5 วิธีกำจัดราบนหนังด้วยของใช้ในบ้านหาง่ายใกล้ตัว เคล็ดลับขจัดจุดสกปรกเล็ก ๆ ด่าง ๆ ให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่ ไฉไลเหมือนเดิม แถมน่าใช้งานทุกวัน
![โซฟาหนัง]( "โซฟาหนัง")
![โซฟาหนัง]( "โซฟาหนัง")
หากพูดว่า เชื้อรา เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของหนังก็คงไม่ผิดนัก เพราะเพียงแค่เราเผลอหรือดูแลไม่ดีสักหน่อย วัสดุที่ทำมาจากหนังก็มักจะขึ้นราให้เห็นกันอยู่เสมอ แถมนอกจากเรื่องความสกปรกแล้ว ราบนหนังยังทำลายพื้นผิว ส่งกลิ่นเหม็นกวนใจ และปล่อยสารก่อภูมิแพ้ได้อีกต่างหาก ฉะนั้นแทนที่จะปล่อยทิ้งไว้หรือโยนทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย เรามาดูวิธีทำความสะอาด โดยการกำจัดราบนหนังให้สิ้นซาก เด็ดขาด แต่ปลอดภัยกันดีกว่า อ๊ะ ๆ ๆ แต่ก่อนอื่นลองมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ราขึ้นหนังกันสักหน่อยค่ะ
ราบนหนังเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
เพราะในอากาศปกติล้วนมีเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าหากเราเก็บรักษาข้าวของไม่ดี ก็จะทำให้เสี่ยงเกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย โดยทั่วไปแล้วเชื้อรามักจะชอบบริเวณที่มีความชื้นสูง อุณหภูมิอบอุ่น และอากาศถ่ายเทไม่ดี ยิ่งในพื้นที่ที่สภาพอากาศนิ่ง คือ ความร้อนและความชื้นไม่มีการถ่ายเท จนทำให้มีความชื้นสัมพัทธ์สูงถึง 80% ก็จะทำให้เชื้อราเติบโตง่ายขึ้น
นอกจากนี้คราบสกปรกและสิ่งตกค้างต่าง ๆ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเชื้อราได้ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นถ้าหากใครไม่อยากให้เครื่องหนังขึ้นราละก็ ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาด เปิดหน้าต่างหรือนำไปวางไว้ในที่มีอากาศถ่ายเท ส่วนใครที่โชคร้ายราขึ้นเครื่องหนังไปแล้ว ก็ตามมาดูวิธีกำจัดง่าย ๆ กันได้เลยค่ะ
วิธีกำจัดราบนหนัง
1. รับบิ้งแอลกอฮอล์
วิธีกำจัดราบนหนังด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะ
- ขั้นตอนแรกให้นำของที่ต้องการทำความสะอาดออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา
- จากนั้นใช้แปรงขนอ่อนปัดคราบราออก พร้อมนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดให้เกลี้ยง
- เสร็จแล้วก็นำฟองน้ำจุ่มน้ำสบู่มาเช็ดให้ทั่ว ตามด้วยนำผ้าเปียกหมาดมาเช็ดน้ำสบู่ออกอีกที
- ผสมรับบิ้งแอลกอฮอล์ 1 ถ้วยตวง กับน้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง เข้าด้วยกัน นำผ้ามาจุ่มให้พอเปียก แล้วนำไปเช็ดบนคราบราเบา ๆ ระวังอย่าให้หนังเปียกมากเกินไป
- รอสักพักจนพื้นผิวทั้งหมดแห้งสนิท ก็จะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทั้งนี้ก่อนลงมือทำอย่าลืมทดสอบด้วยว่าเครื่องหนังของคุณโดนน้ำได้หรือไม่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้รับบิ้งแอลกอฮลล์กับหนังโดยตรง และห้ามใช้กับหนังที่ไม่ได้เคลือบ (Unfinished Leather) อย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้รับบิ้งแอลกอฮอล์ยังนำไปใช้ทำความสะอาดบ้านได้อีกหลายจุด ดูเพิ่มเติมได้เลยที่ รับบิ้งแอลกอฮอล์ กับประโยชน์ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !
2. แชมพูเด็ก
อีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยทำความสะอาดและกำจัดราบนหนังได้ก็คือ แชมพูเด็ก เริ่มด้วยการนำผ้าเปียกมาเช็ดคราบราบนหนังออกก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำผ้าอีกผืนไปจุ่มแชมพูเด็กหรือสบู่สูตรอ่อนโยนเพื่อเช็ดทำความสะอาดคราบราบนหนังอีกครั้ง รอจนกระทั่งหนังแห่งสนิทอีกที เสร็จแล้วก็เช็ดน้ำยาเคลือบบำรุงหนัง เพื่อช่วยป้องกันเชื้อรา
3. เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาถือเป็นไอเทมเด็ดในการกำจัดราบนหนัง เพราะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แถมยังใช้กับหนังสีขาวได้แบบสีไม่ตก โดยวิธีการทำความสะอาดก็ง่าย ๆ เพียงแค่โรยเบกกิ้งโซดาลงไปให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดออก เท่านี้ก็จะช่วยกำจัดเชื้อราต่าง ๆ ออกไปได้แล้ว
ส่วนสำหรับคนที่ต้องการทำความสะอาดเฉพาะจุด ให้ผสมเบกกิ้งโซดา น้ำอุ่น และน้ำส้มสายชูกับน้ำยาล้างจานประมาณ 2-3 หยด เข้าด้วยกัน จากนั้นนำผ้ามาจุ่มให้เปียกเล็กน้อย เสร็จแล้วก็นำไปเช็ดตามซอกหรือมุมที่ต้องการได้เลย
4. น้ำส้มสายชู
หลังจากนำแปรงขนอ่อนมาปัดคราบราออก และนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดจนเกลี้ยงแล้ว ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำสะอาด 1 ส่วน เข้าด้วยกัน แล้วผ้าขนนุ่มมาจุ่มให้พอเปียก จากนั้นก็นำไปเช็ดจนกระทั่งคราบหลุดออกหมด เสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แค่นี้ก็ช่วยกำจัดราบนหนังได้อยู่หมัดแล้วค่ะ
5. ไขปลาวาฬสำหรับขัดหนัง
เพราะการทำความสะอาดหนังที่ไม่ได้เคลือบ (Unfinished Leather) ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ ฉะนั้นแทนที่จะผสมน้ำยาเอง ควรหันมาใช้ไขปลาวาฬสำหรับขัดหนัง (Saddle Soap) แทนจะดีกว่า โดยมีขั้นตอนในการทำความสะอาด คือ แต้มไขปลาวาฬบนฟองน้ำหรือผ้าเปียกหมาดเล็กน้อย จากนั้นนำไปถูบนหนังเบา ๆ จนเกิดฟองเล็กน้อย เมื่อคราบราหายเกลี้ยงแล้ว ก็นำผ้าเปียกหมาดอีกผืนมาเช็ดไขปลาวาฬออกจนหมด ปล่อยทิ้งไว้ให้หนังแห้งสนิท หลังจากนั้นก็เช็ดน้ำยาเคลือบบำรุงหนังอีกชั้น เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายในอนาคต
ถึงแม้วิธีทำความสะอาดและกำจัดราบนหนังจะไม่ยากอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ควรปล่อยมันให้เกิดขึ้น โดยมีวิธีป้องกันง่าย ๆ คือ หมั่นดูแลรักษาอยู่ตลอด ควบคุมความชื้นเป็นประจำ และทาน้ำยาเคลือบหนังสม่ำเสมอ เท่าก็จะช่วยถนอมและยืดอายุเครื่องหนังชิ้นโปรดให้สะอาด ปราศจากรา และอยู่กับเราได้นานขึ้นแล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก tipsbulletin, homeguides.sfgate, thespruce และ advleather
