ภายใต้งบประมาณที่จำกัด เลยทำให้พวกเขาตกลงว่าจะตกแต่งร้านอาหารด้วยตัวเอง จะออกมาสวย ดูดี แค่ไหน ตามไปชมการรีโนเวทบ้านเก่าและไอเดียตกแต่งร้านอาหารร้านนี้กันเลยค่ะ
จากบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยคของเพื่อนเก่า กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มมนุษย์เงินเดือนกลายเป็นเจ้าของกิจการร้านไก่ทอด แต่เนื่องจากมีต้นทุนไม่มาก พวกเขาเลยต้องตกแต่งร้านอาหารด้วยตัวเอง ถ้ากำลังมองหาไอเดียแต่งร้านอาหารเล็ก ๆ ใช้งบไม่มาก แต่ดูดี มาดูผลงานการตกแต่งร้านอาหารของคุณ big farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และเพื่อน ๆ ของเขากันเลย
อุปสรรคในการทำธุรกิจของคนส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง ?
- เบื่องานประจำ...
- อยากมีธุรกิจส่วนตัว...
- มีต้นทุนน้อยนิด...
- ทำอะไรดี...
ปัญหาเดิม ๆ ของคนหนุ่ม-สาวสมัยนี้ครับ เรามักจะได้ยินคนรอบข้างก็จะบ่นอย่างนี้กันเป็นประจำ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มีปัญหาตามข้างบนเป๊ะทุกข้อ ! จนมาถึงค่ำคืนหนึ่งในงานแต่งเพื่อน...
"เฮ้ย เป็นไงบ้าง ทำอะไรอยู่" (ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์)
"ตอนนี้ทำสตูดิโอให้เช่าอยู่"
"เหรอ รวยแล้วสิ…งง"
"ยังง…และตอบไปว่ากำลังทำอยู่แต่ข้างล่างยังว่าง ไม่รู้จะทำอะไรดี ทำเลดีนะ ติดถนนใหญ่"
ผมหายเมา สมองเริ่มคิด
"อยู่แถวไหนเนี่ย..."
"ถ้าสนใจ พรุ่งนี้ลองมาดูแถวเหม่งจ๋ายสิ เอก็สนใจ"
พอเช้าวันรุ่งขึ้น…ผมและเพื่อนอีก 2 คน ก็ไปสำรวจทันที (แบบงง ๆ)
- ถือว่าไม่เลวเลย สถานที่กำลังสวย ภาษาสถาปนิกต้องบอกว่าสเปซดี ส่วนทำเลก็ถือว่าใช้ได้ เพราะเป็นย่านร้านอาหารชื่อดังรวมตัวอยู่กันเยอะ แถมมีออฟฟิศอยู่พอสมควร ผมตอบโอเค ตกลงร่วมหุ้นทำร้านด้วย (แบบงง ๆ) ความฝันผมจะเป็นจริงแล้ว จะมีธุรกิจของตัวเองแล้ว \\(^o^)/ ผมเริ่มจินตนาการถึงผู้คนมาเข้าร้านผมมากมาย ทุกคนต่างกินอาหารอย่างมีความสุข…
“แล้วเราจะขายอะไรดี ?” เสียงเพื่อนผมปลุกให้ตื่นจากฝัน เออ…ทำอะไรดี
“ร้านกาแฟ” ใครคนหนึ่งเปรยเบา ๆ ขึ้นมา
“แถวนี้ยังไม่มีร้านกาแฟน่านั่งเลย คนก็เยอะ น่าจะขายได้นะ”
“แต่ร้านกาแฟเปิดกันเยอะมากนะ แข่งขันกันสูง เสี่ยงไป ถ้าจะมีก็ไม่น่าใช่อันหลัก ๆ”
“ร้านเบียร์ล่ะ...ขายคู่กับของทอด อย่าง ไก่ทอดหรือผักทอด เหมือนร้านบอนชอนไง เข้ากันดี ขายทั้งกลางวันกลางคืนได้ แถวนี้ออฟฟิศก็เยอะ คนน่าจะมานั่งกัน” เรา 3 คนเห็นด้วย เพราะชอบทำอาหารกันอยู่แล้วและที่สำคัญเราชอบกิน !
หลังจากนั้นเราก็กลับมาวางแผนทำร้านกัน เริ่มจากตกแต่งก่อน ภายใต้งบประมาณที่จำกัดมาก ๆ อันไหนทำเองได้ ก็ทำ วัสดุต้องมีราคาถูกและดูมีดีไซน์ แต่เราเองก็เป็นสถาปนิก งานนี้มีมันส์ ! จากนั้นเราก็เริ่มออกแบบคร่าว ๆ ไว้ดูกันเอง
- หลังสรุปแบบกันแล้ว ก็เริ่มลงมือทำผนังก่อน ผนังนี่เราใช้ฝ้าแสนเชยที่บ้านเก่า ๆ ชอบใช้กัน จริง ๆ ลวดลายมันคลาสสิกอยู่แล้ว แค่นำมาตกแต่งดี ๆ ก็น่าจะสวย ที่สำคัญมันถูกมากครับ !
- แต่งคราบผนังอีกนิด
- เริ่มทาสีผนัง
- อันนี้เป็นผนังวีว่าบอร์ด แต่หลอกว่าเป็นผนังเหล็กแบบเนียน ๆ โดยติดเหล็กฉากและหมุดเหล็กที่ทำจากกระดุมสำเพ็งเข้าไป ทำให้หลายคนคิดว่าเป็นผนังเหล็กจริง ๆ
- เคาน์เตอร์บาร์เราก็ก่ออิฐกันเอง บิดเบี้ยวนิดหน่อย ยากจริง ๆ ตอนทำผมนับถือพี่ ๆ ช่างปูนเลย ต้องใช้ฝีมือและความแข็งแรงจริง ๆ จากนั้นใช้โครงไม้จ๊อยท์และไม้สนที่ซื้อจากโรงไม้ ให้เค้าตัดแล้วเรามาขัดและทาสีเคลือบอีกที แต่งขอบด้วยบัวไม้และท็อปไม้ ตอนแรกเราอยากได้ท็อปหินอ่อนแต่ไม่มีงบ ก็เลยใช้ไม้สนประสานมาขัดและทาสีใหม่
- อันนี้เป็นท่อนไม้ปลอมทำจากไม้สนประสานอีกนั่นแหละ เจาะรูแล้วใส่ไฟฮาโลเจนเข้าไป ให้อารมณ์ดิบ ๆ แล้วใช้สายไฟสีดำอย่างหนาพยุงกับรอกขนปูน อันละประมาณ 200-300 บาท ที่เค้าใช้ขนของในไซต์งานก่อสร้างมาพ่นสีดำ ให้ออกมาถูกใจและถูกเงิน เห็นไหมของถูกก็ทำให้เท่ได้
- ด้านหลังเป็นบาร์ชั้นวางของ เราให้ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างต๊าปเกลียวท่อเหล็ก แล้วเรามาเจาะต่อกันเอง วางไม้สนประสานลงไป ประหยัดกว่าซื้อสำเร็จจากร้านอีก
- ส่วนชั้น 2 ใช้ผนังฝ้าที่ทาสีดำล้วน ผนังด้านหลังใช้โครงไม้จ๊อยท์กับไม้สน ซ่อนไฟ LED เดินไฟเอง (อีกนั่นแหละ)
- โครงเหล็กอันนี้จ้างช่างทำเพราะเราไม่สามารถจริง ๆ ให้มืออาชีพทำเพื่อกระจายรายได้บ้าง จากนั้นก็ซ่อนไฟฟลูออเรสเซนต์ ร้านก็เริ่มดูชัดขึ้นแล้ว
- พื้นกระเบื้องเราไม่เอา อย่างเราต้องทาสีหลอกเอง กว่าจะปูกระเบื้องเสร็จปวดหลังไปหลายวัน (หลอก) และแล้ว...
- จบแล้วครับ ! สั้น ๆ เพียงเท่านี้ มาเล่าด้วยความภูมิใจที่ได้ลงมือทำด้วยมือตัวเอง หลาย ๆ อย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ถ้ารอพร้อมหมดคงไม่ได้ลงมือทำและมีร้านอย่างทุกวันนี้ ร้านชื่อ the hungry wolf fry bar and beer ถนนประชาอุทิศ เลยแยกเหม่งจ๋ายมาประมาณ 1 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับซอยประชาอุทิศ 23 ทางขวามือ แวะมาได้นะครับ ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ big farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
