อุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ เพราะถ้าหากมองข้ามไปอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้ ซึ่งหนึ่งในสถิติอุบัติเหตุที่พรากชีวิตคนไทยไปเป็นอันดับ 2 รองจากอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นก็คือ การลื่นล้มในบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่าง กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มคนที่เป็นโรคทางสมอง โรคทางหู โรคทางตา และรองลงมาก็จะเป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาการหน้ามืดเป็นลม คนที่ได้รับผลข้างเคียงจากยา และกลุ่มคนที่ใช้สุรา-ยาเสพติด เมื่อข้อมูลทางสถิติชัดเจนขนาดนี้ แล้วเราจะทนนิ่งดูดายไปได้อย่างไร อย่าปล่อยให้เรื่องที่สายเกินแก้เกิดขึ้นกับคนที่เรารักเลยค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าจุดเสี่ยงพื้นลื่นในบ้านนั้นจะมีจุดไหนบ้าง พร้อมกับวิธีการแก้ไขอย่างตรงจุด
1. ห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นจุดเสี่ยงอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเกตุลื่นล้มมากที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่เปียกที่มีทั้งคราบน้ำ คราบสบู่ และสิ่งสกปรก หากทรงตัวไม่ดีก็จะทำให้ลื่นล้มเอาได้ง่าย ๆ
2. บันได
บริเวณบันไดก็มีความเสี่ยงไม่แพ้ห้องน้ำ เพราะเป็นที่ที่มีความสูง ความลาดชัน และเป็นพื้นที่ต่างระดับ อาจจะทำให้เดินยาก และถ้าหากเกิดการลื่นล้มขึ้นมา ก็เสี่ยงเจ็บตัวมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ
3. ห้องครัว
เนื่องจากในห้องครัวอาจจะมีคราบน้ำมัน คราบอาหาร และคราบต่าง ๆ บนพื้นที่เราไม่ทันได้สังเกตเห็น จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่เสี่ยงที่ทำให้เกิดการลื่นล้มได้เหมือนกัน เช่น ตอนเดิน เอื้อมมือหยิบวัตถุดิบอาหาร และเอี้ยวเอนร่างกายขณะทำอาหาร
4. ระเบียง
ระเบียงบ้านเป็นส่วนยื่นออกไปนอกบ้านและเปิดโล่ง ฉะนั้นเมื่อเกิดฝนตกหรือน้ำค้างลงก็จะทำให้พื้นที่นั้นเปียก จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่อาจทำให้เกิดการลื่นล้มเช่นเดียวกับพื้นที่จุดอื่น ๆ ในบ้านได้
5. ทางเดิน
แม้จะเป็นจุดที่เสี่ยงน้อยที่สุดแต่ก็อย่ามองข้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะพื้นบ้านที่มีข้าวของวางระเกะระกะ รวมไปถึงคราบสกปรกต่าง ๆ หรือบริเวณที่โดนฝนสาด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำให้เสี่ยงลื่นล้มเช่นกัน
1. หมั่นทำความสะอาดพื้นบ้าน
สารพัดกิจกรรมที่ทำให้พื้นบ้านเปรอะเปื้อน ก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ และถ้ายิ่งหมักหมมไว้ ไม่ทำความสะอาด บรรดาคราบน้ำ คราบอาหาร สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บนพื้น ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการลื่นล้มได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นจึงควรหมั่นจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ ถูพื้นด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู เแล้วกรดในน้ำส้มสายชูก็จะช่วยกำจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ให้หายไป
2. เลือกวัสดุตกแต่งพื้นบ้านให้เหมาะสม
การเลือกวัสดุมาตกแต่งพื้นบ้าน นอกจากดูที่ความสวยงามแล้ว ก็ควรจะพิจารณาถึงพื้นที่ที่จะนำไปปูพื้นด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้วัสดุก็มีให้เลือกมากมายหลายชนิด รวมทั้งพื้นผิวของวัสดุที่แตกต่างกันออกไป หากจะตกแต่งพื้นห้องน้ำหรือห้องครัว ก็ควรเลือกวัสดุที่มีผิวหยาบ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะในการเดิน หลีกเลี่ยงวัสดุเนื้อมันวาวที่ทำให้ลื่นง่าย
3. ใช้อุปกรณ์กันลื่นในพื้นที่เสี่ยง
ถึงอย่างไรชีวิตประจำวันของเราก็ไม่มีทางหลีกหนีพื้นที่เปียก ๆ ของห้องน้ำไปได้พ้น ทางที่ดีควรจะหาซื้อแผ่นยางกันลื่นมาปูพื้นห้องน้ำและพื้นที่เปียกจุดอื่น ๆ เอาไว้ จะได้เดินสะดวกมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้อีกด้วย
4. คอยตรวจเช็กระบบท่อน้ำในบ้าน
อย่าละเลยกับระบบท่อน้ำในบ้านเด็ดขาด เพราะอาจจะมีท่อน้ำรั่วและมีน้ำเจิ่งนองพื้นบ้านโดยที่เราไม่รู้ตัว มิหนำซ้ำถ้าเผลอย่ำลงไปก็อาจจะลื่นล้มเอาได้ง่าย ๆ ทางที่ดีควรจัดตารางตรวจเช็กสภาพท่อน้ำในบ้านอยู่สม่ำเสมอ หากมีการรั่วซึมหรือชำรุดตรงไหน ก็รีบแก้ไขทันที
5. ติดตั้งแสงสว่างในบ้านให้ชัดเจน
หากที่บ้านมีแสงสว่างไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ต่อให้ไม่ใช่ผู้สูงวัยหรือเป็นคนสายตาดีขนาดไหน ก็อาจจะมองพื้นไม่ถนัดและเกิดพลาดลื่นล้มเอาได้ ทางที่ดีควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อติดตั้งไฟในบ้านให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณโถงบันได โถงทางเดิน ห้องน้ำ และพื้นที่ต่างระดับในบ้าน
6. ใช้น้ำยากันพื้นลื่น
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุลื่นล้มในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยากันพื้นลื่น ไม่ต้องลงทุนรีโนเวทพื้นบ้านใหม่ให้ยุ่งยาก หรือทำความสะอาดกันจนตาลาย คนในบ้านก็ไม่ต้องเสี่ยงกับการลื่นล้มแล้ว ที่สำคัญยังสามารถใช้ได้หลายพื้นผิวและทุกที่ แม้พื้นที่กว้างก็ไม่มีปัญหา เพราะสามารถหยุดอุบัติเหตุลื่นล้มในบ้านได้ง่าย ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์น้ำยาจระเข้กันพื้นลื่นแบบขวดและแบบสเปรย์
- ผลิตภัณฑ์น้ำยาจระเข้กันพื้นลื่นแบบขวด เหมาะกับพื้นที่ที่เปียกน้ำบ่อย ๆ อย่างเช่น ห้องน้ำ ลานซักล้าง และจุดอื่น ๆ ซึ่งเหมาะสมกับพื้นกระเบื้องทุกชนิด ยกเว้นกระเบื้องเคลือบแก้ว ใช้ง่าย ๆ เพียงเทน้ำยาลงบนฟองน้ำ แล้วปาดบนพื้นให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 60 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- ผลิตภัณฑ์จระเข้กันพื้นลื่นแบบสเปรย์ สีใส เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเด็ด ๆ ที่สามารถใช้ได้หลากหลายวัสดุ เช่น ไม้ คอนกรีต เหล็ก ไฟเบอร์กลาส โลหะ และวัสดุอื่น ๆ โดยการสร้างผิวสัมผัสทีหยาบ เพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้ทั้งในและนอกอาคาร ใช้ง่าย ๆ โดยฉีดสเปรย์ลงบนพื้นทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องล้างออก
เห็นไหมคะว่าอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกวินาที แม้กระทั่งพื้นที่ภายในบ้านที่แม้ว่าจะดูว่าปลอดภัยที่สุด แต่ก็กลับเป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มมากที่สุดเช่นกัน ดังนั้นมาปกป้องตัวเราและคนที่เรารักกันด้วยคำแนะนำดี ๆ ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ดีกว่าค่ะ
