ต้นหมาก มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดู 4 สายพันธุ์ต้นหมากน่าปลูกจัดสวน เข้ากับสภาพอากาศเมืองไทย ช่วยให้สวนสวย และเพิ่มความเป็นส่วนตัว
สำหรับคนที่กำลังมองหาต้นไม้จัดสวนสวย ๆ ทนแดดทนฝนได้ดี ตามไปดู ต้นหมาก ต้นไม้ที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน อีกทั้งยังเป็นต้นไม้สารพัดประโยชน์ ช่วยทำให้บ้านสวย พรางตา และยังเสริมสิริมงคล พร้อมวิธีปลูกต้นหมาก
ต้นหมาก ลักษณะ
ต้นหมาก (Areca Palm) เป็นต้นไม้ในตระกูลเดียวกับปาล์ม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Areca catechu L. ซึ่งลักษณะทั่วไปของต้นหมากจะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นตรง ไม่มีกิ่งก้าน ความสูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นเดี่ยวมีความแข็งแรง ยอดจะมีสีเขียว ส่วนต้นที่อายุมากจะมีสีเทา ใบยาวได้ถึง 4 เมตร มีใบฝอยหลายใบ แต่ละใบยาวประมาณ 60-90 เซนติเมตร มีดอกขึ้นตามซอกใบ เป็นช่อดอกขนาดใหญ่สีเหลืองอ่อน มีผลทั้งแบบกลมและรีประมาณ 50-100 ผลต่อทะลาย ผลอ่อนมีสีเขียวหรือเรียกว่าหมากดิบ เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นเขียวอมเหลืองหรือส้ม เรียกว่าหมากสุก
ต้นหมาก มงคล
เรียกได้ว่าต้นหมากมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว แถมยังอยู่คู่คนไทยมานาน ตั้งแต่สมัยก่อนที่ผู้คนนิยมนำผลของหมากเหลืองมากินคู่กับใบพลู ส่วนในปัจจุบันก็นิยมนำมาปลูกจัดสวนเพื่อสร้างความสวยงาม พรางตา เพิ่มความเป็นส่วนตัว และยังมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ปลูก ทำให้มีความอ่อนน้อม มีน้ำใจ เป็นที่รักของผู้พบเห็นอีกด้วย
วิธีปลูกต้นหมาก
วิธีปลูกต้นหมากแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกคือการเพาะเมล็ด โดยนำผลหมากเพาะในดินร่วนปนทรายประมาณ 15 วัน หรือเมื่อเห็นหน่อโผล่ขึ้นมาประมาณ 1-2 เซนติเมตร ช่วงที่ 2 ค่อยย้ายไปปลูกในถุงชำ โดยเพาะด้วยดินร่วนหรือดินผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋บคอก เช่น ดินผสมแกลบและปุ๋ยคอก ในอัตรา 2 ต่อ 1 ต่อ 1 ช่วงที่ 3 คือการปลูกในแปลงหรือปลูกลงดิน โดยปลูกในพื้นที่ราบที่มีดินระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ปลูกในช่วงหน้าฝน เพราะดินจะชุ่มชื้นเหมาะกับการเจริญเติบโต
ขนาดหลุมปลูกหมากคือ 50x50x50 เซนติเมตร และนำดินที่ขุดขึ้นมาไปผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก จากนั้นนำหน่อหมากใส่ลงไปในหลุมแล้วกลบด้วยดินที่ผสมเอาไว้ พร้อมกับรดน้ำให้ชุ่ม ช่วงแรกควรมีผ้าใบช่วยพรางแสง และฟางข้าวหรือหญ้าแห้งไว้คลุมโคนต้น เพื่อป้องกันน้ำระเหยไว หลังจากต้นโตแล้วควรรดน้ำทุกวัน หรือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่เมื่อต้นหมากโตเต็มที่ค่อยเปลี่ยนเป็นรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง
สายพันธุ์ต้นหมาก
1. หมากเหลือง
หมากเหลือง (Madagascar Palm หรือ Yellow Palm) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dypsis lutescens (H.Wendl.) Beentje & J.Dransf. ลำต้นตรง ความสูงประมาณ 3-9 เมตร จุดเด่นอยู่ที่มีกาบใบสีเหลืองส้มจนถึงเขียว มีข้อปล้องชัด ใบประกอบแบบขนนกสีเขียวอ่อน มีกาบใบสีเหลืองจนถึงหางใบ ใบย่อยมีปลายใบเรียวชัดเจน และโคนใบรูปลิ่ม มีดอกสีขาวออกเป็นช่อ และผลทรงกลมรี โดยค่อย ๆ เปลี่ยนสีตามอายุ เมื่ออ่อนจะสีเขียว ก่อนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้ม และกลายเป็นสีม่วงแก่เกือบดำเมื่อผลสุก
2. หมากเขียว
หมากเขียว (MacArthur Palm) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ptychosperma macarthurii (H.Wendl. ex H.J.Veitch) H.Wendl. ex Hook.f. ลำต้นตรง ความสูงประมาณ 3-6 เมตร ผิวเรียบสีเทาอ่อนหรือน้ำตาลปนเทา มีข้อปล้องชัดเจน ใบประกอบแบบขนนก แผ่นใบสีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองอมเขียว ขึ้นตามใต้โคนกาบใบ ผลทรงกลมรี เมื่อผลสุกจะเป็นสีแดง
3. หมากแดง
หมากแดง (Sealing Wax Palm) ลำต้นตรง ความสูงประมาณ 5-10 เมตร ยอดแหลม จุดเด่นอยู่ตรงกาบใบสีแดง มีข้อปล้องชัดเจน ขนประกอบแบบขนนก ด้านบนสีเขียวเข้ม ด้านล่างสีเขียวอ่อน มีเหลือบเงินเล็กน้อย และก้านใบสีแดง มีผลทรงกลมรี เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ
4. หมากนวล
หมากนวล (Adonidia Palm) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Adonidia merrillii (Becc.) Becc. ลำต้นตรง ความสูงประมาณ 10-15 เมตร มีสีน้ำตาล มีใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยขอบขนานยาวประมาณ 45-47 เซนติเมตร แผ่นใบสีเขียว ปลายแหลม โคนรูปลิ่ม ดอกสีเหลืองออกเป็นช่อ ส่วนใหญ่จะออกดอกช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม มีผลทรงกลมรีขนาด 3 เซนติเมตร เมื่อผลสุกจะกลายเป็นสีแดง
ต้นหมากเป็นอีกหนึ่งต้นไม้จัดสวน ที่นอกจากจะเข้ากับสภาพอากาศเมืองไทยได้ดี ช่วยทำให้บ้านดูสวยงามและพรางตาจากคนภายนอกได้แล้ว ยังเป็นต้นไม้มงคลช่วยเสริมสิริมงคลอีกด้วย หากชอบสายพันธุ์ไหนก็ลองเลือกไปปลูกดูนะคะ
