10 ไม้แขวนสวย ๆ ปลูกประดับระเบียง ใช้พื้นที่น้อย แถมหาซื้อง่าย

10 สายพันธุ์ไม้แขวน สำหรับคนอยาก จัดสวนแต่พื้นที่น้อย เช่น ปลูกบนระเบียง ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านของเราได้ ดูแลง่าย หาซื้อไม่ยาก แถมราคาไม่แรง

หากตอนนี้กำลังมองหา ต้นไม้จัดสวนสวย ๆ มาลองเลี้ยงบ้าง แต่มีพื้นที่ไม่มาก หรืออยากปลูกประดับไว้บนระเบียงห้อง วันนี้กระปุกดอทคอมมี 10 สายพันธุ์ ไม้แขวน (Hanging Plant) มาฝาก ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านของเราได้ แม้จะมีพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังดูแลง่าย หาซื้อไม่ยาก ราคาไม่แรง บางต้นก็มีดอกสวย ๆ ให้ชมอีกต่างหาก จะซื้อปลูกเองก็ได้ จะซื้อเป็นของขวัญให้คนอื่นก็ดี ส่วนจะมีต้นอะไรบ้าง ตามไปดูลิสต์รายชื่อและวิธีการดูแลกันเลย

ลำต้นมีลักษณะตามชื่อ นั่นก็คือ มีใบเป็นเส้นเล็ก ๆ สีเขียวเทา แตกยอดห้อยลงพื้นคล้ายกับหนวดฤาษี ซึ่งบางพื้นที่ก็เรียกว่า มอสส์สเปน (Spanish Moss) ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tillandsia Usneoides (L.) L. แตกรากเฉพาะช่วงแรกสำหรับยึดติดกับวัสดุปลูก และออกดอกเมื่อโตเต็มที่ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแยกกอ แล้วนำไปปลูกที่โล่งโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงแดดรำไร ทนแล้งได้ดี ปัจจุบันนอกจากปลูกประดับบ้านไว้ช่วยดักฝุ่นแล้ว ยังนำไปตกแต่งสถานที่สำหรับจัดงานต่าง ๆ ได้อีกด้วย

เดฟกระเป๋า ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dischidia vidalii Becc. เป็นไม้เลื้อย ปลูกในร่มก็ได้ กลางแจ้งก็ดี มีจุดเด่นที่ใบพิเศษ ลักษณะคล้ายฝาหอย ตรงกลางพองกลม ผิวนูนเป็นร่างแห ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 เซนติเมตร ออกดอกสีแดงเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีผลเป็นฝักคู่ความยาว 3-5 เซนติเมตร และทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว ขยายพันธุ์ได้ด้วยเมล็ดหรือการปักชำ ควรปลูกในวัสดุปลูกโปร่ง ระบายน้ำและเก็บความชื้นได้ดี เช่น กาบมะพร้าว ควรรดน้ำปานกลาง ชอบแดดรำไร

เดฟหัวใจ หรือหัวใจล้านดวง (Million Heart) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dischidia ruscifolia Decne. ex Becc. เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกล 1-2 เมตร มีน้ำยางทุกส่วน ใบเป็นรูปหัวใจ โคนเว้าตื้น ขอบเรียบ ปลายแหลม แผ่นใบหนาสีเขียว เรียงตรงกันข้าม ออกดอกแบบกึ่งช่อซี่ร่มตามซอกใบ ดอกสีขาวขนาดเล็ก ขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำกิ่ง เหมาะสำหรับปลูกในวัสดุปลูกที่ระบายน้ำได้ดี และสามารถเก็บความชื้นได้ เช่น กาบมะพร้าว ต้องการน้ำมาก และแสงแดงรำไร

เดฟกระดุม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dischidia Nummularia Variegata เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ออกใบเรียงเป็นคู่ ใบมีลักษณะกลมหนาคล้ายกระดุม ออกดอกขนาดเล็กเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ การปลูกคล้ายกับเดฟสายพันธุ์อื่น นั่นก็คือ เหมาะสำหรับปลูกในวัสดุปลูกที่ระบายน้ำได้ดี และสามารถเก็บความชื้นได้ดี แต่ต้องไม่แฉะเกินไปหรือมีน้ำขัง เช่น กาบมะพร้าว ชอบแสงแดงรำไร

สร้อยนางกรอง (Keeled Tassel Fern) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Huperzia Carinata (Desv. ex Poir.) Trevis. นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น สร้อยนารี หางหนู หางเปียเจ๊ก สร้อยสุกรม และสร้อยนางกลาย จัดอยู่ในกลุ่มเฟิร์นสาย ใบคล้ายรูปหอก ปลายแหลม ขึ้นเรียงสลับแนบไปกับลำต้น ไม่มีก้าน แตกกิ่งได้ครั้งละ 2 กิ่ง ห้อยยาวได้ถึง 1.5 เมตร ขยายพันธุ์ได้ด้วยการแยกกอ เหมาะสำหรับปลูกในดินร่วน ชอบน้ำเยอะ แต่ไม่ขังจนแฉะ ต้องการแสงแดดปานกลาง

ช้องนางคลี่ (Tassel Fern) หรือระย้า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Huperzia Phlegmaria (L.) Rothm อีกหนึ่งต้นไม้แขวนในกลุ่มเฟิร์นสาย ลำต้นแตกออกเป็นกระจุก กิ่งแตกครั้งละ 2 แฉก ห้อยยาวลงมาในแนวดิ่ง ล้อมรอบแกนด้วยใบรูปหอก ปลายแหลม โคนมน สีเขียวหรือเขียวอมเหลือง เห็นเส้นกลางใบชัดเจน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะสปอร์ เหมาะปลูกในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง ต้องการน้ำปานกลางถึงมาก และเติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงแดดรำไร

เกล็ดมังกร หรือชื่อพื้นเมืองว่า กระปอดไม้ เบี้ยไม้ หญ้าเกล็ดลิ่น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dischidia ummularia R. Br. เป็นไม้เลื้อยความยาวประมาณ 10-50 เซนติเมตร มีน้ำยางทุกส่วน ลำต้นขนาดเล็กปกคลุมด้วยใบหนา อวบน้ำ ไม่เห็นเส้นใบ รูปร่างเกือบกลมคล้ายเบี้ย ปลายใบมีติ่งสั้น และขนผิวใบสำหรับยอดอ่อนหรือใบอ่อน แตกรากตามข้อปล้อง ออกดอกเป็นช่อสีขาวกระจุกอยู่ตามซอกใบ มีผลเป็นฝักทรงกระบอก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ต้นป๊อปอาย (Bottle Cactus) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hatiora Salicornioides (Haw.) Britton & Rose เป็นไม้อวบน้ำ ลำต้นทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 4-5 มิลลิเมตร แต่ละข้อยาว 1-2 เซนติเมตร ออกดอกสีเหลือง-ส้มบริเวณปลายยอด ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ เหมาะสำหรับปลูกกับวัสดุโปร่งและระบายน้ำได้ดี เช่น กาบมะพร้าว ชอบน้ำมาก แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำขังหรือวัสดุปลูกแฉะจนเกินไป ปลูกได้ทั้งบริเวณที่มีแสงแดดจัดหรือแสงแดดรำไร 

ต้นลิปสติก (Lipstick Vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aeschynanthus Radicans เป็นไม้เลื้อยความยาวประมาณ 2-3 เมตร ออกใบเรียงเดี่ยวสลับตรงข้าม ใบรูปไข่แกมใบหอก อวบหนา ขอบใบมีทั้งแบบเรียบและเป็นคลื่นเล็กน้อย ออกดอกบริเวณซอกใบที่ปลายกิ่ง ลักษณะกลีบเลี้ยงเป็นหลอดสีแดงอมน้ำตาล และมีกลีบดอกสีแดง แดงอมส้ม เหลือง ขาว หรือชมพู โตเหนือหลอดกลีบ และออกตลอดปี มากเป็นพิเศษช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ขยายพันธ์ุได้ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำ ชอบดินร่วน อุดมสมบูรณ์ ชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ ระบายน้ำและอากาศได้ดี ชอบน้ำปานกลาง และแสงแดดรำไร

ต้นรวงข้าว หรือซีดัม (Sedum) ต้นหางกระรอก หรือหางลา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sedum Morganianum จัดอยู่ในกลุ่มพืชอวบน้ำที่มีขนาดเล็ก เป็นไม้คลุมดิน อายุยืน ลักษณะเด่นคือ มีใบกลมมน หนา อวบน้ำ ส่วนมากมักออกดอกช่วงหน้าร้อน ชอบน้ำน้อย แสงแดดรำไร รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ปลูกในดินร่วนปนทรายหรือวัสดุปลูกที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี

สำหรับคนที่ติดใจการปลูกต้นไม้ หรือมือใหม่อยากลองเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน แต่ที่จัดสวนมีจำกัด ไม้แขวนประดับระเบียงเหล่านี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก แต่ก็ช่วยทำให้บ้านสวยงาม สดชื่น ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก แถมยังช่วยดักจับฝุ่นได้ด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก ข้อมูลพันธุ์ไม้, suansavarose, โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และ palangkaset