สำหรับคนที่กำลังรู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้ในการรีโนเวทบ้าน วันนี้เรามีประสบการณ์การรีโนเวทบ้านสุดโหด ของ คุณ Kantaphat K. มาฝาก โดยรับรองเลยว่าเมื่ออ่านจบ คุณจะได้ไฟและกำลังใจดี ๆ ในการรีโนเวทบ้านต่อแน่นอน เพราะว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้เจอนั้นเรียกได้ว่าทรหดสุด ๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวของเธอคนนี้เป็นอย่างไร ต้องสตรองแค่ไหน แล้วสุดท้ายเธอสร้างบ้านได้จนเสร็จไหม ก็ตามไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์รีโนเวทบ้านเก่าอายุ 20 ปี แปลงโฉมให้เป็นบ้านในฝันของเรากับแฟนค่ะ เอาผลงานมาโชว์ เผื่อจะมีใครติดต่อไปลงหนังสือบ้างอะไรบ้าง 555
บ้านหลังนี้เป็นความภาคภูมิใจของเรามาก จากที่แรกเริ่มจ้างบริษัทออกแบบ บริษัทก่อสร้างทั้งหมด แต่พอเจอผู้รับเหมาโกง เงินหมด จึงลงมือควบคุมดูแลเอง จนถึงขั้นลงมือก่ออิฐฉาบปูนเองเลยทีเดียว รีโนเวทบ้านหลังนี้ใช้เวลาประมาณ 18 เดือน ร้องไห้หลายครั้ง แต่ก็ฟันฝ่าอุปสรรคจนสำเร็จ
โอเคค่ะ มาเริ่มด้วยการที่เราและครอบครัวอยากจะขยับขยายบ้าน จึงหาบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ โดยมีโจทย์ดังนี้
1. เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 150 ตารางวา
2. ต้องมี 6 ห้องนอน (สมาชิก 8 คน+น้องหมา 2 ตัว)
3. จอดรถได้ 5-6 คัน
4. งบไม่เกิน 15 ล้านบาท (รวมตกแต่งภายใน)
ด้วยโจทย์ที่มี หาบ้านโครงการใหม่ ๆ ในละแวกเทพารักษ์ ศรีนครินทร์ บางนาไม่ได้เลยค่ะ ข้อ 1-3 ก็ยังพอหาได้บ้างนะคะ แต่มันจะมาติดก็ข้อ 4 เรื่องงบของเรานั่นเองค่ะ ที่หาได้ก็ 25 ล้านบาทอัพ เป็นตัวเลขที่จับต้องไม่ได้เลยสำหรับเรา สุดท้ายก็ต้องตัดใจจากบ้านใหม่ โครงการหรู สโมสรสวย
หลังจากนั้นเราก็เริ่มมองหาบ้านมือสองที่ราคาถูกลงมาหน่อย แล้วตั้งงบรีโนเวทบ้านไว้ด้วย ตั้งใจว่าราคาบ้านบวกรีโนเวทจะต้องอยู่ใน 15 ล้านบาท
หาอยู่สักพักหนึ่งก็เจอบ้านเก่าหลังหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านค่ะ อายุบ้านประมาณ 20 ปี เนื้อที่ 172 ตารางวา สภาพก็โทรมพอสมควร แต่ก็โชคดีมาก เพราะเจ้าของเก่าอยากขายด่วน เลยได้ราคาถูกกว่าราคาตลาดเมื่อเทียบกับหลังอื่นในหมู่บ้านเดียวกัน จึงพอเหลืองบไปรีโนเวทเยอะอยู่
จนวันหนึ่งบริษัทมาขอให้เราจ่ายเงินเพิ่ม โดยอ้างว่าคิดค่าแรงต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งทางเราไม่โอเคอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างระบุอยู่ในสัญญา มีการแจกแจง BOQ โดยละเอียด เมื่อเราไม่ให้เงินเพิ่มตามที่ขอ ทางผู้รับเหมาจึงหยุดการทำงาน มีการแจ้งความไกล่เกลี่ยกัน แต่เราก็เป็นฝ่ายเสียหายอยู่หลายแสนบาท การก่อสร้างหยุดชะงักเป็นเวลากว่า 4 เดือน เพราะเราไม่สามารถหาผู้รับเหมามาทำต่อในงบที่เรามีเหลืออยู่ได้
ซึ่งในช่วงที่งานก่อสร้างหยุดชะงัก เราก็พยายามหาผู้รับเหมามาต่อให้จบ แต่เวลาผู้รับเหมาเจ้าใหม่มาดูหน้างาน เขาก็มักจะพูดว่า "งานเก็บขี้ ไม่ค่อยมีผู้รับเหมาคนไหนอยากทำ ถ้าทำก็ต้องคิดเงินเผื่อในส่วนที่มองไม่เห็นว่าเจ้าก่อนหมกเม็ดอะไรไว้บ้าง"
ท้ายที่สุดเราตัดสินใจไม่จ้างผู้รับเหมารายเดียว แต่เปลี่ยนเป็นการว่าจ้างช่างรายวันและช่างเหมางานสโคปเล็ก ๆ ซึ่งเราเป็นคนควบคุมดูแลความต่อเนื่องของงานเองทั้งหมด การหาช่างก็ไม่ได้หากันง่าย ๆ เราอาศัยไปสิงสถิตอยู่ตามคอมมูนิตี้ ของช่างก่อสร้าง ตามเฟซบุ๊กดูผลงาน แล้วค่อยเรียกมาคุยราคา จากที่ไม่เคยมีความรู้ เราก็ศึกษาในอินเทอร์เน็ต จนตอนนี้พอจะรู้ขั้นตอนการทำงานเยอะพอสมควร
พอบ้านเสร็จก็จ้างช่างบิวท์อิน ส่วนนี้ทีแรกก็หวั่น ๆ ว่าจะโดนโกงอีก เพราะค่าบิวท์อินก็เฉียดล้านอยู่ แต่ถือว่าโชคดีเจอช่างบิวท์อินที่ทำงานดี ทำงานจบแฮปปี้มากค่ะ
- งานตกแต่งภายในส่วนของห้องนอนก็ได้ตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ เรียบ ๆ แต่เน้นฟังก์ชั่น
งานสุดท้ายคือลงมือจัดสวน ตอนแรกจะไปจ้างเขาทำเพราะไม่มีความรู้อะไรเลย แต่ไปสอบถามราคาค่าทำสวนมาแล้วหนาวเลยทีเดียว เนื่องจากพื้นที่สวนค่อนข้างใหญ่เกือบ 100 ตารางเมตร ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว คุมก่อสร้างบ้านก็ทำมาแล้ว ทำสวนเองด้วยเลยละกัน เริ่มจากร่างแบบเอง ซื้อต้นไม้เอง จ้างคนงานมาปลูกต้นไม้ อาศัยดูรูปจาก Pinterest มาปรับใช้
ทำบ้านหลังนี้กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทรหดมากสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่มันก็ทำให้เราเรียนรู้อะไรมากขึ้น ทันคนมากขึ้น และก็อึดมากขึ้นด้วย ถึงขั้นคุยกับแฟนว่าจะไปรับเหมาก่อสร้าง เพราะในความเหนื่อย มันมีความสุขที่ได้เห็นผลงานจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Kantaphat K.