกันเพื่อที่จะแพ็กหรือจัดเรียงไว้ด้วยกัน เพื่อความสะดวกในการขนส่ง จำไว้ว่าควรเลือกของที่ไม่ใช้ออกไป ก่อน และไม่จำเป็นต้องขนไปหมด เช่น นิตยสารเก่า, เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด, เสื้อผ้าไม่ใช้แล้ว เป็นต้น ควรเลือกออกมาให้หมดก่อนจะแพ็กของ วิธีเหล่านี้นอกจากจะทำให้บ้านใหม่ไม่รกแล้ว บนรถจะได้มีพื้นที่สำหรับขนของที่สำคัญอื่น ๆ ได้มากขึ้นด้วย
5. ขายบางอย่างไปบ้างของบางอย่างที่คุณจะละทิ้งไว้ก็เสียดาย หรือหากจะเอาติดไปด้วยซะทุกอย่างก็คงต้องจ้างรถหลายรอบ เช่น ตู้เสื้อผ้า หรือเตียงนอน ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจต้องใช้รถขนของหลายรอบ และถ้าลองคำนวณดูแล้วไม่คุ้มกับค่าขนส่งละก็ เราขอแนะนำให้คุณขายสิ่งเหล่านี้ รวมถึงของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้ว เช่น ของเล่นเก่าของลูก ๆ โดยคุณอาจจะให้เด็ก ๆ สนุกกับการตั้งราคาขายของเล่นแต่ละชิ้น พร้อมเสนอไอเดียว่าเงินที่ได้นั้นจะนำมาทำประโยชน์อะไรที่บ้านหลังใหม่ได้บ้าง
6. จัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการย้ายที่อยุ่ใหม่สำหรับเด็ก ๆ คือ การที่ต้องบอกลาเพื่อน ๆ ซึ่งก็เหมือนที่คุณเคยรู้สึกครั้งตอนเรียนมัธยมแล้วต้องบอกลาเพื่อน ๆ ไปคนละทิศคนละทางนั่นแหละ และเพื่อเป็นการลดความเศร้า เราขอแนะนำให้คุณจัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งในธีม "See You Soon\' Party" เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าลูกของคุณจะได้เจอเพื่อน ๆ ของเขาอีกแน่นอน ซึ่งก็อาจจะเป็นช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดก็ตาม รวมทั้งไม่พลาดที่จะขอที่อยู่ติดต่อหรือเบอร์โทรซึ่งกันและกันด้วย
7. แวะพาเด็ก ๆ เที่ยวระหว่างทางหากทยอยขนของส่วนใหญ่ไปยังที่อยู่ใหม่เรียบร้อยแล้ว และเหลือเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถขนเองได้ภายหลังหรือในอีกวันถัดมา คุณควรใช้โอกาสนี้พาเด็ก ๆ แวะเที่ยวริมทาง หรืออาจพักผ่อนค้างคืนสัก 2-3 วัน เพื่อให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายก่อนที่จะย้ายไปอยู่สถานที่ใหม่ ในขณะเดียวกันก็สำรวจที่เที่ยวอื่น ๆ หรือที่เที่ยวใกล้เคียง เพื่อที่ในวันหยุดจะได้พาลูก ๆ มาพักผ่อนอีก
8. ช่วยกันเสนอไอเดียจัดบ้าน หากว่าบ้านใหม่ของคุณนั้นยังไม่ได้ตกแต่งภายใน นี่เป็นโอกาสดีที่คุณและลูก ๆ จะใช้ไอเดียร่วมกันในการจัดการข้าวของกองโตให้เป็นระเบียบ เช่น ช่วยกันเสนอว่าควรจะตั้งทีวีและโซฟาไว้มุมใด หรืออยากเอาภาพผนังติดตรงไหน และหากคุณไปเลือกซื้อของตกแต่งบ้านล่ะก็ อย่าลืมชวนพวกเขาไปช่วยเลือกด้วย โดยเฉพาะหากลูกของคุณอยู่ในช่วงวัยรุ่นด้วยแล้ว ลองตั้งงบให้เขาได้เลือกซื้อของแต่งบ้านที่เขาชอบ หรือจะช่วยกัน D.I.Y. ของแต่งบ้านก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ
9. แผนผังการเดินทาง สิ่งสำคัญอีกประการที่ต้องคำนึงถึง คือ แผนผังหรือแผนที่การเดินทาง ที่คุณต้องตระเตรียมและศึกษาไว้ล่วงหน้าก่อนย้ายที่อยู่ เพื่อที่คุณจะได้รู้ระยะทางและเส้นทางในการขับรถจากบ้านไปที่ทำงาน, จากโรงเรียนไปที่ทำงาน หรือจากบ้านไปสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มาก อีกทั้งระหว่างทางก็อย่าพลาดที่จะสังเกตสถานที่รอบข้างหรือป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ปั้มน้ำมัน หรือที่เที่ยวอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ลิสต์ไว้ค่ะ
10. เรียนรู้สิ่งแวดล้อมใกล้เคียงแน่นอนว่าเมื่อมาอยู่ในที่ใหม่ เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ สิ่งสำคัญ คือ พยายามที่จะเรียนรู้ให้มากที่สุดเกี่ยวกับพื้นที่ใกล้เคียงของชุมชนและเมือง พร้อมแบ่งปันสิ่งที่คุณพบกับลูก ๆ ของคุณ ทั้งเรื่องดีหรือไม่ดี ซึ่งการพูดความจริงจะเป็นประโยชน์มากที่สุดในระยะยาว หากคุณมัวแต่ห่วงความรู้สึกของเด็ก ๆ จนต้องโกหกพวกเขาว่าสิ่งแวดล้อมรอบบ้านดีไปซะทุกอย่าง อาจจะทำให้เด็ก ๆ ขาดความระมัดระวัง หรืออาจต้องผิดหวังหากเจอบางสิ่งที่ไม่คาดคิด ดังนั้น นอกจากจะพูดความจริงแล้ว คุณควรสอนให้พวกเขาปรับตัวและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วย
เรียกว่าการย้ายที่อยู่ใหม่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ซึ่งนอกจากจะมีผลทางกายภาพแล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจอีกด้วย และหากใครที่มีแพลนจะย้ายบ้านในเร็ว ๆ นี้ ก็ลองนำทิปส์ดี ๆ ของเราไปใช้กันนะคะ ^^
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ 
