พรีวิว เซ็นทริค รัชโยธิน คอนโดใหม่ติดถนนพหลฯ ใกล้รถไฟฟ้า เพียง 150 ม.

          เซ็นทริค รัชโยธิน โครงการคอนโดใหม่ 2018 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำเลติดถนนพหลโยธิน ห่างจากสถานีรัชโยธินเพียง 150 เมตร 

          รถติด กลายเป็นปัญหาที่ต้องเห็นคนทำงานในเมืองเอามาตั้งเป็นสเตตัสในโซเชียลกันทุกเช้า แต่ชีวิตเริ่มสะดวกสบายขึ้นเมื่อมีรถไฟฟ้า แต่นั่นก็ยังไม่ตอบโจทย์ใครหลายคนซะทีเดียว เพราะต้องต่อรถไป-กลับระหว่างบ้านและที่ทำงานอีก คอนโดแนวรถไฟฟ้า เลยกลายเป็นทางเลือกที่หลาย ๆ คนอยากจะเป็นเจ้าของ เพราะสะดวกสบายสำหรับคนที่ซื้อไว้พักอาศัยเองและนับเป็นทำเลที่หลายคนอยากจะซื้อไว้ลงทุน

          ซึ่งในวันนี้กระปุกดอทคอมก็จะพาไปรู้จักกับคอนโดแนวรถไฟฟ้าอีกหนึ่งแห่ง ที่เพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ กับโครงการ เซ็นทริค รัชโยธิน (Centric Ratchayothin) คอนโดใหม่ล่าสุดจาก Centric ภายใต้การดูแลของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

ภาพรวมโครงการ

          โครงการ เซ็นทริค รัชโยธิน ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เป็นคอนโดไฮไรส์ 21 ชั้น 1 อาคาร รวม 261 ยูนิต ที่จอดรถ 121 คัน (ให้สิทธิ์ห้องละ 1 คัน ยกเว้น 2 ห้องนอน ให้สิทธิ์ 2 คัน และไม่จำกัดตำแหน่งที่จอดรถ) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณารายงานของ EIA หากผ่านการอนุมัติจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนพฤษภาคม 2561 และคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จช่วงไตรมาสที่ 4 หรือประมาณปลายปี 2562

ทำเลและที่ตั้ง 

          ส่วนบริเวณใกล้เคียงก็มีทั้งห้างสรรพสินค้า (เมเจอร์ รัชโยธิน และเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว), โรงพยาบาล (โรงพยาบาลเปาโล เกษตร) และสถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) รวมไปถึงรถไฟฟ้า ซึ่งโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สถานีรัชโยธิน เพียง 150 เมตร ที่มีกำหนดเปิดให้บริการต้นปี 2563 และในอนาคตก็ยังเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าได้อีก 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-บึงกุ่ม)

          สำหรับเส้นทางการจราจร ก็สามารถเดินทางจากถนนพหลโยธินต่อไปยังถนนสำคัญได้อีกหลายสาย ได้แก่ ถนนรัชดาภิเษกที่นำสู่พระราม 9 ซึ่งถือเป็น NEW CBD (Central Business District) ย่านธุรกิจแห่งใหม่ในอนาคตของกรุงเทพฯ ถนนเกษตร-นวมินทร์ แหล่งช้อป กิน เที่ยว หรือจะไปถนนวิภาวดีรังสิตก็ไม่ไกลเลย


การออกแบบ

          ส่วนตัวอาคารก็มีการนำรูปทรงของพิกเซลมาใช้ในการออกแบบ ทั้งการตกแต่งผนังภายนอกและรูปทรงของอาคาร นอกจากนี้ยังมีการบิดรูปทรงอาคารบางส่วน อาทิ พื้นที่ส่วนกลางชั้นที่ 4 ซึ่งเป็น Triple Co-Working Space ให้เฉียงออกจากแนวถนน โดยหากมองจากภายในส่วนนี้ก็จะเห็นทั้งวิวสวนและรถไฟฟ้า และยังช่วยทำให้ภาพรวมของอาคารมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และทันสมัย

ส่วนกลาง

          ฟังก์ชั่นในส่วนนี้ออกแบบโดยคิดจากมุมมองของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่สำหรับพักผ่อนและใช้ทำงานไปพร้อมกันได้ ขนาดพื้นที่รวม 1,500 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่

          - ชั้นกราวนด์ ประกอบด้วย ล็อบบี้หรือห้องโถงส่วนกลางความสูง 5.5 เมตร ห้องรับรอง ตู้รับ-ฝากของ และลิฟต์โดยสารที่จะต้องใช้บัตรสแกนทุกครั้งก่อนใช้บริการในโซนนี้ 

          - ชั้น 4 เป็นพื้นที่ทำงานแบบ Triple Volume Co-Working Space ที่รวม Reading Bar, Co-Working Space, Co-living Space เอาไว้ด้วยกัน โดยได้ Paper Space ที่เคยออกแบบออฟฟิศกูเกิลในภูมิภาคเอเชียมาเป็นที่ปรึกษาเรื่องดีไซน์ในพื้นที่ Co-Working Space และ Business Lounge นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สวนชื่อ Sensation Garden ไว้นั่งทำงานหรือพักผ่อนก็ได้ และ Outdoor-Dining Space สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหารอีกด้วย

          - ชั้น 21 (ชั้นดาดฟ้า) ประกอบด้วย สระว่ายน้ำไร้ขอบพร้อมอ่างจากุซซี่ในตัว ฟิตเนสวิวพาโนรามา ออกแบบโดย Life Fitness นอกจากนี้ก็มีห้องออกกำลังกายส่วนตัวสำหรับชวนครอบครัวหรือเพื่อน ๆ มาออกกำลังกายด้วยกันได้

ห้องพัก

          สำหรับห้องพักของ เซ็นทริค รัชโยธิน เริ่มตั้งแต่ชั้น 5 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่เหนือแนวรถไฟฟ้า เพดานสูง 3 เมตร ตกแต่งพร้อมอยู่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ by SC Asset อาทิ ชุดครัวบิวท์อินและเครื่องครัว, ชุดโซฟารับแขกและชั้นวางทีวี, ฐานเตียง และตู้เสื้อผ้า รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ, เตาไมโครเวฟ, เครื่องดูดควัน, เตาไฟฟ้า, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบห้อง ซึ่งมี 4 แบบด้วยกันคือ

                    - แบบห้องสตูดิโอ : พื้นที่ใช้สอย 24 และ 26 ตารางเมตร
                    - แบบ 1 ห้องนอน : พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร
                    - แบบ 1 ห้องนอน พลัส : พื้นที่ใช้สอย 34-39 ตารางเมตร
                    - แบบ 2 ห้องนอน : พื้นที่ใช้สอย 55 ตารางเมตร

          นอกจากนี้ยังตอบรับกับยุคดิจิทัลด้วยการนำเทคโนโลยี "บ้านรู้ใจ" ที่พัฒนาร่วมกับ Fireoneone และ AIS เข้ามาใช้ ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถสั่งเปิด-ปิดไฟ, แอร์, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ระบบความปลอดภัย และเช็กตู้รับฝากของสำหรับรับพัสดุได้เองง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน

ห้องพักตัวอย่าง

                   - แบบ 1 ห้องนอน Plus