พอเรียนจบมีหน้าที่การงานมั่นคง หนุ่ม-สาวหลายคนก็วางแผนมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่การซื้อบ้านก็ไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนซื้อของที่ตลาด เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ในเมื่อต้องเสียเงินก้อนใหญ่รวมถึงอาจต้องผ่อนไปอีกหลายปี เราจึงต้องมีความรู้กันหน่อย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีข้อมูล 9 สิ่งที่ควรรู้ก่อนคิดซื้อบ้านหลังแรกมาฝาก เพื่อเปลี่ยนการซื้อบ้านหลังแรกให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ทุกคนค่ะ
1. เลือกโครงการที่ประวัติดีแม้ว่าโครงการบ้านจัดสรรจะมีให้เลือกอยู่มากมาย และส่วนใหญ่เรามักจะเลือกกันที่ทำเลและราคา แต่อย่าลืมว่าชื่อเสียงของโครงการก็เป็นส่วนสำคัญที่จะยืนยันได้ส่วนหนึ่งว่า การบริการหลังการขายของบ้านราคาหลักล้านจะดูแลได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ ลองค้นหาคำติ-ชมในเว็บไซต์หรือสอบถามลูกบ้านโครงการที่สนใจ น่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
2. รู้งบประมาณตัวเองงบประมาณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการซื้อบ้าน เพราะเป็นตัวกำหนดว่าบ้านหลังไหนเป็นไปได้และเหมาะสมกับคุณ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการมองหาบ้านใหม่ ดังนั้นให้คำนวณรายรับ-รายจ่าย โดยแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือจำนวนเงินที่จ่ายได้สบาย ๆ ในแต่ละเดือน กับจำนวนเงินขั้นสูงสุดเท่าที่จะจ่ายได้ เพื่อพิจารณาหาบ้านที่เหมาะสมแบบไม่ต้องมานั่งกังวลทีหลัง
3. จัดลำดับความสำคัญหลายคนมีบ้านในฝันไม่ว่าจะมีห้องครัวกว้าง ๆ หรือมีพื้นที่หน้าบ้านไว้นั่งดื่มกาแฟชมดอกไม้ยามเช้า แต่เรื่องจริงก็คือคุณอาจไม่ได้ทั้งหมดที่ตั้งใจ ดังนั้นให้ลดขนาดความต้องการลง โดยทำลิสต์ขึ้นมา 2 แผ่น แผ่นแรกสำหรับสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เช่น จำนวนห้องนอน-ห้องน้ำในบ้าน ส่วนอีกแผ่นสำหรับสิ่งไม่จำเป็นแต่คุณจะมีความสุขหากได้มา จากนั้นให้โฟกัสหาบ้านที่มีทุกสิ่งในลิสต์แผ่นแรกก่อน ส่วนลิสต์แผ่นที่สองให้ถือเป็นของแถมเพิ่มเติม
4. ที่ตั้งสำคัญที่สุดตำแหน่งที่ตั้งของบ้านเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และคุณอาจต้องอยู่ในพื้นที่แห่งนั้นไปอีกหลายปี ดังนั้นจงคิดให้ถี่ถ้วนและทำการบ้านให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไปยังที่ทำงานหรือโรงเรียน ร้านค้า ตลาด ซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยาที่อยู่ใกล้ รวมถึงตรวจสอบถึงสถานที่อโคจร เช่น ผับบาร์ทั้งหลาย ไอเดียที่ดีคือให้เลือกโลเคชั่นที่ชอบไว้ในใจ 2-3 แห่งก่อนเข้าไปสอบถามรายละเอียด เพื่อช่วยให้การหาบ้านที่เหมาะสมเป็นเรื่องง่ายขึ้น
5. อย่าใส่ใจกับจุดเล็กน้อยข้อผิดพลาดของผู้ซื้อบ้านหน้าใหม่ส่วนใหญ่คือ มักโฟกัสกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน เช่น สีของผนังห้องนั่งเล่น วัสดุของพื้นห้องครัว ฯลฯ ทั้งที่ความเป็นจริงคุณควรถอยหลังออกมาโฟกัสภาพใหญ่อย่างโครงสร้างของบ้านมากกว่า เพราะตราบใดที่เรื่องใหญ่ ๆ ของบ้านไม่มีปัญหา รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างสีผนังสามารถแก้ไขภายหลังได้
6. ต่อราคาอย่างเหมาะสมผู้ซื้อบ้านหน้าใหม่หลายรายมีกรอบความคิดที่จะต่อราคาบ้านให้ต่ำที่สุด ซึ่งถึงแม้จะเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากคุณต้องการบ้านหลังนี้จริง ๆ วิธีคิดดังกล่าวอาจทำให้คุณต้องเสียบ้านให้กับคนที่พร้อมจ่ายในราคาเต็ม ดังนั้นก่อนที่จะต่อราคาให้คิดถึงความเป็นไปได้ไว้ด้วย เว้นแต่คุณไม่ได้ต้องการบ้านหลังนี้มาก และไม่เสียดายหากต้องพลาดโอกาสให้คนอื่น ค่อยลองต่อราคาหรือตกลงเรื่องของแถมอย่างที่ต้องการดู
7. ใช้บริการผู้เชี่ยวชาญรับตรวจบ้านแม้การจ้างบริษัทรับตรวจบ้านจะเป็นแค่ทางเลือก แต่การตัดสินใจไม่ใช้บริการอาจหมายถึงค่าใช้จ่ายซ่อมแซมบ้านอีกบานตะไทที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ดังนั้นยอมจ่ายเงินให้บริษัทตรวจบ้านเถอะหากคุณไม่มีความรู้หรือรู้จักกับคนที่ชำนาญมากพอ เพราะการยอมจ่ายเงินให้ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจบ้านจะเซฟค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือแม้กระทั่งช่วยให้คุณปฏิเสธการรับโอนและมองหาบ้านหลังใหม่ ในกรณีที่ความเสียหายมากเกินเยียวยา
8. ต่อรองอย่างชาญฉลาดดูเงื่อนไขสัญญาซื้อ-ขายให้ดี รวมถึงหากคุณตัดสินใจจะซื้อบ้านมือสอง ให้ตกลงกับผู้ขายให้แน่ชัดว่าใครคือคนที่ต้องซ่อมแซมของทุกอย่างในบ้าน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์อะไรที่คุณจะได้รับบ้าง อย่าพยายามแสดงออกว่าคุณต้องการบ้านหลังนี้มาก เพราะจะเป็นโอกาสให้คนขายมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ตกลงเจรจาด้วยความสุภาพและมีมารยาท เพื่อให้ผู้ขายจะทำแบบนั้นกับคุณเช่นกัน
9. คำนึงถึงการขายต่ออย่าคิดว่าบ้านหลังแรกของคุณจะคือบ้านหลังสุดท้ายในชีวิต เพราะยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่าง เช่น การย้ายงานหรือครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้นคำนึงถึงมูลค่ายามต้องขายบ้านต่อด้วย โดยซื้อบ้านที่เหมาะสมกับคุณซึ่งก็ดึงดูดคนอื่นในเวลาเดียวกัน โดยเคล็ดลับสำคัญคือให้พิจารณาถึงความต้องการของคนรุ่นต่อไป อย่างร้านค้า ร้านอาหาร หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ดึงดูดคนส่วนใหญ่นั่นเอง
มีความรู้กันแล้วก็ซื้อบ้านใหม่ได้อย่างสบายใจสักที ทีนี้ไม่ว่าจะมือใหม่มาจากไหนก็มีบ้านเป็นของตัวเองได้อย่างใจแล้วค่ะ
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
