12 ต้นไม้จัดสวนใบด่าง ชอบแดด ทนร้อน โตไว ดูแลง่าย !

แนะนำ 12 ต้นไม้ใบด่าง ต้นไม้จัดสวน น่าปลูก ที่ชอบแดด ทนต่อสภาพอากาศ เหมาะกับเมืองไทย โตไว ดูแลง่าย ที่สำคัญยังทำให้สวนสวยงาม ดูแปลกตา แถมไม่จำเจ

ต้นไม้จัดสวนทั่วไปมักจะมีไม้ใบสีเขียว บอกเลยว่า ต้นไม้ใบด่าง กำลังมาแรงเอามาก ๆ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มสีสัน ทำให้สวนดูแปลกใหม่ ไม่จำเจเหมือนเดิมแล้ว ต้นไม้ใบด่างหลายชนิดยังทนต่อสภาพอากาศต่าง ๆ เหมาะกับเมืองร้อนอย่างบ้านเราที่สุด แต่จะมีต้นไม้ใบด่างชนิดไหนบ้างที่น่าปลูกจัดสวน ตามไปดูกันเลย

พลูด่าง (Devil's ivy หรือ Golden Pothos) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Epipremnum aureum เป็นไม้เลื้อย ลำต้นกลมและอ่อน รากเป็นรากอากาศ ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา สีเขียวปนเหลืองหรือขาว นิยมปลูกกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ พลูด่างยักษ์ พลูด่างราชินีหินอ่อน และพลูด่างราชินีสีทอง สามารถปลูกลงในกระถางหรือในแจกันก็ได้ ทนโรค ทนแมลง โตได้ในทุกสภาพ ดูแลไม่ยาก ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย ส่วนใหญ่ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินร่วนที่ผสมปุ๋ย ทรายหยาบ และใบไม้แห้งอัตราส่วน 2:1:1:1 ชอบอุณหภูมิ 18-24 องศาเซลเซียล ต้องการแสงแดดจัด ต้องการความชื้นสูง ต้องการน้ำสัปดาห์ละครั้ง หรือแล้วแต่สภาพหน้าดินและอากาศ

พุดด่าง พุดใบเงิน หรือมะลิฝรั่ง (Clavel de la India, Cape Jasmine หรือ East Indian Rosebay) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Taberneamontana divaricata (L.) R.Br. ex Roem. & Schult. cv. Grandifolia เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นมียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ สีเขียวปนขาว ดอกออกเป็นช่อตามปลายยอด สีขาว มีกลิ่นหอม ส่วนผลเป็นฝักคู่ สีเขียวเข้มอมส้มจนถึงแดง มีเมล็ดข้างใน โตเร็วปานกลาง นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ชอบแสงแดดเต็มวัน และชอบความชื้นสูง

เตยด่าง (Blue Screw Pine หรือ White Striped Pandanus) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pandanus sanderi Sander ex M.T. Mast เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะเป็นกอ ข้อถี่ มีรากอากาศขนาดใหญ่ค้ำยัน ใบออกรอบลำต้นเรียงชิดติดกัน ค่อนข้างหนาแน่น ทรงใบแคบ เรียวและยาว ปลายใบแหลม มีสีเขียวปนลายด่างสีขาวหรือเหลือง สามารถปลูกได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ต้องการความชื้นสูง แข็งแรง ทนทาน ไม่กลัวน้ำท่วม และสามารถปลูกป้องกันดินพังทลายได้

ชบาด่าง หรือชบาด่างสามสี (Chinese Rose หรือ Shoe Flower) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Hibiscus rosa-sinensis L. 'Cooperi' เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นสีเทาอมน้ำตาล กิ่งก้านเยอะ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบหยัก ผิวใบมีสีเขียวปนด่างสีแดง หรือสีเขียวปนด่างสีขาว ดอกออกตามปลายกิ่ง สีแดง บานตลอดปี ผลแห้ง รูปไข่กลับ มีเมล็ดเล็กข้างใน ปลูกง่าย โตเร็ว ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ชอบแสงแดดเต็มวัน และชอบความชื้นปานกลาง

แสยกด่าง หรือแสยกสามสี (Zigzag Plant) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Euphorbia tithymaloides L. เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1 เมตร ลำต้นสีเขียวอมเทา มียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบเรียว ขอบใบเว้า แผ่นใบหนา ผิวใบเรียบ สีเขียวอ่อนปนรอยด่างสีขาวนวล สีแดง หรือสีชมพู ดอกออกเป็นช่อตามปลายยอด มีสีแดงหรือสีม่วง นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โตได้ในดินทุกประเภท ชอบแสงแดดรำไรถึงแสงแดดจัด ไม่ต้องการน้ำมาก ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย

ทองหลางด่าง หรือทองหลางลาย (Indian Coral Tree หรือ Tiger Claw) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Erythrina variegata L. เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ ยอดทึบ สูงประมาณ 10-25 เมตร ลำต้นและกิ่งมีหนามสั้น ใบเรียงสลับรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายหนัง สีเขียวเข้มเป็นมันปนลายสีเหลืองตามเส้นใบ ดอกออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่งรูปถั่ว สีแสดหรือสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน ติดช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ส่วนผลเป็นฝักทรงกระบอกสีน้ำตาลเข้ม มีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลแดง ส่วนใหญ่มักจะปลูกในแปลง นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง ชอบดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด ชอบน้ำปานกลางประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นพอสมควร ทนโรคได้ค่อนข้างดี แต่ต้องระวังเพลี้ยกัดแทะใบ

ยางอินเดียด่าง (Variegated Indian Rubber) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ficus elastica Roxb. ex Hornem. ‘variegata’ เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 3-10 เมตร ลำต้นสีน้ำตาล มียางสีขาว และมีรากอากาศ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่กลับ ปลายใบเรียว โคนใบสอบ แผ่นใบหนา ออกสีเขียวมีขอบสีครีมอมเหลือง ดอกเป็นช่อขนาดเล็ก ไม่มีกลีบ ส่วนผลเป็นทรงกลมรีขนาดเล็ก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง โตได้ในดินทุกประเภท ชอบแสงแดดอ่อน ๆ และต้องการน้ำปานกลางจนถึงมาก ให้เช็กจากสภาพหน้าดินเป็นหลัก

มะขามเทศด่าง (Manila Tamarind หรือ Madras Thorn) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pithecellobium dulce (Roxb.) Benth. 'Variegata' เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงกลาง สูงไม่เกิน 3 เมตร ลำต้นตั้งตรง ยอดทึบ ใบดกหนา กิ่งก้านเยอะ มีหนามแหลม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกรูปไข่ ปลายใบมน โคนใบมน ขอบใบเรียบ ใบแก่มีสีขาวปนรอยด่างสีเขียวอมเหลือง ใบอ่อนมีสีชมพูปนรอยด่างสีเขียวอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อตามปลายยอด สีเขียวอมเหลืองหรือสีขาว บานตลอดปี ผลเป็นฝักแบน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง โตได้ในดินทั่วไป แต่ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดีเป็นพิเศษ ชอบความชื้นต่ำ ชอบแสงแดดรำไรหรือแสงแดดจัดเต็มวัน สามารถตัดแต่งทรงให้สวยงามได้

ซุ้มกระต่ายด่าง หรือเศรษฐีไซ่ง่อน (Variegated Mondo Grass) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ophiopogon jaburan (Kunth) Lodd. เป็นไม้คลุมดิน สูงประมาณ 15-35 เซนติเมตร ลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกาบหุ้มลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปแถบ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียว-ขาวบริเวณเส้นใบและขอบใบ ดอกออกเป็นช่อ ก้านชูตั้ง สีขาว ผลสดมีเนื้อและเมล็ดข้างใน นิยมปลูกจัดสวนหย่อมหรือปลูกแขวนกระถาง เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก เจริญเติบโตได้ในดินทั่วไป ชอบแสงแดดรำไร ชอบความชื้นปานกลางถึงสูง

บุษบาฮาวายด่าง (Chinese Violet, Coromandel หรือ Creeping foxglove) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Asystasia gangetica (L.) T.Anderson เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย สูงประมาณ 1-1.5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่หรือหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบขรุขระและเป็นมัน สีเขียวมีด่างสีขาว ดอกออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง มีสีขาว สีเหลือง และสีม่วงอ่อน ออกตลอดทั้งปี นิยมปลูกเป็นไม้ประดับหรือไม้คลุมดิน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ เลี้ยงง่าย ชอบดินร่วน ชอบแสงแดดปานกลาง และต้องการน้ำปานกลาง

ไทรสามเหลี่ยมด่าง ไทรด่างรูปหัวใจ หรือสาลิกาด่าง (Mistletoe Fig หรือ Mistletoe Rubber Plant) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ficus deltoidea (Variegated) เป็นไม้ผลัดใบ สูงไม่เกิน 7 เมตร ลำต้นสีเทา มียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่กลับ ปลายใบมน โคนใบสอบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบสีเขียวมีขอบด่างสีขาว ดอกออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง สีขาวนวล ส่วนผลเป็นทรงกลม นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือตอนกิ่ง โตได้ในดินทุกประเภท ต้องการแสงแดดเต็มวัน ต้องกลางน้ำปานกลาง ทนความแห้งแล้งได้ค่อนข้างดี

สาวน้อยประแป้ง หรือว่านหมื่นปี (Dumb Cane) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dieffenbachia Exotica เป็นไม้ประดับที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษ ฟอกอากาศ และคายความชื้น ลำต้นตั้งตรง ทรงกลม อวบน้ำ ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเป็นวง แตกออกมาจากปลายต้น ลักษณะคล้ายใบพาย โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียว มีเส้นกลางใบ และมีลายประสีขาวหรือสีเหลืองทั่ว ดอกออกเป็นช่อบริเวณปลายยอด ลักษณะคล้ายดอกหน้าวัว ส่วนผลคล้ายเครือกล้วย มีเมล็ดทรงกลมข้างใน สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำ และแยกหน่อ ถ้าปลูกในกระถางควรใช้เป็นกระถางดินเผา ชอบดินร่วนซุยที่ผสมวัสดุอินทรีย์ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก และทรายหยาบหรือเศษใบไม้ ชอบอุณหภูมิ 16-27 องศาเซลเซียล ชอบแสงแดดรำไร ไม่ชอบแดดจัดเต็มวัน ต้องการความชื้นสูง ต้องการน้ำปานกลางประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ควรระวังน้ำแฉะเกินไป และใส่ปุ๋ยละลายน้ำได้เดือนละ 1-2 ครั้ง

เป็นอย่างไรบ้างคะ มีไม้ใบด่างสวย ๆ ให้เลือกเยอะใช่ไหม ? เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่รู้จะปลูกต้นไม้จัดสวนอะไรดี ก็ขอให้เก็บรายชื่อพรรณไม้เหล่านี้เอาไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะนอกจากจะช่วยให้สวนสว่าง สดใส และน่ามองแล้ว แต่ละต้นยังปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก แถมแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราสุด ๆ ไปเลย