แชร์เคล็ดลับซักผ้าของแม่ ทำยังไงให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดทนนาน เอาไว้ไปลองซักผ้าเอง จะได้หอมเหมือนแม่มาซักให้
สำหรับลูก ๆ ที่สงสัยว่าทำไมใช้ของทุกอย่างเหมือนแม่เป๊ะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ซักผ้ายังไงก็ไม่หอมเหมือนแม่ซัก วันนี้เราจะมาไขความลับ วิธีซักผ้าให้หอมเหมือนแม่ซัก มาฝาก เอาไว้ลองไปใช้กัน จะได้หายข้องใจซะที
1. แช่ผ้าก่อนซัก
สำหรับผ้าที่มีกลิ่นอับหรือคราบสกปรก ให้นำไปแช่ในน้ำผสมน้ำสามชูก่อนประมาณ 15-30 นาที แล้วค่อนำไปซัก แต่ถ้าหากมีคราบหนัก เช่น คราบเหลืองบริเวณปกเสื้อหรือแขนเสื้อ ให้ฉีดน้ำส้มสายชูลงไปบนคราบโดยตรงทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยนำไปซัก
2. ใส่น้ำส้มสายชู
ตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่แม่หลายบ้านบอกว่าดี ! โดยใส่น้ำส้มสายชูประมาณ 1 ถ้วยตวงลงไปในถังซักผ้าก่อนน้ำซักผ้ารอบสุดท้าย แล้วค่อยกดให้เครื่องทำงานต่อ หรือจะใช้แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มเลยก็ได้ นอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นอับกลิ่นเหม็นแล้ว ยังช่วยให้ผ้านุ่มขึ้นด้วย
3. ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้าย
สำหรับคนที่ใช้เครื่องซักผ้าไม่ว่าจะเป็นเครื่องฝาหน้าหรือเครื่องฝาบน ให้เปลี่ยนมาใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในเครื่องในรอบการล้างน้ำสุดท้าย เพราะถ้าหากใส่ใส่น้ำใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มตั้งแต่แรก เครื่องอาจจะล้างออกไปพร้อมกับน้ำยาซักผ้าในรอบแรก
4. ใส่น้ำยาให้พอดี
ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า รวมถึงน้ำยาปรับผ้านุ่ม อย่าคิดว่ายิ่งใส่เยอะผ้ายิ่งหอม เพราะถ้าล้างออกไม่หมด จะทำให้เกิดคราบและกลิ่นเหม็นตามมา หรืออาจจะมีกลิ่นฉุนแทน ฉะนั้นใส่ให้พอดีกับปริมาณผ้าหรือตามที่เขียนแนะนำไว้บนผลิตภัณฑ์
5. ไม่ซักผ้าเยอะเกินไป
ควรซักผ้าให้เหมาะขนาดเครื่องซักผ้า หากใส่ผ้าเยอะเกินไป ก็จะทำให้ผ้าไม่สะอาด แทนที่ผ้าจะหอมก็จะมีกลิ่นอับแถมคราบสกปรกตามมา โดยอาจจะแยกผ้าก่อนซัก เช่น ผ้าขาวกับผ้าสี ผ้าทั่วไปกับผ้ามีคราบหนัก นอกจากจะทำให้ซักผ้าได้สะอาดขึ้นแล้ว ยังช่วยลดปัญหาเสื้อผ้าสีตกด้วย
6. แช่น้ำยาปรับผ้านุ่มก่อนตาก
สำหรับคนที่ซักมือหรืออยากให้เสื้อผ้ามีกลิ่นตินทน มีอีกหนึ่งวิธีคือนำเสื้อผ้าที่ซักแล้วมาแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ล้างด้วยน้ำสะอาด 1 รอบ แล้วค่อยนำไปตาก ก็จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้เหมือนกัน
7. ผ้าแห้งปุ๊บเก็บปั๊บ
เพื่อความชัวร์ว่าผ้าแห้งจริง ลูก ๆ หลายคนอาจจะตากผ้าทิ้งไว้เป็นวัน ๆ จนผ้าแข็งก็มี ซึ่งตรงนี้แหละเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลิ่นหายไป ฉะนั้นทางที่ดีนอกจากตากผ้าในวันที่มีแดดและลมโกรกแล้ว เมื่อผ้าแห้งแล้วควรรีบเก็บให้เรียบร้อย นอกจากจะช่วยรักษากลิ่นหอมได้แล้ว ยังป้องกันไม่ให้ฝุ่นเกาะเสื้อผ้าอีกด้วย
8. อย่าลืมล้างเครื่องซักผ้า
เพราะในเครื่องซักผ้าอาจมีเชื้อราและคราบน้ำยาต่าง ๆ ตกค้างอยู่ตามซอกที่เรามองไม่เห็นอีก อีกทั้งยังทำให้เกิดกลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นติดเสื้อผ้ามาตอนซัก หมั่นล้างเครื่องซักผ้าทุก 6 เดือนหรืออย่างน้อยปีละครั้งดีกว่า จะใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาล้างถังซักผ้าก็ได้ เทลงไปในถังซักแล้วเปิดโหมดล้างถังซักหรือโปรแกรมซักตามปกติ
9. ใช้น้ำยารีดผ้า
สำหรับเสื้อผ้าที่ต้องรีดอย่าลืมใช้น้ำยารีดผ้าด้วย บอกเลยว่านอกจากจะทำให้ผ้าหอมติดทนนานมากขึ้นแล้ว ยังทำให้รัดผ้าได้เร็วไม่ต้องออกแรงเยอะ ช่วยให้ผ้าเรียบไว แมถยังถนอมเส้นในผ้าด้วย
คราวนี้ลูก ๆ หลายคนก็คงหายคาใจกันแล้วนะคะ ว่าจะซักผ้ายังไงให้หอมเหมือนแม่ซัก หรือถ้าหากใครมีทริกที่อยากแชร์ก็คอมเมนต์บอกต่อกันได้เลย
