10 เครื่องบดกาแฟมือหมุน ใช้งานง่าย ได้อารมณ์บาริสต้า

เครื่องบดกาแฟมือหมุน ตัวช่วยสำคัญในการบดเมล็ดกาแฟ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มแก้วโปรดรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมกรุ่น คนที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟมือหมุน ต้องอ่าน ! 

ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้กาแฟสดที่ต้องดื่มเป็นประจำทุกวัน คงจะรู้กันดีว่า นอกจากเครื่องชงกาแฟคุณภาพสูง เมล็ดสายพันธุ์เยี่ยมแล้ว อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้ได้รสชาติเข้มข้น และความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟ นั่นคือ เครื่องบดกาแฟ ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภทตามความชอบและความสะดวกในการใช้งาน โดยที่เรามักเห็นกันบ่อย ๆ จนชินตาที่บาริสต้าตามคาเฟ่หรือร้านกาแฟใช้กัน ก็คือ เครื่องบดกาแฟมือหมุน ที่มีวิธีการทำงานง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องต่อสายไฟให้วุ่นวาย แค่หมุน ๆ บด ๆ เมล็ดกาแฟไม่นานก็ได้เป็นผงละเอียด นำไปชงกันได้แล้ว เกริ่นมาแบบนี้ หลายคนคงอยากจะมีไว้ในครอบครองซักอัน สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟมือหมุน ลองดูตัวอย่างแบรนด์และวิธีการเลือกซื้อที่เรานำมาฝากกันเอาไว้เป็นไอเดียได้เลยค่ะ 

เครื่องบดกาแฟมือหมุน (Hand Coffee Grinder / Manual Coffee Grinder) เป็นเครื่องบดเมล็ดกาแฟให้ได้กากกาแฟที่มีขนาดเท่ากัน เพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุลและกลมกล่อมของกาแฟ เหมาะสำหรับบดทั้งแบบ French Press ไปจนถึง Espresso ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย สะดวกสำหรับการเดินทาง และทนทานมากกว่าเครื่องบดแบบไฟฟ้า โดยส่วนประกอบของเครื่องบดกาแฟมือหมุน ได้แก่ โถหรือถังพักเล็ก ๆ สำหรับเก็บเมล็ดกาแฟ ชุดเฟืองสำหรับบด และช่องสำหรับเก็บกากกาแฟด้านล่าง ซึ่งทุกส่วนเชื่อมต่อกันด้วยแท่งหมุนและด้ามจับ  

เครื่องบดกาแฟมือหมุนที่มีในท้องตลาดทั่วไป จะมีอยู่ 2 ประเภท ดังนี้ 

• แบบใบมีด (Blade Coffee Grinders) : เป็นเครื่องบดที่มีชุดบดทำจากใบมีด 2 ง่าม ทำหน้าที่บดสับเมล็ดกาแฟให้มีขนาดเล็กและละเอียด โดยเครื่องแบบนี้มักจะมีปุ่มกดเริ่มต้นการทำงานเพียงปุ่มเดียว ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน แต่ก็มีข้อเสียคือ บดกากกาแฟได้ละเอียดไม่สม่ำเสมอ ไม่เท่ากันทุกครั้งที่บด อาจจะมีทั้งเป็นเกล็ด เม็ด หรือผงละเอียด นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดจากการหมุนใบมีดอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้รสชาติของกาแฟเพี้ยนไปจากเดิม และไม่ค่อยหอม จึงนิยมนำมาใช้บดเพื่อทำกาแฟแบบ French Press มากกว่า

• แบบฟันบด (Burr Coffee Grinders) : เป็นเครื่องบดที่มีฟันบด 2 ชิ้นประกบกันพอดี และบดเมล็ดกาแฟที่ผ่านเข้ามาให้มีขนาดเล็กที่สม่ำเสมอและมีความละเอียดเท่ากัน โดยทั่วไปฟันบดมักจะทำมาจากเซรามิกหรือสเตนเลสคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานกว่าแบบใบมีด ให้ความร้อนระหว่างการบดน้อยกว่า ทำให้คงรสชาติและความหอมของกาแฟได้มากกว่า แต่ก็มีราคาที่แพงกว่าตามไปด้วย 

ปัจจุบันมีเครื่องบดกาแฟมือหมุนมากมาย ใครที่กำลังอยากสวมบทบาทบาริสต้า บดและชงกาแฟหอม ๆ ดื่มเองที่บ้าน ลองดูวิธีการเลือกซื้อเหล่านี้ไว้เป็นไอเดียกันได้เลย 

• วัสดุ : ส่วนใหญ่เครื่องบดกาแฟมือหมุนมักจะทำมาจากวัสดุหลัก 3 ประเภท ได้แก่ สเตนเลส เซรามิก และพลาสติก ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการดื่มกาแฟของตัวเอง
   
  • สเตนเลส มีข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ แข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม และมีดีไซน์ที่ดูดี ทันสมัย แต่ก็มีข้อเสียคือ มีน้ำหนักมากกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ 
  • เซรามิก ให้ความหรูหรา สวยงาม โดดเด่นกว่าเครื่องบดที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ แต่ก็มีข้อเสียคือ แตกหักง่าย จึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
  • พลาสติก ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยขีดข่วน หรือแม้จะทำตก ก็ไม่เป็นไร แต่อาจจะอายุการใช้งานไม่นานเท่าเครื่องที่ทำจากสเตนเลสและเซรามิก  

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบดกาแฟมือหมุนที่ทำจากไม้ ให้ความรู้สึกแบบวินเทจเก๋ ๆ ใช้บดกาแฟก็ได้ หรือจะนำมาตกแต่งบ้านก็เข้าที แต่ก็มีข้อเสียคืออายุการใช้งานจะสั้นกว่าเครื่องที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ 

• ขนาดของโถจุเมล็ดกาแฟ : โดยทั่วไปแล้วเครื่องบดมือหมุนมักจะมีความจุเมล็ดกาแฟอยู่ที่ประมาณ 20-30 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการชงหนึ่งครั้ง แต่ถ้าเป็นคอกาแฟที่ต้องดื่มหลายแก้วต่อวัน ก็อาจต้องเลือกเครื่องบดที่มีขนาดความจุเพิ่มขึ้นเป็น 30-40 กรัม 
   
• ขนาดของตัวเครื่อง : จุดเด่นของเครื่องบดกาแฟมือหมุนคือ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ถือได้ด้วยมือข้างเดียว ไม่ต้องต่อไฟฟ้า ใช้งานง่าย บางรุ่นสามารถถอดแกนหมุนออกได้ ทำให้สะดวกในการพกพาสำหรับการเดินทาง
   
• ราคา : เริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน หรือจนถึงหลักหมื่นก็มี ซึ่งขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นการใช้งาน ดีไซน์ และการรับประกันต่าง ๆ ของแบรนด์นั้น ๆ 

คอกาแฟแนววินเทจ ถูกใจสิ่งนี้ กับเครื่องบดกาแฟมือหมุนแบบฟันบด สไตล์ย้อนยุคจากประเทศญี่ปุ่น เฟืองบดเป็นเหล็ก บดเมล็ดกาแฟได้นิ่งและแม่นยำ มีตัวปรับระดับความละเอียดได้โดยกะจากความกว้างหรือแคบของเฟือง อาจจะดูยากไปเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ แต่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือน รูปลักษณ์ออกแบบคุมโทนมินิมอล เรียบหรู ไม่หวือหวา ตัวกระบอกและโถใส่กาแฟขนาด 30 กรัม พร้อมด้วยก้านหมุนและหัวจับทำจากไม้ สวยงาม ใช้งานง่าย ราคาประมาณ 1,300-2,000 บาท

เครื่องบดกาแฟมือหมุน Bialetti Macinacaffe แบรนด์เดียวกับหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ที่คอกาแฟทั้งหลายคงรู้จักกันดี ใบเฟืองบดเป็นเซรามิก ปรับความหยาบละเอียดได้ ใช้งานง่าย ตัวเครื่องภายนอกเป็นพลาสติก PP คุณภาพดี ฝาปิดอุปกรณ์เป็นซิลิโคน สามารถยึดติดกับตัวเครื่องและเปิดออกเพื่อใส่เมล็ดกาแฟได้โดยไม่ต้องถอดออกให้ยุ่งยาก บดเมล็ดกาแฟได้ตั้งแต่ 1-6 ถ้วย เลือกปริมาณกาแฟที่ต้องการได้ สามารถถอดล้างทำความสะอาดที่ใส่ผงกาแฟได้ ราคาประมาณ 1,795 บาท 

เครื่องบดเมล็ดกาแฟมือหมุน Hario Coffee Mill รุ่น Smart (MSG-2-T) ฟันบดเฟืองทำจากเซรามิก ด้ามจับเป็นสเตนเลส แข็งเเรง ทนทาน ตัวเครื่องเป็นพลาสติก จับถนัดมือ รูปทรงทันสมัย สวยงาม ใสโปร่งแสง มองเห็นเมล็ดกาแฟด้านใน ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีช่องสำหรับจับเก็บด้ามมือหมุนด้านข้าง บรรจุกาแฟได้ตั้งแต่ 12-24 กรัม ตวงวัดปริมาณง่าย มีขีดบอกที่ด้านข้าง ปรับการบดง่าย ปรับใบมีดได้หลายระดับทั้งแบบหยาบและละเอียด แต่ควรระวังเพราะไม่เหมาะกับการบดเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ที่เมล็ด เหนียว และแข็งเกินไป ราคาประมาณ 1,890 บาท 

เครื่องบดกาแฟมือหมุน Ibili เป็นแบรนด์จากประเทศสเปน ปรับระดับการบดให้ละเอียดและหยาบได้ตามต้องการ กาแฟที่ชงจากการบดสดจะได้รสชาติและกลิ่นที่ดีกว่า เนื่องจากกลิ่นไม่ได้สูญหายไป น้ำมันในเมล็ดกาแฟยังคงอยู่ มาในรูปทรงคลาสสิก ตัวเครื่องทำจากไม้ และก้านหมุนเป็นสเตนเลส แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน น้ำหนักเบา ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู นอกจากใช้บดเมล็ดกาแฟเพื่อชงกาแฟแก้วโปรดแล้ว ยังใช้เป็นของประดับตกแต่งบ้านได้อีกด้วย ราคาประมาณ 1,995 บาท 

เครื่องบดกาแฟ Moho รุ่น ST38 ใช้เฟืองบดขนาด 38 มม. 6 แฉก ทำจากสแตนเลสเคลือบไทเทเนียม ลดการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งาน ตัวเครื่องทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบ 3 ช่อง เพิ่มความแข็งแรงด้วยลูกปืน 2 ตัวยึดด้านบนและด้านล่าง สามารถบดกาแฟได้ครั้งละ 20-25 กรัม และบดได้ลื่น นิ่ง แม่นยำ ไม่เปลืองแรง มีจุดปรับระดับการบดด้วยการหมุน และมีคำแนะนำในคู่มือบอกระดับการบดว่าต้องหมุนประมาณกี่คลิก มือใหม่หัดบดกาแฟสามารถทำตามคำแนะนำหรือปรับเพิ่มลดตามต้องการได้เลย ราคาประมาณ 2,090 บาท

เครื่องบดกาแฟมือหมุน Kingrinder รุ่น K2 เฟืองบดทำจากสเตนเลส ขนาด 48 มม. ปรับความละเอียดในการบดได้ถึง 40 คลิกต่อรอบ บดได้ตั้งแต่แบบ Pour Over จนถึง Espresso บรรจุเมล็ดกาแฟได้ครั้งละ 25 กรัม ตัวเครื่องด้านนอกทำจากอลูมิเนียม ฝาปิดทำด้วยพลาสติก ปลายด้ามจับทำเป็นไม้แท้ ดีไซน์สวยเก๋ จับกระชับ ถนัดมือ ราคาประมาณ 2,490 บาท 

เครื่องบดกาแฟมือหมุน Porlex รุ่น Ceramic II ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมใบมีดเซรามิก บดเร็ว และสม่ำเสมอ ปรับความละเอียดได้หลายระดับตั้งแต่หยาบไปจนถึงละเอียดมาก ไม่ดูดซับน้ำและกลิ่น รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องคราบสนิม ความจุโดยประมาณ 30 กรัม ดีไซน์เพรียวบาง เรียบง่าย ด้ามหมุนถอดออกได้ พกพาสะดวก และทำความสะอาดได้ง่าย ราคาประมาณ 2,500-2,800 บาท 

เครื่องบดกาแฟมือหมุน Timemore Slim Plus รุ่น TM202TCGSP ใช้เฟืองแบบ E&B รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อการบดตัดที่เร็วขึ้น เบาแรงขึ้น สม่ำเสมอมากขึ้น ด้วยการทำงานพร้อมกันของเฟืองด้านบนและด้านล่าง (ตัดหยาบด้านบน และบดละเอียดด้านล่าง) สามารถปรับระดับความหยาบของเมล็ดกาแฟได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ บดกาแฟได้ครั้งละ 20 กรัม เหมาะสำหรับการใช้งานทั้ง 2 แบบ ทั้ง Pour Over และ Espresso รูปทรงดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ตัวเครื่องทำจากโลหะและไม้วอลนัทตามธรรมชาติ เฟืองมีดใบบดทำจากเหล็กสเตนเลส HRC 58 ซึ่งเป็นสเตนเลสชุบแข็ง ที่แข็งแรงและมีอายุการใช้งานนานกว่าสเตนเลสทั่วไป ราคาประมาณ 4,450 บาท 

เครื่องบดกาแฟมือหมุน 1zpresso รุ่น JX-PRO ใช้ฟันบดเป็นเฟืองสเตนเลส J-Burr ขนาด 48 มม. คมกริบและทนทานขนาดใหญ่ ทำให้มีกำลังบดกาแฟได้เร็ว ยิ่ง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับการบดทั้งแบบ Espresso และแบบ Slow Bar เช่น Drip, Aeropress, Syphon, French Press ให้กาแฟที่หอม เข้มข้น เต็มรสชาติ โถบรรจุกาแฟได้ 30-35 กรัม ปลายด้ามจับเป็นงานไม้แท้ ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ ดีไซน์หรู จับถนัดมือ ตอบโจทย์คอกาแฟที่กำลังมองเครื่องบดแบบมือหมุนสำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ราคาประมาณ 5,300 บาท 

เครื่องบดกาแฟมือหมุน Comandante รุ่น C40 ผลิตโดยบริษัท BB Coffee Company ในประเทศเยอรมันนี ใช้เฟือง Nitro Blade® Burrs ทำจากสเตนเลสแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม คม และมีอายุการใช้งานยาวนาน มีใบมีดทรง Z-teeth บดตัดเมล็ดกาแฟได้นิ่ง แม่นยำ ไม่ทิ้งเศษผง ทั้งแบบ Pour Over และ Espresso และยังสามารถบดสายพันธุ์อะราปิก้าที่มีความหนาแน่นได้ อีกทั้งปรับค่าบดง่ายไม่ว่าจะให้บดละเอียดหรือหยาบขึ้น นอกจากบดกาแฟแล้ว ยังสามารถนำไปใช้บดเครื่องเทศหรือใบชาได้ด้วย มีโหลใส่กาแฟแก้ว 2 อัน ใส่เมล็ดกาแฟได้ครั้งละ 40 กรัม  มาในรูปลักษณ์ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ได้มาตรฐาน ราคาประมาณ 10,500-11,500 บาท 

คอกาแฟทั้งหลายที่อยากหาซื้อเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน คงจะได้จุใจทั้งวิธีการเลือกซื้อและตัวอย่างแบรนด์ที่มีขายในท้องตลาดที่เรานำมาฝากกันแล้ว ลองนำไปปรับใช้ดูเพื่อให้ได้เครื่องบดเมล็ดกาแฟที่ได้คุณภาพและตรงตามความต้องการที่สุดนะคะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก alternativebrewing.com.au, javapresse.com (1), (2), (3), eater.com, prima-coffee.com, Central (1), (2), The Home Barista, 1zpresso.coffee, koffeetools.com, mohogrinder.com (1), (2), Bialetti Official Store, kalita.us.com และ porlexgrinders.com