สคบ.สั่งคุมสัญญาธุรกิจสร้างบ้าน ด้าน สมาคมไทยรับสร้างบ้าน และ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน แจงสัญญามาตรฐานป้องหรือเอาเปรียบผู้บริโภค ก่อนยกร่างสัญญาว่าจ้างสร้างบ้านเป็นสัญญาควบคุม พร้อมเสนอใช้กฎหมายภาษีเล่นงานผู้รับจ้างที่มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษี
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยถึงการร่วมหารือระหว่างตัวแทนสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) และตัวแทนจากสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ในเรื่องของสัญญามาตรฐานของสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ตามที่สมาชิกทุกรายใช้ปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบันว่ามีที่มาและหลักเกณฑ์การกำหนดรายละเอียดในสัญญาอย่างไร นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นอื่น ๆ อีกหลายประเด็น อาทิ
1. หาก สคบ.จะกำหนดข้อความหรือบังคับเงื่อนไขบางกรณีไว้ในสัญญาฯ สมาชิกสมาคมจะสามารถนำไปปฏิบัติได้หรือไม่
โดยในกรณีนี้ ทางสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ชี้แจงว่า ในปัจจุบันทางสมาชิกก็ได้ระบุข้อความหรือข้อบังคับเงื่อนไขบางกรณีไว้ในสัญญาฯ อยู่แล้ว แต่หากทาง สคบ. จะออกกฎหรือข้อกำหนดเพื่อให้เกิดความชัดเจน จนกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปในทางเดียวกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี 2. กรณีผู้รับจ้างก่อสร้างล่าช้ากว่าสัญญา
สำหรับประเด็นนี้ ทางสมาคมไทยรับสร้างบ้านได้เสนอว่า ควรกำหนดค่าปรับให้เหมาะสมกับค่าเสียโอกาส และเพื่อความยุติธรรมต่อผู้บริโภค 3. เรื่องการรับประกันคุณภาพ
ปัจจุบันการรับประกันทั่วไปในสัญญารับจ้างสร้างบ้านของบริษัทรับสร้างบ้าน ส่วนใหญ่กำหนดไว้แค่ 1 ปีเท่านั้น แต่เหากดูจากความเป็นจริงจะพบว่า การสร้างบ้านหลังหนึ่งมีมูลค่าสูงนับล้านบาท ฉะนั้นการรับประกันคุณภาพ จึงควรมากกว่า 1 ปี เหมือนเช่นธุรกิจรถยนต์ที่ปัจจุบันรับประกันนานถึง 3 ปี ดังนั้น จึงขอเสนอว่า ควรเพิ่มระยะเวลารับประกันเป็น 2 ปี นอกจากนี้ นายสิทธิพร กล่าวเสริมว่า ตนเองยังได้เสนอข้อมูลและความเห็นให้ที่ประชุมฯ ทราบว่า จากการตรวจสอบเชิงลึกต่อกรณีข้อพิพาท ระหว่างบริษัทรับสร้างบ้านกับผู้บริโภคทุกรายนั้น พบว่า เมื่อผู้ว่าจ้างชำระเงินค่าก่อสร้างให้แก่ผู้รับจ้างหรือบริษัทรับสร้างบ้านแล้ว ปรากฏว่าไม่มีการออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีใด ๆ มีแต่เอกสารว่าได้รับเงินแล้วเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าผู้รับจ้างเจตนาหลบเลี่ยงภาษี เพื่อหวังทำกำไรเพิ่มด้วยการไม่นำส่งภาษีแก่รัฐ หรืออาจเป็นการสมยอมกันของทั้งสองฝ่าย เพื่อทำให้ราคารับจ้างสร้างบ้านต่ำลง
จึงอยากเสนอให้ทาง สคบ. เชิญตัวแทนจากกรมสรรพกรเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการยกร่างสัญญาฉบับนี้ด้วย เพื่อจะได้ช่วยวางกรอบสัญญาให้สามารถควบคุมเรื่องนี้ รวมถึงการใช้กฎหมายภาษีจัดการกับผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภค
อย่างไรก็ดี สัญญาควบคุมรับจ้างสร้างบ้าน ทางสคบ.เพิ่งจะเริ่มต้นการยกร่างเท่านั้น ซึ่งยังต้องผ่านกระบวนการพิจารณาและรับฟังความเห็นอีกหลายขั้นตอน ระหว่างนี้ผู้บริโภคที่จะเลือกสร้างบ้านกับผู้ประกอบการายใด จึงต้องมีความระมัดระวังและอย่าเลือกเพราะราคา โดยเฉพาะราคาที่ลดลงเพราะว่าข้อเสนอให้หลบเลี่ยงภาษี มิฉะนั้นอาจตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบเจ้าเล่ห์เหล่านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
