13 ไอเดียแบบห้องนั่งเล่นสวยมีสไตล์ เปลี่ยนมุมโปรดในบ้านให้โดดเด่น น่านั่ง และสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้าน
ห้องนั่งเล่นคือหัวใจของบ้านที่สะท้อนรสนิยมและตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมุมพักผ่อนหลังเลิกงาน พื้นที่ต้อนรับแขก หรือจุดรวมกิจกรรมของครอบครัว การออกแบบห้องนั่งเล่นให้น่าอยู่และมีสไตล์จึงสำคัญไม่น้อย โดยในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับแบบห้องนั่งเล่นสไตล์ต่าง ๆ ที่จะช่วยจุดประกายไอเดียการแต่งบ้าน เปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่นและมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองกัน
แบบห้องนั่งเล่น หลากสไตล์
1. ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย
ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัยที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับความอบอุ่น โดดเด่นด้วยโทนสีม่วงพลัมและชมพูอมฝุ่น ซึ่งปรากฏบนโซฟาผ้ากำมะหยี่รูปตัว L กับเก้าอี้เบาะผ้าดีไซน์หรู และพรมพื้นนุ่มฟู สร้างบรรยากาศอ่อนโยนและน่าพักผ่อน ผนังด้านหนึ่งทาสีเทาอ่อนตัดกับบัวผนังสีขาว ส่วนอีกด้านใช้สีแดงเบอร์กันดีหรือม่วงอมแดงเป็นสีเน้นเพื่อเพิ่มความเข้มและดึงดูดสายตา เฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงที่เรียบง่ายแต่ประณีต เช่น โต๊ะกลางไม้ขาเรียว โคมไฟตั้งพื้นแบบขาตั้งไม้ และโคมไฟแขวนเพดานดีไซน์เรขาคณิตสีดำที่ดูทันสมัย รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างหมอนอิงที่มีผิวสัมผัสและลวดลายต่าง ๆ รวมถึงการใช้โลหะสีทองเหลืองบนของตกแต่งและโต๊ะข้าง ล้วนมีส่วนช่วยยกระดับความหรูให้กับภายในห้องนี้
2. ห้องนั่งเล่นสไตล์สแกนดิเนเวียน
ห้องนั่งเล่นสไตล์สแกนดิเนเวียนเน้นความเรียบง่ายและโปร่งสบาย โดยใช้โทนสีกลางที่ดูสะอาดตาเป็นหลัก เช่น สีเทาอ่อนของผนังและสีพาสเทลมิ้นท์ของโซฟา โซฟาขนาดกลางมีดีไซน์ที่ทันสมัยแต่เรียบง่าย พร้อมขาไม้ที่เปิดเผยให้เห็นพื้นไม้ปาร์เกต์ลายก้างปลา ซึ่งดูความอบอุ่นตามแบบสแกนดิเนเวียน ส่วนองค์ประกอบที่นำความเป็นธรรมชาติเข้ามาในห้องคือการใช้ไม้สีอ่อนในโต๊ะกลางที่มีขาเหล็กสีขาวเพรียวบาง ชั้นวางของ และกรอบรูป อีกทั้งยังมีการจัดวางต้นไม้และกระถางหลายขนาด การตกแต่งเน้นความมีชีวิตชีวาด้วยพรมลายวินเทจสีน้ำเงิน-เขียว เฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงที่เน้นเส้นสายที่ชัดเจนแต่ไม่แข็งกระด้าง เช่น โคมไฟเพดานห้อยแบบเปลือยหลอด และโคมไฟตั้งโต๊ะที่มีฐานแก้วโปร่งใส ทำให้ห้องนี้ดูสงบ ผ่อนคลาย และใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้ดี
3. ห้องนั่งเล่นสไตล์มิด-เซนจูรี โมเดิร์น
ห้องนั่งเล่นสไตล์มิด-เซนจูรี ที่คงความเป็นธรรมชาติด้วยการเน้นการใช้โทนสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก โดยเฉพาะสีน้ำตาลอิฐและสีเบจ มีโซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง ร่วมกับเก้าอี้มีพนักพิงเบาะผ้าขนแกะสีขาวนวลและโครงไม้ที่โค้งมนอย่างมีสไตล์ พื้นที่ถูกทำให้รู้สึกอบอุ่นด้วยพรมขนสั้นสีอ่อน และเพิ่มรายละเอียดที่น่าสนใจด้วยออตโตมันทรงกลมบุหนังสีน้ำตาลลูกฟูก การตกแต่งเน้นการใช้พื้นผิวและวัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น ไม้สีเข้ม ของตกแต่งดินเผา และต้นไม้สีเขียวที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น โต๊ะกลางมีขาเหล็กและท็อปสีอ่อนที่ดูเรียบง่าย แต่การจัดวางองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันสะท้อนถึงการออกแบบที่เรียบหรู อบอุ่น และเป็นอมตะตามแบบฉบับของสไตล์มิด-เซนจูรี โมเดิร์น
4. ห้องนั่งเล่นสไตล์โบฮีเมียน
ห้องนั่งเล่นสไตล์โบฮีเมียน โดเด่นด้วยโทนสีกลางที่สว่างและอ่อนโยน เช่น สีเทาอ่อนของผนังและสีเทาของโซฟาผ้าสองตัว ทำให้ห้องดูโปร่งสบาย จุดเด่นของสไตล์โบโฮคือการใช้วัสดุและพื้นผิวจากธรรมชาติอย่างชัดเจน เช่น โคมไฟแขวนเพดานสานจากหวายที่มีขนาดใหญ่ โต๊ะกลางทรงกลมที่มีลายไม้และร่องแนวตั้ง ประดับด้วยฉากกั้นไม้ที่ให้ความเป็นส่วนตัว สำหรับองค์ประกอบที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาและพื้นผิวที่หลากหลายคือหมอนอิงสีส้มอิฐสดใส หมอนอิงลายปักแบบชนเผ่า และงานศิลปะแขวนผนังที่ทำจากเชือกหรือพู่ ส่วนต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่จัดวางอยู่ทั่วห้องก็ช่วยเติมเต็มความเป็นธรรมชาติ สไตล์นี้จึงให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง และแสดงถึงอิสระทางความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่ง
5. ห้องนั่งเล่นสไตล์ Japandi
ห้องนั่งเล่นสไตล์ Japandi เป็นการผสมผสานระหว่างความอบอุ่นแบบสแกนดิเนเวียนและความเรียบง่ายสงบในแบบญี่ปุ่น โดยเน้นการใช้โทนสีกลางและสีเอิร์ธโทนที่อ่อนโยน เช่น สีเบจ สีทราย และสีขาวนวล ผนังทาสีน้ำตาลอ่อนแบบมีพื้นผิว สร้างความรู้สึกที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง เช่น โซฟาผ้าลูกฟูกสีครีมอ่อนที่ดูนุ่มสบาย และเก้าอี้พักผ่อนดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตที่ดูทันสมัย โต๊ะกลางมีดีไซน์ที่น่าสนใจด้วยฐานทรงกลมสามลูกและท็อปกระจกใส ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เน้นรูปทรงประติมากรรม การตกแต่งถูกจำกัดให้เหลือเพียงของที่จำเป็น แต่เน้นคุณภาพและการเลือกใช้ของตกแต่งที่เป็นศิลปะ รวมถึงต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาและความสงบเงียบตามแบบฉบับของสไตล์นี้
6. ห้องนั่งเล่นสไตล์เมมฟิสหรือโพสต์โมเดิร์น
ห้องนั่งเล่นสไตล์เมมฟิสหรือโพสต์โมเดิร์น ใช้สีสันสดใส รูปทรงเรขาคณิตที่ดูมีความสนุกสนาน ผนังห้องทาสีน้ำเงินอมเขียวที่เป็นสีเน้นอย่างโดดเด่น ตัดกับโซฟาเบดสีขาวนวลรูปทรงโค้งมนที่ดูนุ่มสบาย เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสะท้อนถึงสไตล์นี้อย่างชัดเจนด้วยการใช้สีหลักและสีรองที่ฉูดฉาด เช่น สีเหลือง สีแดงเบอร์กันดี สีฟ้า และสีเขียวน้ำทะเล ซึ่งปรากฏบนออตโตมันทรงกลมกระบอก ชั้นวางของสีดำเปิดโล่ง และของตกแต่งที่มีรูปทรงแปลกตา การใช้ช่องรูปทรงโค้งมนของชั้นวางสีขาว กับการจัดวางองค์ประกอบที่เน้นความขี้เล่นและอิสระ แสดงให้เห็นถึงการหลีกหนีจากความเรียบง่ายแบบมินิมัลลิสต์ ทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยบุคลิกที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
7. ห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมัลลิสต์
ห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมัลลิสต์ เรียบง่ายด้วยโทนสีขาว สีเทาอ่อน และสีไม้ธรรมชาติ พื้นหลังของห้องเป็นสีขาวทั้งหมดเพื่อเน้นความสว่าง มีหน้าต่างบานใหญ่แบบเต็มผนังที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งและกว้างขวาง เฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงที่เรียบง่ายและเส้นสายที่ชัดเจน โดยมีโซฟาผ้าสีเทาสองตัวเป็นจุดศูนย์กลาง พร้อมหมอนอิงสีเขียวที่ช่วยเพิ่มสีสันเล็กน้อย พรมสีเทาอ่อนช่วยกำหนดพื้นที่และเพิ่มความนุ่มนวลให้กับพื้นไม้สีอ่อน การตกแต่งถูกลดทอนให้เหลือเพียงของที่จำเป็น เช่น ชั้นวางของสีขาวที่จัดเก็บของอย่างเป็นระเบียบ และชุดกรอบรูปไม้ขนาดเล็กบนผนัง ล้วนแสดงให้เห็นถึงหลักการ "น้อยแต่มาก" (Less is more) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสไตล์มินิมัลลิสต์
8. ห้องนั่งเล่นสไตล์โบโฮ
ห้องนั่งเล่นสไตล์โบโฮที่มีกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติแบบชายหาดหรือเมดิเตอร์เรเนียน โดยเน้นการใช้สีเอิร์ธโทนที่อบอุ่นเป็นหลัก เช่น สีเบจ สีทราย และสีน้ำตาลของไม้ ผนังทาสีเบจหรือสีครีมอ่อนที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสว่างไสว เฟอร์นิเจอร์หลักเป็นโซฟาผ้าสีขาวนวลที่มีรูปทรงโค้งมนดูนุ่มสบาย และมีเก้าอี้พักผ่อนแบบ Bean Bag บุหนังกลับสีน้ำตาล ซึ่งเพิ่มความสบายแบบลำลอง องค์ประกอบสำคัญของสไตล์นี้คือการใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างหวายหรือจักสานบนโต๊ะกลางทรงกลม และพรมปูพื้นทรงกลมที่ทำจากปอหรือใยธรรมชาติ รวมถึงเก้าอี้ไม้และพื้นไม้ปาร์เกต์ที่ช่วยเสริมความอบอุ่น ส่วนการตกแต่งใช้ต้นไม้ขนาดใหญ่ในกระถางดินเผา และแจกันเซรามิกที่ประดับด้วยกิ่งไม้หรือดอกไม้แห้ง แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่สบาย ๆ เป็นกันเอง และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
9. ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย
ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัยที่มีการใช้สีสันอย่างกล้าหาญและน่าสนใจ ผนังด้านหลักถูกทาด้วยสีน้ำเงินเข้มที่ให้ความรู้สึกหรูหราและหนักแน่น ซึ่งถูกนำมาตัดกับโซฟาผ้ากำมะหยี่รูปตัว L ที่มีสีส้มอิฐอย่างโดดเด่น ทำให้เกิดความขัดแย้งทางสีที่ดึงดูดสายตา ประกอบกับเฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงโค้งมนและทันสมัยอย่างโต๊ะกลางทรงกระบอกสีขาวและโคมไฟตั้งพื้นแบบสามขา เน้นเส้นสายที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน การออกแบบให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านม่านบังตาและการใช้องค์ประกอบจากธรรมชาติ เช่น พื้นไม้สีอ่อน การใช้สีไม้บนผนังอีกด้าน และการนำต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่มาจัดวางเพื่อสร้างความสมดุลและความสดชื่นให้กับโทนสีเข้มและสีสดใส ทำให้ห้องนี้ดูมีสไตล์ ทันสมัย และมีพลัง
10. ห้องนั่งเล่นสไตล์นีโอคลาสสิก
ห้องนั่งเล่นสไตล์นีโอคลาสสิก หรือที่เรียกกันว่าลักชัวรีร่วมสมัย เน้นความหรูหรา โอ่อ่า และความสมมาตรอย่างมีรสนิยม การใช้จานสีเป็นโทนกลางที่สง่างาม เช่น สีเบจ สีเทาอ่อน และสีขาวนวล โดยมีผนังตกแต่งด้วยบัวผนังสีอ่อนพร้อมเส้นขอบโลหะสีทองเหลืองหรือทองแดงที่ละเอียดอ่อน โซฟาตัวยาวขนาดใหญ่มีดีไซน์ที่ดูเรียบหรู พร้อมการเพิ่มสีสันด้วยหมอนอิงโทนสีอัญมณี เช่น สีแดงเบอร์กันดีและสีส้มอำพัน ส่วนเก้าอี้พักผ่อนตัวเดี่ยวก็ใช้ผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้มเพื่อเป็นจุดเด่น โคมไฟแขวนเพดานทรงแหวนดีไซน์ทันสมัยสีทองเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ดึงดูดสายตาและตอกย้ำความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ เช่น โต๊ะกลางทรงกลม และโต๊ะข้างโลหะสีทองขัดเงา เน้นรูปทรงที่ปราณีตและเรียบง่าย องค์ประกอบเหล่านี้รวมกันสร้างบรรยากาศที่ประณีต สง่างาม และมีความหรูหราแบบโมเดิร์น
11. ห้องนั่งเล่นสไตล์อินดัสเทรียลมินิมัลลิสต์
ห้องนั่งเล่นสไตล์อินดัสเทรียลมินิมัลลิสต์ขนาดใหญ่ที่เน้นความโปร่งโล่ง ความเรียบง่าย และการใช้วัสดุดิบตามธรรมชาติ โดยใช้จานสีที่จำกัดและเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ได้แก่ สีเทาของคอนกรีต สีดำ สีขาว และสีน้ำตาลอ่อนของไม้ พื้นที่เปิดโล่งถูกแบ่งด้วยเสาปูนเปลือยขนาดใหญ่ที่เป็นจุดเด่นทางสถาปัตยกรรม ซึ่งตัดกับพื้นไม้สีอ่อนได้อย่างลงตัว เฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงที่เรียบง่ายและเป็นเส้นตรง เช่น โซฟาผ้าสีเทารูปตัว L และตู้บิลต์อินขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้สีอ่อน ระบบแสงสว่างถูกติดตั้งบนรางสีดำบนเพดาน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสไตล์อินดัสเทรียล ขณะที่บานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่มีมู่ลี่สีเข้มช่วยควบคุมแสง การนำต้นไม้มาจัดวางช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและความมีชีวิตชีวาให้กับความแข็งกระด้างของโครงสร้างปูนเปลือย ทำให้ห้องนี้ดูทันสมัย สะอาดตา และมีความดิบที่หรูหรา
12. ห้องนั่งเล่นสไตล์เมมฟิสหรือโพสต์โมเดิร์น
ห้องนั่งเล่นสไตล์เมมฟิสหรือโพสต์โมเดิร์นที่มีการใช้สีสันฉูดฉาดกับรูปทรงเรขาคณิตที่ดูขี้เล่น ให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยพลังงาน ผนังด้านหลักถูกทาด้วยสีส้มอมแดงที่ดึงดูดสายตาอย่างแรงกล้า ซึ่งตัดกับโซฟาผ้าสีเหลืองมัสตาร์ดรูปทรงโค้งมนที่ดูสบายตา เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นเป็นจุดเด่นในตัวเอง เช่น ตู้วางของสีฟ้าเทอร์คอยซ์ที่มีรูปทรงโค้งแบบประติมากรรม เก้าอี้เดี่ยวสีเขียวมะนาวที่มีรูปทรงคล้ายตัว C และโต๊ะกลางทรงรีที่มีฐานสีขาวและขอบสีแดง การใช้รูปทรงบล็อกสีที่โดดเด่น และการเลือกของตกแต่งที่มีรูปทรงแปลกตา เช่น แจกันและโคมไฟตั้งพื้นแบบอาร์ต แสดงให้เห็นถึงการหลีกหนีจากความเรียบง่ายและเป็นไปตามหลักการของสไตล์เมมฟิสที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่ที่สนุกสนาน มีเอกลักษณ์ และเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
13. ห้องนั่งเล่นสไตล์ Scandi-Boho
ห้องนั่งเล่นสไตล์ Scandi-Boho ผสมผสานระหว่างสไตล์โบโฮและสแกนดิเนเวียน เน้นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ การใช้โทนสีเอิร์ธโทนที่หลากหลายเป็นจุดเด่น เช่น ผนังสีเขียวมะกอกหรือสีเขียวอมเทาและการใช้ไม้สีอ่อนเป็นวัสดุหลัก โซฟาผ้าสองที่นั่งมีดีไซน์ที่เรียบง่ายขาไม้แบบสแกนดิเนเวียน แต่มีเบาะที่ให้สัมผัสแบบโบโฮ ผนังด้านข้างถูกตกแต่งด้วยแผงไม้ระแนงสีอ่อน พร้อมชั้นวางของแบบบิลต์อินที่มีแสงไฟวอร์มไลท์ส่องสว่าง ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นผิวและมิติให้กับห้อง องค์ประกอบสำคัญของสไตล์โบโฮคือการใช้วัสดุธรรมชาติและงานฝีมือ เช่น โคมไฟแขวนเพดานสานจากหวาย ตู้วางของที่มีรายละเอียดแบบวินเทจ พรมปูพื้นจากปอหรือใยธรรมชาติ และออตโตมันหนังกลับสีเขียวนุ่มนวล ทำให้ห้องนี้มีทั้งความสงบแบบสแกนดิเนเวียนและความอบอุ่นแบบธรรมชาติของโบโฮ
เป็นยังไงบ้าง ? ลองเลือกสไตล์ที่ตรงกับความชอบ แล้วปรับแต่งรายละเอียดให้เข้ากับพื้นที่ของตัวเองกันดูนะ เพียงเท่านี้ห้องนั่งเล่นก็จะกลายเป็นมุมโปรดที่ทั้งสวย สบาย และเต็มไปด้วยความสุขทุกวันแล้ว
