เลอะได้ ก็ล้างได้ ! รวมวิธีลบรอยปากกาเคมีบนวัสดุต่าง ๆ ในบ้าน บอกเลยสกปรกแค่ไหนก็เอาอยู่ ด้วยของใช้ในบ้านหาง่ายใกล้ตัว
![คราบปากกาเคมี]( "คราบปากกาเคมี")
![วิธีลบรอยหมึกปากกาเคมี]( "วิธีลบรอยหมึกปากกาเคมี")
![รอยปากกาเคมี]( "รอยปากกาเคมี")
![วิธีลบรอยหมึกปากกาเคมี]( "วิธีลบรอยหมึกปากกาเคมี")
ต้องยอมรับเลยว่าปากกาเคมี หรือปากกาเมจิก เป็นของโปรดคู่ใจเด็กวัยกำลังโต ฉะนั้นหลาย ๆ บ้านที่มีลูกน้อยจึงมักจะเจอปัญหาของใช้ในบ้านเลอะรอยปากกาอยู่เป็นประจำ อ๊ะ ๆ ๆ แต่ต่อจากนี้ไม่ต้องกังวลกันอีกแล้ว เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีทำความสะอาดคราบปากกาเคมีบนวัสดุหรือของใช้ชนิดต่าง ๆ มาฝาก รับรองครอบคลุมครบถ้วนทุกประเภท เอาเป็นว่าจะมีอะไร ทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูวิธีทำความสะอาดรอยปากกากันได้เลย
1. เสื้อผ้า
หากเสื้อผ้าตัวโปรดของใครเปื้อนปากกาเคมีละก็ ให้ฉีดสเปรย์แต่งผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ลงบนคราบ แล้วปล่อยทิ้งไว้สักพัก เท่านี้ก็จะช่วยสลายรอยเลอะออกไปได้มากแล้ว หลังจากนั้นก็นำไปซักแบบปกติได้เลย หรือหากใครไม่มีสเปรย์ฉีดผมจะใช้อีกหนึ่งเคล็ดลับก็ได้นั่นคือ นำเสื้อผ้าบริเวณที่เปื้อนปากกาเคมีคว่ำลงบนกระดาษชำระ จากนั้นนำรับบิ้งแอลกอฮอล์ถูเรื่อย ๆ จนหมึกซึมสู่กระดาษ แล้วค่อยล้างออกและซักแบบปกติก็ได้
2. เครื่องหนัง
ไม่ว่าจะชุดหนังหรือเฟอร์นิเจอร์หนัง หากเลอะปากกาเคมีแล้วสามารถลบออกได้ง่ายมาก เริ่มด้วยการนำเบกกิ้งโซดาโรยไปบนคราบปากกาเคมี แล้วใช้แปรงสีฟันขัดเบา ๆ แบบวนเป็นวงกลม เท่านี้ก็จะช่วยทำความสะอาดเครื่องหนังให้ไร้รอยปากกากวนใจได้แล้ว
3. กระจก
สำหรับกระจกที่เลอะปากกาเคมี ให้นำน้ำยาล้างเล็บ รับบิ้งแอลกอฮอล์ หรือยาสีฟันผสมเบกกิ้งโซดา ป้ายใส่กระดาษชำระ แล้วนำไปเช็ด ๆ ถู ๆ เพื่อกำจัดคราบสกปรกออกจากกระจกได้เลย
4. พลาสติก
ต้องบอกเลยว่าวิธีลบปากกาเคมีบนพลาสติก เช่น ของเล่น ถังขยะ สามารถทำได้หลากหลายวิธีมาก จะใช้ยางลบมาลบออกก็ได้ จะใช้ปากกาไวท์บอร์ดมาเขียนทับแล้วเช็ดออกก็ดี จะใช้เจลล้างมือ รับบิ้งแอลกอฮอล์ หรือครีมกันแดด มาป้ายแล้วล้างออกก็เด่น เอาเป็นว่าใครมีไอเทมไหนก็เลือกได้ตามสะดวกเลยค่ะ
5. กระดานไวท์บอร์ด
หลายคนกังวลเวลาเผลอเขียนปากกาเคมีลงบนกระดานไวท์บอร์ดแล้วลบไม่ออก แต่ต้องบอกเลยว่าวิธีแก้ปัญหานี้ง่ายเว่อร์ เพียงแค่นำปากกาไวท์บอร์ดมาเขียนทับรอยเดิม จากนั้นก็นำผ้าเปียกมาเช็ดออกให้สะอาด หรือจะนำแปรงลบกระดานมาเช็ดออกก็ได้ บอกเลยว่าง่าย เร็ว สะดวก แถมเห็นผลดีมากเลยล่ะ
6. ผนังบ้าน
แน่นอนว่าผนังเป็นจุดที่เด็ก ๆ ชอบนำปากกาเคมีมาขีดเขียนมากที่สุด ทว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลไป เพราะความจริงแล้วเราสามารถลบปากกาบนผนังได้หลากหลายวิธี เช่น นำรับบิ้งแอลกฮอล์ สเปรย์แต่งผม หรือยาสีฟัน ไปป้ายบนคราบ ขัดอย่างเบามือแล้วเช็ดออก แต่ถ้าหากใครอยากให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นละก็ขอแนะนำน้ำมันหอมระเหยมะนาว เพราะความเป็นกรดของมะนาวและน้ำมันทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม ไร้สารเคมี แถมกลิ่นหอมด้วย แต่ไม่ว่าจะใช้อะไรขัดก็ต้องระวังสักหน่อย ขืนทำแรงมากเกินไปอาจจะทำให้สีผนังหลุดล่อนออกมาได้
7. กระเบื้อง
กระเบื้องเป็นอีกหนึ่งจุดที่เลอะปากกาเคมีได้ง่าย แต่ต้องบอกเลยว่าสามารถลบออกได้ง่ายเช่นกัน โดยสามารถใช้ได้ทั้งยาสีฟันหรือสเปรย์แต่งผม นำไปฉีด ๆ ป้าย ๆ แล้วใช้แปรงสีฟันเก่าหรือสำลีก้อนมาขัดออก ซึ่งกระเบื้องแบบเรียบจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ส่วนกระเบื้องที่มีลวดลายอาจจะต้องออกแรงสักนิดนึงค่ะ
8. โลหะ
อีกหนึ่งของใช้ในบ้านที่สามารถลบปากกาเคมีได้ง่ายมากก็คือ โลหะหรือสเตนเลส โดยเราสามารถใช้ปากกาไวท์บอร์ด รับบิ้งแอลกอฮอล์ หรือยาสีฟัน ในการเช็ดทำความสะอาดบนคราบโดยตรงได้เลยเหมือนกัน
9. ไม้
ขั้นตอนการลบปากกาเคมีบนพื้นไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน เพียงป้ายรับบิ้งแอลกอฮอล์ ยาสีฟัน หรือเนยถั่ว ลงบนคราบ ปล่อยทิ้งไว้สักพักเพื่อให้วัตถุดิบทำงาน จากนั้นนำผ้าเปียกหมาดมาเช็ดและซับออก ทำวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะหลุดออกหมด แต่ทางที่ดีอย่าลืมลองทำในมุมที่ไม่ค่อยเด่นก่อน เพื่อเช็กว่าจะไม่ทำร้ายเนื้อไม้หรือไม่ลบน้ำยาเคลือบออกไปด้วยนั่นเอง
10. เบาะโซฟา
ตัวช่วยลบรอยปากกาเคมีบนเบาะโซฟามีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเบกกิ้งโซดาหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ แต่ที่เห็นผลดีสุด ๆ คงต้องยกให้กับการผสมน้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำเย็น 2 ถ้วยตวง เข้าด้วยกัน จากนั้นนำผ้าขาวมาจุ่มแล้วนำไปป้ายลงบนคราบ ปล่อยทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง แต่ให้ซับน้ำยาซ้ำทุก 5 นาที หลังจากนั้นก็ป้ายรับบิ้งแอลกอฮอล์ทับลงไปอีกครั้ง พร้อมนำผ้ามากดซับ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด และกด ๆ ทับ ๆ จนกว่าจะดูดซึมน้ำออกมาหมดค่ะ
11. ลามิเนต
วิธีทำความสะอาดพื้นหรือเคาน์เตอร์ลามิเนตที่เลอะปากกาเคมีแบบไม่เป็นอันตรายหรือไม่ทำให้ขุ่นมัว ต้องยกให้กับน้ำมันพืช โดยมีขั้นตอนคือ ป้ายน้ำมันลงบนกระดาษชำระ จากนั้นวางกระดาษทับรอยปากกา ปล่อยทิ้งไว้สัก 2-3 นาที เพื่อให้น้ำมันทำให้รอยจางลง เสร็จแล้วเอากระดาษแผ่นเดิมออก พร้อมนำกระดาษแผ่นใหม่ไปจุ่มน้ำมัน แล้วถูบนคราบอีกครั้งแบบแรง ๆ และวน ๆ จนรอยปากกาหลุดออกเกือบหมด จึงผสมสบู่และน้ำเปล่าเพื่อล้างทำความสะอาดตามอีกที
12. แกรนิต
ถ้าหากพื้นหรือเคาน์เตอร์แกรนิตของใครเลอะปากกาเคมีละก็ สามารถใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เช็ดออกได้เลย แต่สิ่งสำคัญคือ อย่าปล่อยให้ส่วนผสมเซตตัวอยู่บนแกรนิตนานเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายได้
13. หินอ่อน
สำหรับพื้นผิวที่เป็นหินอ่อนก็สามารถลบรอยปากกาเคมีได้ง่าย ๆ เช่นกัน โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำอุ่นผสมสบู่เล็กน้อยนำมาเช็ดบริเวณที่มีคราบ ก่อนใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำ หากยังมีรอยหมึกเหลืออยู่ให้นำผ้าชุบรับบิ้งแอลกอฮอล์เล็กน้อยนำไปทำความสะอาด และเช็ดซ้ำเบา ๆ ด้วยผ้าชุบแอมโมเนียจนกว่าคราบจะหายไป แล้วใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดอีกรอบ
14. พรมเช็ดเท้า
วิธีลบปากกาเคมีบนพรมที่นิยมที่สุดคือ นำรับบิ้งแอลกอฮอล์ป้ายลงบนคราบ ปล่อยให้แห้ง แล้วซับด้วยผ้าสะอาดและเปียกหมาด พยายามอย่าถูเพื่อป้องกันพรมเสียหาย เท่านี้ก็จะช่วยกำจัดคราบออกได้อย่างดี หรือไม่เช่นนั้นจะใช้น้ำยาล้างเล็บซับเบา ๆ บนคราบก็ได้ หรือหากใครอยากกำจัดอย่างมีประสิทธิภาพก็ให้ผสมน้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำเย็น 2 ถ้วย เข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปถู ๆ เช็ด ๆ บนคราบ รับรองสะอาดเกลี้ยงชัวร์
15. ตู้ครัว
เพียงแค่นำสำลีจุ่มน้ำมันพืชแล้วขัด ๆ เช็ด ๆ ถู ๆ เป็นวงกลมบนรอยปากกาที่เลอะบนตู้ครัว จากนั้นนำผ้าเปียกบิดหมาด ๆ มาปาดเพื่อล้างออก ก็จะลบรอยปากกาเคมีบนฝาตู้ครัวได้อย่างง่ายดายแล้วค่ะ
16. เขียง
เขียงไม้หรือเคาน์เตอร์ไม้ที่เลอะปากกาเคมีสามารถลบออกได้อย่างง่ายดาย โดยมีขั้นตอนคือ โรยเกลือลงไป แล้วนำมะนาวผ่าครึ่งซีกมาถูบริเวณที่มีคราบ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้สัก 1 คืน ตอนเช้าค่อยมาเช็ดทำความสะอาด พร้อมกำจัดรอยปากกาเคมีให้เกลี้ยงได้เลย
17. วอลเปเปอร์
ขั้นแรกให้ลองใช้ยางลบถูบริเวณที่มีรอยหมึกเบา ๆ ระวังอย่าให้วอลเปเปอร์ขาด ถ้าคราบหมึกฝังแน่นลบไม่ออกให้เช็ดบริเวณที่มีคราบเบา ๆ ด้วยฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาด ๆ และใช้ผ้าสะอาดเช็ดซ้ำ
นอกจากเด็กเล็กจะชอบขีดเขียนไปทั่วบ้านแล้ว บางครั้งผู้ใหญ่ก็เผลอทำเลอะได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นควรศึกษาวิธีลบปากกาเคมีบนวัสดุต่าง ๆ ไว้ เผื่อคราวหน้าเจอรอย เจอคราบที่ไหน จะได้รีบลบทัน ไม่ทำให้รอยฝังแน่นจนกำจัดได้ยากนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : familyhandyman.com และ cos.net.au
