เครื่องทำน้ำร้อน มีน้ำอุ่นใช้อาบสบายไม่หวั่นแม้อากาศหนาว

หลายคนคงคิดว่าเครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นเป็นเครื่องเดียวกัน ทั้งที่จริงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ต่างกันยังไง ตามไปดูกัน

นอกจากเครื่องทำน้ำอุ่นที่นิยมติดตั้งใช้งานตามบ้านแล้วยังมีอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้กับน้ำ นั่นก็คือ เครื่องทำน้ำร้อน ทั้งชื่อเรียกและการใช้งานที่คล้ายกันอาจทำให้หลายคนสับสนและคิดว่าทั้ง 2 เครื่องนี้เป็นเครื่องชนิดเดียวกัน ซึ่งที่จริงแล้วเครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ใช่ของใช้อย่างเดียวกัน ทั้ง 2 เครื่องจะมีข้อแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน วันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องทำน้ำร้อนมาฝาก รวมถึงข้อแตกต่างกับเครื่องทำน้ำอุ่นและวิธีการเลือกใช้งานด้วยค่ะ

เครื่องทำน้ำร้อน คืออะไร ?

เครื่องทำน้ำร้อน เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้กับน้ำสำหรับใช้กับทุกส่วนในห้องน้ำ โดยจะให้ความร้อนผ่านขดลวด และความร้อนที่ได้จากเครื่องทำน้ำร้อนจะสูงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นมาก แต่เครื่องทำน้ำร้อนสามารถส่งน้ำไปได้หลายจุดมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอ่างอาบน้ำ อ่างล้างมือ และฝักบัว ฉะนั้นในการใช้งานนั้นเครื่องทำความร้อนจะไม่ได้ต่อสายตรงไปที่จุดใดจุดหนึ่งในห้องน้ำเพียงจุดเดียว ห้องน้ำส่วนใหญ่ที่มีการติดตั้งเครื่องทำความร้อนจึงติดตั้งก๊อกน้ำเย็นผสมกันไปด้วย

ประเภทของเครื่องทำความร้อน

1. เครื่องทำน้ำร้อนชนิดถังเก็บ

หลักการทำงานคือ จะมีขดลวดความร้อนแช่อยู่ในถังเก็บน้ำ ซึ่งขนาดของถังจะมีตั้งแต่ 10 ลิตรขึ้นไป และจะสามารถเก็บความร้อนไว้ได้นานหลายชั่วโมง เมื่อเปิดสวิตช์ของเครื่องทิ้งไว้ ขดลวดความร้อนจะทำให้น้ำในถังเก็บความร้อนอยู่ตลอดเวลา เมื่อความร้อนถึงระดับที่กำหนดแล้วเครื่องก็จะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ แต่เมื่อน้ำในถังเก็บเย็นลงหรือมีการนำน้ำนี้ไปใช้และมีน้ำเย็นไหลเข้ามาแทนที่ ขดลวดความร้อนก็จะทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ

2. เครื่องทำน้ำร้อนชนิดน้ำไหลผ่าน

จะมีขดลวดความร้อนแช่อยู่ในหม้อน้ำ แต่หม้อน้ำนี้จะมีขนาดเล็กกว่า ไม่มีระบบฉนวนป้องกันการเสียความร้อน และไม่ได้ทำหน้าที่เป็นถังเก็บน้ำ หม้อน้ำดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นจุดดักน้ำที่ไหลผ่านให้มารวมกันและค้างอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อการถ่ายเทความร้อนจากขดลวดไปยังน้ำที่อยู่ในหม้อน้ำ

ความแตกต่างระหว่างเครื่องทำน้ำร้อนกับเครื่องทำน้ำอุ่น

ถึงแม้ว่าจะมีชื่อคล้ายกันและเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้น้ำร้อนเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วหลักการทำงานและการใช้งานของทั้ง 2 เครื่องกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาดูกันค่ะว่าเครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

เครื่องทำน้ำอุ่น : จะให้ความร้อนน้อยกว่า ส่วนใหญ่มักจะเป็นเครื่องที่กินกำลังไฟอยู่ในช่วง 3,500-5,000 วัตต์ การทำงานของเครื่องนี้เริ่มจากปล่อยน้ำเย็นไหลเข้าเครื่อง เมื่อน้ำผ่านเข้าไปในเครื่องก็จะมีกระบวนการทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งน้ำอุ่นที่ออกมาจากตัวเครื่องจะถูกต่อเข้าฝักบัวโดยตรง ถ้าอยากให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นก็ปรับที่ตัวเครื่องได้ทันที

เครื่องทำน้ำร้อน : กินกำลังไฟตั้งแต่ 6,000 วัตต์ขึ้นไป สามารถต่อกับจุดที่มีการใช้น้ำได้หลายจุด (multi-point) ใช้กับฝักบัว อ่างล้างหน้า หรือจุดอื่น ๆ ก็ได้ โดยน้ำเย็นที่ไหลเข้าตัวเครื่องจะถูกทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนกลายเป็นน้ำร้อน (อุณหภูมิสูงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่น) น้ำร้อนที่ออกมาจากเครื่องจะไม่ต่อตรงเข้าฝักบัวในทันที เพราะจะมีการเดินท่อแยกออกจากตัวเครื่องไปยังก๊อกน้ำร้อน เวลาใช้ก็ต้องเปิดทั้งก๊อกน้ำร้อนและก๊อกน้ำเย็นเพื่อผสมน้ำให้ได้อุณหภูมิตามต้องการ

ข้อดีเครื่องทำน้ำร้อน

- น้ำร้อนเร็ว

- น้ำในถังเก็บจะร้อนตลอด สามารถใช้งานได้ทันที

- ไม่ต้องปรับอุณหภูมิโดยตรงจากตัวเครื่อง ให้ปรับที่ก๊อกน้ำได้เลย

- สามารถใช้ได้หลายตำแหน่ง ทั้งฝักบัว อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ

ข้อเสียเครื่องทำน้ำร้อน

- กินไฟค่อนข้างมาก

- ราคาสูงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นเกือบเท่าตัว

- ต้องใช้แรงดันน้ำค่อนข้างสูงในการทำงาน

- ต้องมีก๊อกน้ำเย็นมาผสม เนื่องจากน้ำจากเครื่องร้อนมาก

การเลือกใช้เครื่องทำน้ำร้อน

ให้พิจารณาจากสภาพอากาศเป็นหลัก บ้านเราเป็นเมืองร้อน อากาศเย็นไม่ค่อยจะยาวนานเหมือนต่างประเทศ ถ้าต้องการทำน้ำร้อนสำหรับอ่างอาบน้ำขนาดเล็กเพียงจุดเดียวก็อาจจะเลือกใช้เครื่องที่มีกำลังขนาด 6,000 วัตต์ แต่ถ้าต้องการใช้เครื่องทำน้ำร้อนสำหรับอ่างอาบน้ำ อ่างล้างมือ ฝักบัว หรือรวมกันหลายจุด อาจจะต้องใช้เครื่องที่มีกำลังสูงถึง 8,000 วัตต์ขึ้นไป เพื่อให้ปริมาณความร้อนเพียงพอ หากต้องการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นสำหรับอาบฝักบัวเพียงจุดเดียว อาจจะเลือกเครื่องที่มีกำลังขนาด 3,500 วัตต์ก็เพียงพอ

ถึงแม้ว่าเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำน้ำร้อนจะให้ผลลัพธ์คล้ายกัน แต่เครื่องทำน้ำร้อนจะมีระบบการทำงานและการติดตั้งที่ซับซ้อนกว่าเครื่องทำน้ำอุ่น เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจติดตั้งลองพิจารณาการใช้งานในระยะยาวและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : energy.gov และ rona.ca