8 ไม้ประดับตัดใบ อยากจะปลูกไว้ใช้ มาเรียกให้ถูกกันเถอะ

8 ไม้ประดับตัดใบ สำหรับปลูกตัดใบประดับบ้าน ไม้ตัดใบ คืออะไร และไม้ประดับตัดใบ มีอะไรบ้าง วันนี้เรารวมพันธุ์ไม้ตัดใบประเภทไม้ประดับพร้อมชื่อ มาให้รู้จักกันแล้ว

ไม้ตัดใบ คือ พันธุ์ไม้ที่ปลูกไว้ตัดใบ ซึ่งส่วนใญ่จะปลูกเพื่อขายสำหรับนำไปตกแต่งอาคาร สถานที่ และบ้านเรือน เช่น จัดช่อดอกไม้หรือปักแจกัน สำหรับวันนี้กระปุกดอทคอมอยากจะเอาใจคนชอบปลูกต้นไม้ ด้วย 8 ไม้ประดับตัดใบ ที่มีใบสวย ๆ แปลกตา สามารถปลูกตัดใบไว้ปักแจกันได้มาฝาก แต่ก่อนจะซื้อมาปลูกมาทำความรู้จักชื่อ ลักษณะพิเศษของไม้ประดับตัดใบแต่ละชนิด พร้อมวิธีดูแลและบำรุงต้นให้ใบสวยงามกันก่อนเลยค่ะ

1. ฟิโลเดนดรอน ซานาดู

ฟิโลเดนดรอน ซานาดู (Philodendron Xanadu) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Philodendron xanadu Croat, Mayo & J.Boos เป็นไม้ตัดใบ ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ ใบมีลักษณะยาว ขอบใบเว้าลึกเกือบถึงเว้นกลางใบและแตกเป็นแฉกแบบขนนกมี 7 แฉก ใบหนา ผิวเรียบเกลี้ยง เป็นมัน และมีสีเขียวเข้ม เห็นเส้นใบสีเขียวอ่อนชัดเจน ความยาว 17-24 เซนติเมตร กว้าง 13-16 เซนติเมตร มีดอกบริเวณซอกใบสีขาว เป็นไม้ประดับที่ดูแลง่าย ชอบดินร่วน ต้องการน้ำปานกลาง และแสงแดดรำไร

2. ฟิโลเดนดรอน เซลลอม

ฟิโลเดนดรอน เซลลอม (Lacy tree philodendron หรือ selloum) หรือที่เรียกทั่วไปว่า ฟิโลเดนดรอน ใบมะละกอ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Philodendron bipinnatifidum ลักษณะคล้ายกับฟิโลเดนดรอน ซานาดู เพราะเป็นพืชในตระกูลเดียวกัน แต่มีความแตกต่างที่ ฟิโลเดนดรอน เซลลอม มีใบใหญ่กว่า ความกว้าง 20-30 เซนติเมตร ยาว 47-51 เซนติเมตร โคนเว้าขอบหยักลึก ปลายแหลม มี 8 แฉก แต่ละแฉกมีขอบหยักเล็กน้อย ใบหนา เป็นมัน มีสีเขียวเข้มเห็นเส้นใบสีเขียวอ่อนชัดเจน ชอบดินร่วน ต้องการความชื้น แสงแดด และน้ำปานกลาง ข้อดีของฟิโลเดนดรอนชนิดนี้นอกจากปลูกประดับบ้านและตัดใบประดับได้แล้ว ยังช่วยอากาศที่เป็นสารพิษในบ้านได้ด้วย

3. มอนสเตอร่า (พลูฉีกหรือพลูแฉก)

มอนสเตอร่า หรือที่ในไทยเรียกว่า พลูฉีกหรือพลูแฉก ( Mexican breadfruit หรือ Swiss cheese plant) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera deliciosa Liebm. เป็นไม้เลื้อยเขตร้อน มีใบสวยเป็นมัน ลักษณะรูปทรงใบคล้ายรูปหัวใจ แต่ขอบใบจะฉีกลึกและมีรอยเว้าแหว่ง ผิวใบจะมีสีเขียวสด ไม่ทิ้งใบง่าย และมีก้านยาวและแข็ง ดูแลง่าย ทนทานต่อโรค ปลูกได้ทั้งในในร่มและกลางแจ้งที่โดดแสงรำไร หากโดนแดดจัดเกินไปจะทำให้ใบไหม้

4. เฟินนาคราช

เฟินนาคราช (Davallia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Davallia trichomanoides Bl. เป็นเฟินที่มีเหง้าเลื้อยไปได้ไกล พบได้ทั้งบนดิน โขดหิน และบนต้นไม้ เหง้ามีขนสีเหลืองปกคลุมแน่น ใบมีลักษณะสวยงามโดดเด่น คือ เป็นใบประกอบแบบขนนก 3-4 ชั้น ทรงสามเหลี่ยม มีใบย่อยขนาดสีเขียวสดผิวเรียบ เป็นมัน มีแถวสปอร์เกิดบนเส้นใบใกล้ขอบใบย่อยที่ปลายใบ โคนก้านสีดำ ปลายสีเขียว ส่วนใหญ่พบในป่าค่อนข้างชื้น แต่ก็สามารถปลูกที่บ้านได้ ดินที่เหมาะแก่การปลูกคือดินร่วน วัสดุโปร่งระบายน้ำได้ดี หรือดินที่มีอินทรีวัตถุสูง รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง แต่ระวังอย่ามากจนแฉะเพราะจะทำให้รากเน่า และลดปริมาณน้ำลงในช่วงหน้าฝนกับหน้าหนาว

5. โปร่งฟ้า

โปร่งฟ้า (Asparagus Fern หรือ Plumosa Fern) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Asparagus setaceus เป็นพืชที่มีใบสีเขียวเข้มแผ่ออกเป็นแผง โคนใบกว้าง ปลายใบแหลม ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย มีดอกสีขาวกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีอายุยืนหลายปี โดยทั่วไปจะขึ้นได้ดีในดินร่วนปนทราย ซึ่งต้องเป็นดินระบายน้ำได้ดีและมีความชื้นสูง ส่วนเรื่องแสงแดด จริง ๆ แล้วโปร่งฟ้าชอบแดดรำไร แต่ก็ยังสามารถขึ้นได้ดีในบริเวณกลางแจ้งหรือที่ การรดน้ำควรรดเช้า-เย็นในช่วง 1-4 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นเหลือวันละครั้ง แต่ต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ

6. เฟิร์นใบมะขาม

เฟิร์นใบมะขาม (Herringbone fern หรือ Fishbone fern) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Nephrolepis cordifolia Presl. เป็นพืชทรงพุ่ม แตกใบเป็นกอ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ขึ้นเป็นคู่ซ้าย-ขวาตามก้านใบ ความกว้าง 6 เซนติเมตร ยาวได้ถึง 80 เซนติเมตร แต่ละก้านอาจมีใบย่อยมากถึง 50 ใบ ขอบใบหยักเล็กน้อย มีสปอร์ขึ้นใกล้ขอบใบบริเวณใต้ใบ สามารถปลูกได้กับดินทุกชนิด ปลูกได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ชอบแดดรำไร และต้องการน้ำปานกลาง ดินไม่ควรปล่อยให้แฉะ

7. เฟิร์นฮาวาย

เฟิร์นฮาวาย (Maile-Scented Fern หรือ The wart fern of Hawaii) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phymatosorus grossus เป็นพืชที่ขึ้นเป็นกอ มีใบสีเขียวอมเทาแตกออกจากเหง้าเป็นรูปทรงคล้ายพัด โดยใบจะเรียงกันถี่ มีเส้นสีเขียวอ่อนอยู่บริเวณกลางใบ พอโตเต็มที่ก็จะมีลวดลายกลม ๆ โผล่ขึ้นมาอย่างชัดเจนในบริเวณด้านหลังใบมีปุ่มสปอร์สีส้มที่ตัดกับสีเขียวสด ช่วยให้ใบเฟิร์นฮาวายดูโดดเด่นและสดใสขึ้น ส่วนในเรื่องของการดูแล บอกได้เลยว่าเฟิร์นฮาวายเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ออกใบสวยตลอดปี แถมไม่ต้องดูแลมาก เพียงแค่อย่าให้ขาดน้ำ เนื่องต้นไม้เฟิร์นฮาวายชอบความชื้น ส่วนเรื่องแสงแดดก็สามารถปลูกได้ทั้งกลางแจ้งและในร่มเลยค่ะ

8. หมากเหลือง

หมากเหลือง (Yellow palm หรือ Butterfly palm) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Chrysalidocarpus lutescens. เป็นปาล์มประดับความสูงไม่มาก อายุยืน และดูแลง่าย ทำให้เป็นนิยมนำไปจัดสวน ลักษณะใบคล้ายใบมะพร้าวแต่มีขนาดเล็กกว่า ความกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร และยาว 40-60 เซนติเมตร ผิวและขอบใบเรียบ สีเขียวอมเหลือง แต่ละทางใบมีใบย่อยขึ้นเยื้องสลับซ้าย-ขวาจนสุดปลายก้าน เป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี จะในร่มหรือกลางแจ้งก็ได้ แต่ควรเป็นที่แดดรำไร ให้น้ำทุก ๆ 3 วัน หรือรดให้ดินพอชุ่ม

ใบไม้สวย ๆ แปลก ๆ มีให้เลือกประดับแจกันมากมายขนาดนี้ หากใครเบื่อที่จะใช้ดอกไม้ในการตกแต่งแจกันแล้ว ลองปลูกหรือหาใบต่าง ๆ เหล่านี้มาใช้ ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่เข้าท่าไม่น้อยเลยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิโครงการหลาง, ข้อมูลพันธุ์ไม้/ฟิโลเดนดรอน ซานาดู, panmai/ฟิโลเซลลอม, ข้อมูลพันธุ์ไม้/ฟิโลเดนดรอน ซีลอม, ข้อมูลพันธุ์ไม้/ฟิโลเดนดรอน ลูกผสม, องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน, องค์การสวนพฤกษศาสตร์, puechkaset/การปลูกโปร่งฟ้า, องค์การสวนพฤกษศาสตร์/เฟินใบมะขาม, ข้อมูลพันธุ์ไม้/เฟินใบมะขาม, ข้อมูลพันธุ์ไม้/เฟินก้างปลา, Biogang, davesgarden, puechkaset/หมากเหลือง