รื้อบ้านไม้เก่า อายุ 42 ปี เปลี่ยนเป็นบ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น งบ 6.5 ล้านบาท

รื้อบ้านไม้เก่าอายุ 42 ปี สร้างใหม่เป็นบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น บ้านทรงกล่องสีขาวที่คุณหมอคนเก่งตั้งใจทำไว้อยู่กับครอบครัว

การสร้างบ้าน 1 หลังไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเจอปัญหามากมาย ซึ่งบางครั้งก็คงจะดีกว่าหากมีข้อมูลเตรียมไว้ก่อนแน่น ๆ วันนี้ คุณ FeverNac สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม คุณหมอคนเก่งที่เพิ่งสร้างบ้านตัวเองเสร็จใหม่ ๆ เลยขอมารีวิวการสร้างบ้านของตัวเองมาฝาก ไว้เป็นเคสศึกษาสำหรับคนที่กำลังเก็บข้อมูลไว้รีโนเวทหรือสร้างบ้าน จะได้รู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร เพื่อลดและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากจะทำให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังช่วยประหยัดงบ ไม่ต้องคอยตามแก้งานหรือเสียดายทีหลังด้วย

แชร์ประสบการณ์รื้อบ้านไม้เก่าอายุ 42 ปี เปลี่ยนเป็นบ้านสีขาวสไตล์โมเดิร์น

(งบประมาณก่อสร้าง 6.5 ล้านบาท) โดย คุณ FeverNac

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะ หลังจากซุ่มอ่านกระทู้เกี่ยวกับการสร้างและรีโนเวทบ้านมานาน ในที่สุดก็มีโอกาสได้มาเขียนกระทู้บ้างสักที วันนี้เราจะมารีวิวการสร้างบ้านของตัวเอง ตั้งแต่ลงเสาเอก จนบ้านเสร็จ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 เดือนค่ะ บ้านหลังใหม่นี้เราสร้างบนพื้นที่บ้านเดิมนะคะ จะสังเกตเห็นว่าถังดับเพลิงยังอยู่จุดเดิม แต่ทาสีใหม่ให้ดูสวยขึ้น ตัวบ้านเก่ารื้อแล้วขายไม้ค่ะ โดยคนที่รับซื้อเขาจะมารื้อไม้ออกเองเลย

กระทู้นี้รูปค่อนข้างเยอะนะคะ อยากจะเขียนให้ละเอียดยิบ แต่ก็กลัวกระทู้จะยาวมากเกินไป ยังไงก็ขอฝากช่อง youTube คบหมอสร้างบ้าน ที่เราทำเอาไว้ จุดประสงค์คืออยากจะแชร์ประสบการณ์ในการสร้างบ้านให้เพื่อน ๆ ทุกคน เพราะว่าเวลาอัปรูปใน facebook ทีไรมีคนทักมาถามเยอะเหลือเกิน

เกริ่นกันไปพอสมควรแล้ว มาเริ่มดูขั้นตอนการสร้างกันเลยดีกว่าค่ะ เมื่อก่อนบ้านเราเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง อายุ 42 ปี ลืมตาดูโลกมาก็ได้อาศัยในบ้านหลังนี้แล้วค่ะ พอพ่อกับแม่อายุมากขึ้น เริ่มจะเดินขึ้นบันไดไม่ไหว ก็ได้มีการต่อเติมใต้ถุนบ้านให้อยู่อาศัยได้ ตอนนั้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัย กลับบ้านมาตกใจเลยค่ะ ผนังสีส้มแปร๊ดสะใจคุณพ่อมาก

- บรรยากาศภายในบ้านชั้นบน เริ่มทยอยเก็บของออกไปเกือบหมดแล้ว เห็นแบบนี้คนที่มารับซื้อไม้บอกว่าไม้ค่อนข้างที่จะใหม่อยู่นะคะ แกเสียดายไม่อยากให้รื้อ

- อันนี้เป็นห้องของเราที่รีโนเวทเองค่ะ ทาสี ปูพื้น ทำทุกอย่างเองหมด เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านเลย เพราะรู้สึกว่าทำแค่ห้องเดียวยังแฮปปี้ขนาดนี้ เหมือนได้ไปเที่ยวทุกวัน ถ้าปรับปรุงเปลี่ยนทั้งหลังน่าจะดีกว่านี้มาก เพราะบ้านเก่าฟังก์ชันหลายๆ อย่างไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตเท่าไร เช่น บันไดอยู่นอกตัวบ้าน ห้องน้ำที่ค่อนข้างไกล กว่าจะเดินไปถึงตื่นพอดี (ถ้าใครสนใจอยากให้ทำกระทู้รีวิวการรีโนเวทห้องนอนเก่าเปลี่ยนเป็นสไตล์ลอฟท์บอกกันได้นะคะ)

- ตัดภาพมาชั้นล่างที่ต่อเติมทีหลัง เสาค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เพราะเดิมเป็นใต้ถุนบ้าน หลังจากต่อเติมก็มีปัญหาน้ำซึมขึ้นมาบ้างเวลาฝนตก (ในภาพมีเจ้าของบ้านตัวจริงกำลังเดินตรวจงานด้วย)

- พอย้ายของออกจากบ้านเก่าเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลารื้อค่ะ ตอนนั้นพ่อนี่น้ำตาซึมเลย ผูกพันกับบ้านหลังนี้มา 42 ปี แต่พ่อก็ยอมให้รื้อเพราะว่าหลาย ๆ อย่างมันไม่สะดวกต่อการใช้งาน และอยากมีที่นั่งชิลต้อนรับเพื่อน ๆ เราโชคดีที่บ้านข้าง ๆ เป็นบ้านว่างปล่อยเช่า ของเยอะแต่ก็ขนไปเก็บได้หมด แถมได้แอบดูช่างทำงานด้วย

ก่อนหน้าที่จะรื้อถอน เราได้หาสถาปนิกออกแบบบ้าน ตกลงราคากับผู้รับเหมา และยื่นขออนุญาตก่อสร้างเรียบร้อยแล้วนะคะ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เนื่องจากแบบแรกที่ได้มายังไม่โดนใจ 100% ก็เลยมีการเปลี่ยนสถาปนิกออกแบบใหม่อีกรอบ แต่ที่นานที่สุดคือขั้นตอนขออนุญาตก่อสร้างค่ะ แนะนำให้โทร. ติดตามบ่อย ๆ และเผื่อเวลาไว้ด้วยเพราะยื่นครั้งแรกมีโอกาสที่จะได้กลับมาแก้แบบอีกรอบ เราโดนแก้ไป 1 ครั้งถ้วน พอได้ใบอนุญาตก่อสร้างแล้วถึงจะสามารถเอาไปยื่นกู้กับธนาคารได้ (ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์) แนะนำให้ลองเอาไปถามหลาย ๆ ธนาคารนะคะ แล้วเลือกธนาคารที่เราพอใจที่สุดค่ะ

**ที่สำคัญ คือ ควรจะมีเงินสดสำรองไว้ 10-15% ของค่าบ้านนะคะ เนื่องจากงวดแรกเป็นเงินมัดจำจะยังไม่ได้เงินจากธนาคาร (ต้องสร้างไปแล้ว ธนาคารมาประเมินว่าสร้างได้กี่เปอร์เซ็นต์ ถึงจะได้เงินจากธนาคารตามหน้างานจริงค่ะ) เคร่งเครียดกับการปรับแบบ ประชุมหลายรอบมาก ๆ เพื่อให้บ้านออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ที่กำลังจะสร้างบ้าน ถ้าไม่มีเวลาควรหา Consult มาช่วยดูแลนะคะ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบเลย เพราะหลาย ๆ อย่างจะต้องวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นโครงสร้าง (ส่วนตัวเราว่าถึงมีเวลา ก็ควรจ้าง Consult อยู่ดี เพราะมีความรู้ทางเทคนิคหลาย ๆ อย่างที่เราไม่รู้ค่ะ)

- หลังจากทุกอย่างลงตัวก็ได้เวลาก่อสร้างกันแล้ว เริ่มจากขั้นตอนการปรับหน้าดิน วางฐานราก เทคาน พื้น และเสาชั้น 2 โดยก่อนที่จะลงฐานราก ผู้รับเหมาจะมาขีดเส้นให้ดูก่อน ว่าบ้านขอบเขตประมาณนี้นะ โอเคมั้ย ถ้าโอเคก็ขุดหลุมโลดค่า

- พื้นห้องทั่วไปจะใช้แผ่นพื้นสำเร็จรูปมาปู แล้วเอาปูนมาเททับด้านบน แต่สำหรับพื้นห้องน้ำ หรือห้องซักล้างเพื่อป้องกันน้ำซึม จะวางท่อแล้วเทปูนเลย ไม่มีแผ่นสำเร็จรูป เพราะฉะนั้นตำแหน่งสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ควรจะแน่นอนแล้วนะคะ ถ้าเปลี่ยนทีหลังอาจจะลำบากในการแก้ไข (ในรูปจะเห็นว่าส่วนของห้องที่มีท่อน้ำ จะเทปูนพร้อมกับคานเลย)

- พอทำโครงสร้างชั้น 1 เสร็จ ก็ตั้งนั่งร้าน แล้วไปต่อที่ชั้น 2 เลยค่ะ ตอนที่ยังเป็นแปลนในกระดาษก็ดูอะไรไม่ค่อยออกเท่าไร พอสร้างจริงแล้วใหญ่เกินคาดไปมาก ๆ พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดประมาณ 434 ตารางเมตร

- รื้อนั่งร้านออกแล้ว ดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาหน่อย อย่าลืมบอกผู้รับเหมาให้หาเมทัลชีท หรือสแลนมากั้นไซต์งานด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยค่า

- หลังจากงานโครงสร้างเสร็จแล้ว ต่อไปงานก่อกำแพงก็เริ่มมา ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะว่าดูใกล้ความจริงขึ้นมาอีกนิดแล้ว บ้านเราก่ออิฐ 2 ชั้นเพื่อซ่อนเสานะคะ สถาปนิกแกชอบแนวนี้เลยจัดมาให้ นอกจากจะทำให้บ้านดูเรียบเนียนตา จัดวางของง่ายแล้ว ยังช่วยเพิ่มความเย็นด้วยค่ะ เพราะแดดส่องมาโดนแค่ผนังชั้นแรก

- แนะนำเพื่อน ๆ ว่าให้เคลียร์แบบกับช่างก่อนนะคะ เอาเส้นเชือกมาขึงดูว่าแนวผนังที่จะก่อโอเคมั้ย ขั้นตอนนี้จะมีการปรับแก้เยอะเลยค่ะ เพราะเราจะเห็นของจริงแล้วว่าเป็นยังไง ทั้งขยับผนัง หรือเปลี่ยนตำแหน่งประตูหน้าต่าง (ค่าใช้จ่ายเพิ่มก็จะเริ่มงอกมา)

- เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทุกวัน เริ่มจะเหมือนในแบบมาบ้างแล้ว

- ก่อผนังเสร็จแล้วค่า ตื่นเต้นมาก

- หลังจากงานก่อ ก็จะเป็นงานฉาบ งานหลังคา และวางท่อไฟ หลังคาบ้านเราจะมีส่วนที่เป็นเมทัลชีท และเทคอนกรีต (เพราะทำ Skylight) บ้านสไตล์โมเดิร์นทรงกล่อง จะมีปัญหาเรื่องหลังคาเล็กน้อยนะคะ น้ำจะไหลอาบลงมาที่ตัวบ้านตรง ๆ เราเลยเทขอบสูงขึ้น ปรับ Slope แล้ววางท่อน้ำทิ้งค่ะ

- งานวางท่อไฟ ต้องระวังไม่ให้ช่างเอาท่ออ่อน หรือท่อ Flex มาใส่ตามจุดเชื่อมต่อนะคะ ถ้าเจอสั่งเปลี่ยนให้หมด อนุญาตให้ใส่ได้แค่จุดที่ติดตั้งดวงโคม เพราะไม่งั้นเวลาซ่อมบำรุง ดึงไปมา ท่อจะขาดหมดค่ะ และใน 1 ท่อ ห้ามใส่สายไฟเยอะเกินกว่ามาตรฐานกำหนดนะคะ (ความรู้จาก Consult บอกมาค่ะ)

- ใต้หลังคาเมทัลชีท พ่น PU foam ป้องกันความร้อน และเสียง ความหนาต้องได้ระดับที่ 2 นิ้ว นะคะ เขาจะมีไม้จิ้มทดสอบ แล้วก็ตอนติดเมทัลชีทอย่าลืมส่องดูรูรั่วด้วย โชคดีที่เราทำงานหลังคาช่วงฝนพอดี รั่วตรงไหนเห็นหมดเลยค่ะ

- งานฉาบเสร็จแล้วค่ะ ใกล้ความจริงเข้ามาอีกนิดแล้ว

- ถ้าใครอยาก Built-in บ้านแนะนำให้ออกแบบไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยนะคะ เพราะเวลาวางปลั๊ก ก่อผนัง จะได้ไม่ต้องมาแก้ ของเรา Interior ที่ออกแบบมีการปรับตำแหน่งผนัง และหน้าต่างด้วยค่ะ เพื่อความสวยงาม แบบ Built-in ห้องครัวฝรั่ง

- แบบครัวไทย ไม่ได้ Built-in นะคะ ทำครัวปูนแล้วเลือกหน้าบานน่ารัก ๆ มาใส่ อันนี้ออกแบบ และขึ้นแบบเองโดยใช้โปรแกรม Sketcup ค่ะ (ฝึกใช้ตั้งแต่สมัยที่ Renovate ห้อง)

- แบบ Built-in ห้องแต่งตัว (ในรูปเป็นหน้าห้อง มีข้างในอีกค่ะ)

- หลังจากฉาบเสร็จแล้วก็มาเริ่มงานฝ้า และทาสี แนะนำว่าถ้าอยากให้บ้านดูสวยเนียน ต้องทาสกิมโค้ดเท่านั้นค่ะ เราเลือกใช้สีขาว TOA 8260 จะไม่ขาวจนเกินไป ออกแนวขาวควันบุหรี่

- สกิมโค้ดช่วยให้ผิวเรียบ ขาวเนียนไปหมด งานฝ้านอกตัวบ้านต้องเป็นฝ้ากันชื้นนะคะ สีเขียวแตกต่างกับฝ้าในบ้าน

- งานปูกระเบื้องห้องน้ำก็เริ่มมาแล้ว

- ในขณะที่งานภายในบ้านกำลังทำอยู่ งานนอกบ้านก็ทำควบคู่กันไปด้วย ท่อน้ำทิ้งบ้านเราขนาด 12 นิ้ว ใหญ่มาก ๆ ค่ะ อย่าลืมกำชับช่างให้ขุดหลุม อัดทราย และเทลีนก่อนวางท่อนะคะ ไม่อย่างนั้นถ้าดินยุบ ท่อก็จะหลุดออกจากกัน เป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ต้องขอบคุณ Consult และผู้รับเหมามาก ๆ เพราะตอนแรกขุดวางท่อไปแล้วรอบบ้าน แต่ช่างเอาวางบนดินเฉย ๆ แกสั่งรื้อ ขุดขึ้นมาทำใหม่หมดเลยค่ะ

- งานรั้ว ต้องคำนวณระยะดี ๆ ไม่งั้นจะมีเด็กแอบหนีออกไปเที่ยว

- หลังจากทาสี เก็บฝ้าแล้ว งานพื้นก็ตามมาค่ะ ห้องรับแขกเราเลือกใช้แกรนิตโต้ ในส่วนของกระเบื้อง จะเป็นตัวที่ทำให้เสียเงินเพิ่มจาก BOQ มากที่สุดค่ะ แนะนำให้เลือกและสั่งไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะต้องรอของ 1-2 อาทิตย์เลยทีเดียว

- ห้องนอนพ่อแม่ ใช้พื้นกันกระแทกของ SCG ส่วนบันได และพื้นที่ชั้น 2 ใช้เป็นลามิเนต กับกระเบื้องยาง ดังนั้นจะต้องมีการปรับพื้นให้เรียบก่อน ถ้าไม่เรียบต้องปรับใหม่ บ้านเราปรับไป 2 รอบค่ะ

- งาน Built-in เริ่มเข้ามาติดแล้วค่ะ ควรเผื่อเวลาไว้ด้วยเพราะใช้เวลาติดนานอยู่เหมือนกัน (ของเราเกิน 2 อาทิตย์) แล้วก็อย่าลืมเน้นย้ำให้ช่างนำไม้อัดมาปูพื้นป้องกันความเสียหายด้วยนะคะ

- มาถึงจุดเด่นของบ้านหลังนี้ กระจกมาติดแล้ววว เป็นบ้านที่มีกระจกเยอะมาก รอบตัวบ้านเลย ช่วยให้ดูโล่ง และมองเห็นสวนกลางบ้านได้จากทุกมุมค่ะ

- และไฮไลต์ของบ้านก็คือต้นไม้กลางบ้านนั่นเอง เราสั่งจากใน Facebook มา 2 ต้น และเนื่องจากว่าหน้าบ้านมีโรงรถกั้น ทำให้ต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยกต้นไม้ข้ามมาเป็นระยะทางถึง 13 เมตร ซึ่งซอยบ้านเรากว้างแค่ 3 เมตร รถยนต์ยังสวนกันไม่ได้ เล่นเอาใจหายใจคว่ำ (ใครอยากดูตอนขนต้นไม้เข้าบ้าน สามารถดูใน ช่องคบหมอสร้างบ้าน Ep.8 นะคะ)

- หลังจากกระจกมาแล้ว งานไฟก็เริ่มเข้ามาต่อค่ะ เราเลือกใช้ไฟ Cool White 4000k ตามที่เพื่อน interior แนะนำ ไม่ขาว ไม่เหลืองจนเกินไป ทำให้บ้านอบอุ่นมาก ๆ ลองไฟคืนแรกความเหนื่อยสะสมตลอดปีที่ผ่านมา หายเป็นปลิดทิ้ง

- บ้านโล่งมานาน มีประตูแล้วว เราใช้ประตูโรงจอดรถเป็นประตูบ้านไปเลย ตอนแรกพ่อไม่เห็นด้วยเพราะกลัว บอกว่าเหมือนไม่มีประตูบ้าน แต่พอติดแล้วก็พอใจค่ะ เพราะค่อนข้างมิดชิด และเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติ ไม่ต้องพกกุญแจ สั่งผ่านมือถือเอา

- ระแนงไม้หน้าบ้านมาเพิ่มความอบอุ่น และตู้จดหมายน่ารัก ๆ ตอนแรกทุกคนไม่อยากให้ใส่ระแนงเพราะดูโมเดิร์น แต่พอติดแล้วอบอุ่นเปลี่ยนอารมณ์ของบ้านไปเลยค่ะ

- ประตูโรงเล็กโรงจอดรถมาติดแล้ว เป็นอันเสร็จสิ้นงานภายนอกค่ะ

- หลังจากนั้นประตูภายในบ้านก็ตามมา เราเลือกใช้บานสีขาว พ่นสีอุตสาหกรรม จะให้ความเนียนแบบไม่เห็นเสี้ยนไม้เลย แต่ถ้าเป็นรอยจะเห็นชัดก็เลยมาติดตอนท้าย ๆ ค่ะ

- สุขภัณฑ์เข้ามาติดตั้งแล้ว ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ อันนี้เป็นห้องน้ำของเราเอง Built-in เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ซ่อนพวกท่อ และเครื่องทำน้ำร้อนด้านใต้

- แบ่งห้องน้ำเป็นโซนเปียก แห้ง และเจาะ Skylight ด้านบนอ่าง

- ห้องน้ำเรา ห้องน้ำแขก และห้องน้ำพ่อแม่ โทนเดียวกันหมดเลย (จริง ๆ มีห้องพี่สาวอีกหนึ่งห้องค่ะ ไม่ได้ถ่ายมา)

- งานภายในส่วนสุดท้าย คือการติดพื้นลามิเนต เก็บ Built-in และติดม่านค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ตั้งใจให้โซฟาหันหน้าไปทางหน้าบ้าน จะได้มองเห็นเวลามีใครมา

- Built-in ครัวฝรั่ง ให้ความรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ

- ครัวไทยที่เป็นครัวปูน แล้วเลือกหน้าบานไม้มาใส่ (ถ่ายภาพยากหน่อยเพราะแคบ)

- ห้องซักล้างชั้นหนึ่ง แบ่งเป็นโซนเปียก-แห้ง และมีห้องใต้บันไดสำหรับเก็บของค่ะ

- ห้องนอนคุณพ่อ-คุณแม่ ใช้พื้นกันกระแทกของ SCG

- จุดเด่นของบันไดขึ้นไปชั้น 2 คือโคมไฟระย้าที่เราทำเองค่ะ นั่งร้อยเส้นเอ็น หมุนสกรูทีละตัว ภูมิใจมาก ๆ แถมราคาถูกกว่าซื้อเกินครึ่ง

- ทางเดินในบ้านเราเวลามองจะเห็นเป็นแนวตรงยาว มีหิ้งพระแบบน่ารักๆอยู่บนชั้น 2

- ห้องนอน และ Walk-in Closet ของเราค่ะ เจาะหลังคาทำ Skylight เหมือนกัน

- อีกฟากนึงจะเป็นห้องของพี่สาว บ้านหลังนี้มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำนะคะ เหมือนมีคอนโดคนละห้อง ได้ไปทั้งฟากเลย

ก่อนจะจบกระทู้ ขอพาออกไปทัวร์นอกบ้านสักนิด

- ที่เห็นเป็นประตูสเตนเลสตรงนั้นคือฝาถังขยะนะคะ เพื่อความเรียบร้อย และไม่อยากให้มีขยะวางไว้หน้าบ้าน

- หลังโรงจอดรถมีรั้วกั้นสุนัขไม่ให้แอบไปเที่ยวนอกบ้านได้ และมีทางลาดสำหรับวีลแชร์ขึ้นไปห้องพ่อกับแม่ (ทางลาดที่ดี ควรมีอัตราส่วน 1:12 นะคะ)

- ต้นจิกน้ำสร้อยระย้ากลางบ้าน ความสูง และทรงพอดิบพอดีมาก ๆ

- มุมสวนหน้าบ้านเลือกเอาหินมาลง ดูเรียบร้อยกว่าตอนเป็นดินมาก ๆ

- อยู่จุดไหนของบ้านก็มองเห็นสวนกลางบ้านได้

งบประมาณในการก่อสร้างบ้านหลังนี้ ตาม BOQ อยู่ที่ 6.5 ล้านบาท ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ พอทำจริง ๆ แล้ว ก็มีทั้งส่วนที่เลือกวัสดุแพงขึ้น และค่า Built-in/ม่าน/ต้นไม้/ประตูเลื่อนโรงจอดรถ บลา ๆ ๆ ทำให้ขยับไปที่ประมาณ 8.5 ล้านบาทค่ะ ถามว่าหนักมั้ย ก็หนักมากอยู่ แต่คุ้มค่ามั้ย ก็คุ้มค่าอยู่นะคะ แลกกับความสุขของตัวเองและครอบครัว ตอนนี้เหมือนได้ไปเที่ยวพักผ่อนอยู่ทุกวัน ทุกคนแฮปปี้มากค่ะ

หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยเป็นไอเดียให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสร้างบ้านได้นะคะ ถ้าใครมีคำถามอะไรสามารถทักมาถามได้ และเรากำลังจะทำวิดีโอขั้นตอนการสร้างบ้านจาก 0 ไปจนถึง 100 ถ้าใครสนใจก็กดติดตามช่องคบหมอสร้างบ้านใน youTube ได้เลยที่ คบหมอสร้างบ้าน สุดท้ายนี้ขอลาไปด้วยภาพมุมสูงของบ้านก็แล้วกันนะคะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คุณ FeverNac สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

รื้อบ้านไม้เก่าอายุ 42 ปี เปลี่ยนเป็นบ้านสีขาวสไตล์โมเดิร์น งบก่อสร้าง 6.5 ล้านบาท