ต้นไม้เลื้อยต้นเล็ก ๆ มีอะไรบ้าง ? รวม 8 ไม้เลื้อยขนาดเล็ก ทนแดด ออกดอกสวย ๆ ให้ชมตลอดทั้งปี และปลูกในกระถางได้
![ไม้เลื้อยขนาดเล็ก]( "ไม้เลื้อยขนาดเล็ก")
![คอนสวรรค์]( "คอนสวรรค์")
![ชะลูดช้าง]( "ชะลูดช้าง")
![แดงทอดยอด]( "แดงทอดยอด")
![พวงชมพู]( "พวงชมพู")
![พวงแก้วแดง]( "พวงแก้วแดง")
![แพนโดเรีย]( "แพนโดเรีย")
![สายน้ำผึ้งจีน]( "สายน้ำผึ้งจีน")
![แส]( "แส")
ทุกวันนี้จะแต่งบ้านให้ดูดีอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องจัดสวนให้สวยงาม ชวนมอง และร่มรื่นด้วย ฉะนั้นถ้าหากใครยังสับสนหรือกำลังมองหาต้นไม้จัดสวนเอาไว้เป็นซุ้มบังแดดอยู่ละก็ วันนี้กระปุกดอทคอมมีไม้เลื้อยขนาดเล็กน่าปลูกที่บ้าน ทั้งทรงสวย ทนแดด ออกดอกตลอดปี บอกเลยแต่ละต้นสีสันสดใส ดูแลไม่ยาก แถมน่าปลูกแต่งสวนมาก ๆ
1. คอนสวรรค์
คอนสวรรค์ หรือ สนก้างปลา (Indian Pink.) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ipomoea quamoclit. Linn. เป็นไม้ล้มลุก อายุ 1 ปี ลำต้นเลื้อยค่อนข้างเล็กและเรียว ผิวเกลี้ยง ใบเป็นรูปไข่ ขอบใบแฉกลึกคล้ายขนนก ก้านใบสั้น ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายกลีบแยกออกเป็น 5 แฉก สีแดงสด ออกดอกตลอดทั้งปี แต่ลำต้นจะค่อย ๆ แห้งตายหลังจากออกดอกเสร็จ
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ไม่ค่อยมีโรคหรือศัตรูรบกวน แต่ต้องมีหลักหรือซุ้มให้เลื้อยเกาะ โตได้ในดินทั่วไป แต่ชอบดินร่วนมากเป็นพิเศษ ชอบบริเวณที่โล่งแจ้งและแสงแดดจัดพอสมควร ต้องการน้ำปานกลาง ประมาณ 2 ครั้ง/วัน พร้อมทั้งระวังอย่าให้น้ำแฉะเกินไปด้วย
2. ชะลูดช้าง
ชะลูดช้าง (Creeping Tuberose, Madagascar Jasmine หรือ Wax Flower.) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Stephanotis floribunda jasmine. เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ลำต้นกลมมียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ โคนใบมนเว้าเล็กน้อย ปลายใบเรียว ขอบใบเรียบยกขึ้นเป็นราง แผ่นใบหนาเป็นมัน ส่วนดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ รูปหลอด ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก กลีบดอกค่อนข้างหนา สีขาวสะอาดและกลิ่นหอมมาก ออกดอกตลอดทั้งปี แต่จะเยอะมากช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและเพาะเมล็ด ชอบดินที่อุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี และมีใบไม้ผุเป็นส่วนผสม ต้องการแสงสว่างมาก แต่ไม่ต้องการแสงแดดจัดหรือแรงเกินไป ต้องการน้ำสม่ำเสมอ ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน แต่ควรเด็ดใบทิ้งบ้างในช่วงหน้าหนาว
3. แดงทอดยอด
แดงทอดยอด (Morning Glory หรือ Princess Vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ipomoea horsfalliae Hook. เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก อายุยืนหลายปี ลำต้นมีสีเขียว ใบเป็นใบเดี่ยว รูปนิ้วมือ โคนใบเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก แผ่นใบหนา ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง รูปกรวย โคนดอกเชื่อมติดกัน ปลายดอกแยกกว้าง 5 แฉก สีแดงสวย ออกดอกช่วงฤดูร้อน ผลเป็นรูปไข่ สีน้ำตาล มีเมล็ดสีดำข้างใน
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อและปักชำ เจริญเติบโตได้ในดินทั่วไป ชอบแสงแดดจัด และชอบน้ำเยอะ
4. พวงชมพู
พวงชมพู (Coral Vine หรือ Chain of Love) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Antigonon leptopus Hook. & Arn. ต้นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก เป็นไม้เลื้อยเถาอ่อนแต่โคนแข็งแรง อายุยืนหลายปี ลำต้นมีสีเขียวอ่อน ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ โคนใบหยัก ปลายใบเรียว ขอบใบเรียบ แผ่นใบบางจนเห็นเส้นใบสีแดงอ่อนชัดเจน มีขนปกคลุม และค่อนข้างดกหนา ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง รูปหัวใจเล็ก ๆ มีสีขาวหรือสีชมพู ปลายช่อดอกยืดตัวและม้วนเป็นมือเกาะ เพื่อช่วยพยุงตัวและทำให้เลื้อยได้ไกล ออกดอกตลอดทั้งปี ผลเป็นทรงกลม สีน้ำตาล ขนาดเล็ก
นิยมขยายพันธุ์ด้วยเพาะเมล็ด ปลูกในกระถางได้ดีแต่ต้องมีหลักยึดเกาะ หรือจะปลูกเป็นไม้แขวนให้ต้นเลื้อยห้อยลงก็ได้ เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำดี ชอบพื้นที่ชื้นมากกว่าแห้งแล้ง ชอบน้ำปานกลาง และชอบที่โล่งแจ้งและแสงแดดจัด แต่ก็สามารถปลูกในร่มได้
5. พวงแก้วแดง
พวงแก้วแดง หรือ พวงนาก (Red Bleeding heart, Flaming bower หรือ Java Glory Vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clerodendrum splendens x C. Thomsoniae ต้นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกาตะวันตก ลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ทรงพุ่ม เลื้อยได้ไกลประมาณ 4 เมตร อายุยืนหลายปี ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ โคนใบมน เว้าเล็กน้อย ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่งโคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายกลีบแยกเป็นแฉก มีสีแดงอมชมพู ออกดอกตลอดทั้งปี
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ชอบแสงแดดจัดเต็มวัน และต้องการน้ำปานกลาง
6. แพนโดเรีย
แพนโดเรีย หรือ จัสมินใบด่าง (Bower vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pandorea jasmimoides (Lindl.) K. Schum. ลักษณะเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดเล็ก ทรงพุ่ม เลื้อยได้ไกลประมาณ 2-5 เมตร สูงประมาณ 1-3 เมตร กิ่งก้านเยอะ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก รูปไข่ โคนใบมน ปลายใบแหลมเป็นติ่ง ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบสีเขียวเป็นมันและมีด่างสีขาวนวลบริเวณขอบหรือปลายใบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง รูปกรวย โคนติดกัน ปลายแยก 5 แฉก มีสีขาวปนชมพู มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี แต่จะเยอะมากช่วงหน้าหนาว ผลเป็นฝักแบน แตกตอนแก่ มีเมล็ดข้างในจำนวนมาก
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี ชอบแสงแดดรำไรถึงปานกลาง ชอบอากาศค่อนข้างเย็น และต้องการน้ำปานกลาง
7. สายน้ำผึ้งจีน
สายน้ำผึ้งจีน หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ สายน้ำผึ้งแดงหรือสายน้ำผึ้งชมพู (Chinese Honeysuckle) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lonicera japonica Thunb. var. chinensis เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกลตั้งแต่ 2-5 เมตร กิ่งก้านเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอก สีเขียวสด มีขนปกคลุม ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง มีดอกย่อยประมาณ 10-20 ดอก ปลายกลีบแยกเป็น 5 แฉก ด้านนอกมีสีชมพูหรือแดง ด้านในมีสีขาวเหลือง ส่งกลิ่นหอมแรงตอนกลางคืน ออกดอกตลอดทั้งปี แต่จะเยอะมากช่วงเดือนมีนาคม ผลเป็นทรงกลม มีเมล็ดข้างใน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง
8. แส
แส แสเถา หรือพวงแส (Jacquemontia หรือ little blue hat) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jacquemontia pentantha (Jacq.) G. Don เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง ขนาดเล็ก อายุยืนหลายปี ลำต้นเป็นสีน้ำตาลคล้ำ มียางสีขาวข้างใน ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ มีสีเขียวแต่ไม่เข้ม ดอกออกเป็นช่อตามข้อและซอกใบ รูปกรวย มี 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายกลีบบานกว้าง มีสีฟ้าอมม่วงหรือสีน้ำเงิน ออกดอกตลอดทั้งปี นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง โตง่าย โตเร็ว โตได้ในดินทั่วไป ชอบแสงแดดจัด และชอบความชื้นปานกลาง
นอกจากไม้เลื้อยต้นเดิม ๆ ที่เราเคยรู้จักกันดี เช่น การเวก กระดังงา เล็บมือนาง บานบุรี อัญชัน ถั่วฝักยาว และม่านบาหลีแล้ว อย่าลืมเก็บไม้เลื้อยต้นเล็ก ๆ เหล่านี้ไว้ในลิสต์ด้วยนะคะ รับรองช่วยตกแต่งสวนให้สวยงาม เก๋ไก๋ ร่มรื่น และสดใสได้ไม่แพ้ต้นอื่น ๆ แน่นอน !
