ถ่ายรูปรีวิวบ้านอย่างไร ให้สวยเหมือนมืออาชีพมาเอง !?
รีวิวบ้านให้สวยน่าติดตาม ต้องใช้เทคนิคถ่ายรูปแบบมืออาชีพกันหน่อย ส่วนจะถ่ายรูปรีวิวบ้านอย่างไรให้สวยแจ่ม หรือลงขายแล้วออกไว ลองไปดูทริคกัน
เวลาที่ดูนิตยสารหรือรีวิวเกี่ยวกับการสร้างบ้าน ตกแต่งบ้าน หรือรีโนเวทบ้าน เนื้อหาเกินครึ่งมักจะเป็นรูปประกอบเพื่อทำให้คนอ่านเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบไหนสไตล์ก็ดูดีไปเสียหมด ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์เรื่องบ้านของตัวเองบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นถ่ายรูปบ้านของตัวเองอย่างไรให้ออกมาดูดีอย่างที่ต้องการ ก็ลองนำเทคนิคถ่ายรูปบ้านเหล่านี้ไปลองใช้กันดูนะคะ
ภาพจาก Rikki Snyder
1. เริ่มจากการทำความสะอาดเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะถ่ายรูปบ้านควรจะทำความสะอาดและจัดของให้เข้าที่เข้าทางเสียก่อน โดยเฉพาะการถ่ายรูปบ้านเพื่อการโฆษณา เพื่อทำให้คนอ่านมองเห็นรายละเอียดของบ้านได้อย่างชัดเจนทั่วถึง และรู้สึกสบายตา ส่วนในกรณีที่ถ่ายรูปบ้านหรือห้องสำหรับปล่อยเช่า ควรจะรูปพื้นที่โล่ง ๆ บรรยากาศปลอดโปร่ง สิ่งของถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
นอกจากนี้บางครั้งก็ควรจะสร้างจุดดึงดูดสายตาขึ้นมา ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะไม่เคยมีอยู่ก็ตาม เพราะบางทีการถ่ายรูปบ้านแบบภาพรวมก็ไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไรนัก เพราะจะทำให้คนอ่านไม่อาจทราบได้ว่าส่วนใดคือส่วนที่ดีที่สุดของพื้นที่แต่ละแห่ง ฉะนั้นคงจะดีกว่าหากเลือกถ่ายรูปเฉพาะมุมหรือจุดที่พิเศษที่ถูกเซตขึ้นใหม่ เช่น เตียงนอน หรือมุมวางโทรทัศน์ ในห้องนอน แล้ววิธีนี้ก็จะช่วยให้คุณถ่ายรูปบ้านได้เหมือนมืออาชีพขึ้นมากทีเดียว
ส่วนข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งสำหรับการถ่ายรูปบ้านก็คือ การเบลอรายละเอียดต่าง ๆ ในรูป ถ้าต้องการจะทำก็ควรจะศึกษาเทคนิคและวิธีการทำให้ถูกต้องเสียก่อน ไม่อย่างนั้นก็จะเสียคะแนนไปมากเลย
ภาพจาก Msarch
2. เพิ่มระดับความสว่างด้วยแสงไฟ แสงไฟ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการถ่ายรูปบ้าน เพราะแสงไฟมีผลกระทบต่อการสร้างบรรยากาศและบิวท์อารมณ์คนอ่านมากทีเดียว โดยถ้าต้องการบรรยากาศที่ดูสบาย ๆ ชิล ๆ ควรจะเลือกถ่ายรูปช่วงตอนบ่ายต้น ๆ แต่หากต้องการบรรยากาศสดใส สว่าง อากาศดูปลอดโปร่งควรเลือกช่วงกลางวัน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีแสงสว่างมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมเปิดไฟ เช่น โคมไฟ แชนเดอเลียร์ หรือไฟเพดาน ควบคู่กันไปด้วย เพื่อทำให้รูปบ้านดูอบอุ่นและป้องกันไม่ให้เกิดมุมมืดบนรูปถ่าย
ส่วนในกรณีที่ต้องการถ่ายรูปภายนอกของตัวบ้าน ควรจะเช็กสภาพอากาศให้แน่ใจก่อน โดยเลือกวันที่ท้องฟ้าและอากาศแจ่มใสจะดีกว่า แต่ไม่ควรจะมีแดดแรงจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้เกิดเงา หรือแสงสะท้อนได้
ภาพจาก CG Design Studio
3. เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการถ่ายรูป ไม่ได้หมายความว่าจะต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ถ่ายรูปแพง ๆ เพื่อมาถ่ายรูปบ้านไม่กี่รูป แต่คงจะดีกว่าหากมีตัวช่วยดี ๆ อยู่ในมือบ้าง จะถูกจะแพง ซื้อมา หรือขอยืมมาก็ได้ เพราะเมื่อมีกล้องกับตัวช่วยเจ๋ง ๆ อยู่ในมือก็จะทำให้การถ่ายรูปสะดวกและดูดีได้ง่ายขึ้น และถึงแม้ว่าจะมีของเหล่านี้อยู่ในมือ ก็ยังสามารถตกแต่งรูปถ่ายเพิ่มเติมได้ แต่การแต่งรูปก็ไม่ควรจะแตกต่างออกไปจากบรรยากาศและภาพจริงมากนัก หรือใช้โปรแกรมลบตำหนิเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกก็พอ เพราะแค่นี้ไม่ได้ทำให้รูปดูหลอกตาจนเกินไป
ภาพจาก Angus Mackenzie
4. ใส่ใจกับการถ่ายรูปแต่ละมุมให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าเป้าหมายของการถ่ายรูปบ้านคือ สามารถเก็บชอตสวย ๆ ได้ครบทุกมุม ก็ยังมีสิ่งที่หลายคนทำพลาดไปก็คือ ใช้เวลากับแต่ละส่วนน้อยเกินไป เพราะอาจมองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สวยงามหรือสำคัญไป หากเป็นไปได้ควรให้เวลากับการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่าง ๆ บ้าง ไม่ว่าจะเป็นแสง สิ่งของ หรือมุม เพื่อให้ได้รูปที่สวยที่สุด ถึงแม้จะไม่ใช่ที่ตั้งเดิมของสิ่งของชิ้นนั้นก็ตาม อีกทั้งบางทีรูปที่ดีที่สุดอาจจะเกิดจากรูปที่ไม่ได้ตั้งใจถ่ายก็ได้
ถึงแม้การถ่ายรูปบ้านจะเป็นงานที่ท้าทายและค่อนข้างเสี่ยง โดยเฉพาะการถ่ายรูปครั้งแรก แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้การครีเอทพื้นที่ส่วนตัวตามสไตล์ของตัวเอง พร้อมทั้งมีรูปบ้านสวย ๆ อย่างที่ต้องการ แต่ถ้าหากรู้สึกไม่แน่ใจว่า รูปที่ถ่ายออกมานั้นสวยหรือไม่ก็ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวช่วยเช็กดูอีกรอบแล้วลองถามความคิดเห็นของพวกเขาดูว่า ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อให้เห็นหรือเปล่า ถ้าผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ก็ถือว่าคุณสอบผ่านการถ่ายรูปในครั้งนี้แล้วล่ะ
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ 
