เฟอร์นิเจอร์เก่าที่ใช้งานมานาน ด้วยราคา ความผูกพัน และรูปลักษณ์ของมัน ก็ทำให้ยากที่จะตัดใจขายเป็นของเก่าหรือโยนทิ้งไปง่าย ๆ เราจึงหาวิธีในการเปลี่ยนแปลงของเก่าให้เป็นของใหม่ ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่าเคยลองทำดูแล้วแต่ไม่เห็นจะเวิร์ก นั่นเป็นเพราะคุณทำผิดขั้นตอนไปหรือเปล่าจ๊ะ ? ลองมาดูเคล็ดไม่ลับเหล่านี้ก่อนดีกว่า เผื่อว่าจะเจอจุดที่เคยทำพลาดไป จะได้แก้ไขและลงมือทำซะใหม่ให้เป็นเฟอร์นิเจอร์เจ๋ง ๆ ชิ้นเดียวในโลก !
1. งานไม้..ไม่ขัดด้วยกระดาษทราย ก็ตกม้าตายตั้งแต่เริ่มเพียงเพราะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์เคยผ่านการตกแต่งมาแล้ว พอจะลงสีใหม่ก็เลยขี้เกียจขัดด้วยกระดาษทรายซะอย่างนั้น หากใครคิดอย่างนี้ถือว่าพลาดแล้วล่ะ เพราะสีเก่า คราบสกปรก และเสี้ยนไม้ต่าง ๆ ที่ติดอยู่นั้น จะเป็นอุปสรรค์ต่อการแปลงโฉมใหม่ เมื่อเราทาสีลงไปความขรุขระและไม่เรียบเนียนก็จะปรากฏขึ้นเด่นชัด ดังนั้นให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 150 ขัดผิวเฟอร์นิเจอร์ให้ทั่ว แต่ถ้าพบว่าส่วนไหนมีจุดที่เป็นคราบสีเก่าเกาะแน่น ให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 80 ขัดบริเวณนั้นจนกว่าสีจะหลุดออกได้เกลี้ยงเกลาก่อน
2. ขี้เกียจเช็ดฝุ่น สีตะปุ่มตะป่ำก็ถามหาก่อนลงสีก็ต้องเช็ดคราบสกปรก หรือฝุ่นออกให้หมดซะก่อน แต่จะใช้ผ้าที่ใช้กันทั่ว ๆ ไปอย่างผ้าขนหนู หรือผ้าขี้ริ้วไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพราะผ้าพวกนั้นไม่มีคุณสมบัติมากพอในการกำจัดคราบให้เกลี้ยงได้ ลองหา Tack Cloth หรือผ้าเหนียว ที่ใช้เช็ดคราบฝุ่นก่อนและหลังลงพ่นสีรถมาเช็ดแทน รับรองว่าจะไม่มีร่องรอยตะปุ่มตะป่ำจากความไม่เรียบเนียน ให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์เละ ๆ แน่นอน
3. สีรองพื้นใครว่าเปลืองเงิน ลองไม่ลงสิแล้วจะซึ้ง !ลงสีไปเปล่า ๆ บนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์เลย งานจะออกมาดูไม่เรียบเป๊ะแน่นอน คล้ายกับการแต่งหน้าที่ต้องลงรองพื้นก่อนเพื่อกลบพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนนั่นแหละ ถ้าจะให้ดีต้องใช้สีรองพื้นที่มีเบสเป็นน้ำเพราะสามารถซึมลึกและเคลือบผิวหน้าได้ดี และยังป้องกันคราบได้อีกด้วย เพียงใช้ลูกกลิ้งทาสีหรือแปรงทาสีทาให้ทั่วแล้วรอให้แห้ง แต่ถ้าลงรองพื้นหนาไปหน่อยก็แก้โดยใช้กระดาษทรายเบอร์ 220 ขัดออกให้เสมอกัน แล้วเช็ดด้วยผ้าเหนียวเพื่อเอาเศษที่เคลือบออก ก่อนลงสีให้สวยงาม
4. อย่าลืมเคลือบกึ่งเงากึ่งด้าน เพื่องานเนี้ยบเป๊ะหลังจากขัดด้วยกระดาษทรายและเช็ดคราบออกแล้ว ก็ใช่ว่าจะใช้สีอะไรก็ได้มาทาเลย แนะนำให้เลือกสีทาชนิดกึ่งเคลือบเงา และปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อความสวยงามในชิ้นงาน สีเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะดูไม่แห้งจนเกินไป แต่มีความมันเงานิด ๆ ดูใหม่ปิ๊งกว่าเดิม จากนั้นก็ลงสีแจ่ม ๆ ได้ตามต้องการ
5. เคลือบซ้ำอีกครั้ง เพื่อความสวยทนนานของงานที่มีชิ้นเดียวในโลกไม่ใช่พอลงสีผลงานเสร็จแล้วก็มัวแต่ยืนชื่นชมฝีมือตัวเองอยู่นานสองนานเพียงเท่านั้น เพราะถ้าไม่รีบให้ภูมิคุ้มกันกับเฟอร์นิเจอร์คุณด้วย Polycrylic หรือแว็กซ์เคลือบชนิดน้ำ ก็จะพาให้เฟอร์นิเจอร์เก่าที่เพิ่งถูกชุบชีวิตใหม่ เหมือนได้เกิดใหม่ไม่เต็มที่ เพียงนำลูกกลิ้งชุบแว็กซ์และทาเคลือบผิวบาง ๆ ทั่วทั้งเฟอร์นิเจอร์ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 72 ชั่วโมง เท่านี้คุณก็สามารถยืนชื่นชมผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ จากการเปลี่ยนโฉมเฟอร์นิเจอร์เก่าเป็นใหม่กิ๊กได้อย่างสบายใจแล้วล่ะค่ะ
ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมคะ กับขั้นตอนที่ถูกต้องในการทาสีใหม่ให้กับเฟอร์นิเจอร์ที่คุณรัก ดีกว่าปล่อยทิ้งให้เป็นขยะ แถมยังประหยัดค่าเฟอร์นิเจอร์ใหม่ด้วยเนอะ ^^
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
