8 วิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำเองง่าย ๆ ไม่ต้องเรียกช่าง

          วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเองง่าย ๆ ให้เริ่มต้นที่ตัดเบรกเกอร์ก่อน จากนั้นก็ยกฝาครอบและถอดฟิลเตอร์ออก เพื่อนำไปทำความสะอาดด้วยการเปิดน้ำให้ไหลผ่าน และใช้แปรงสีฟันถูอย่างเบามือ เสร็จแล้วผึ่งไว้จนแห้ง โดยในระหว่างรอให้กลับมาดูดฝุ่นและฉีดสเปรย์โฟมล้างแอร์ให้ทั่วคอยล์เย็น ปล่อยทิ้งไว้สัก 20-30 นาที หลังจากนั้นก็ประกอบชิ้นส่วนเข้าที่เดิม พร้อมเปิดแอร์โหมดพัดลม อุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 45-60 นาที เท่านี้ก็แอร์ก็กลับมาสะอาด เย็นฉ่ำ เปิดเมื่อไรก็ชื่นใจแล้ว
 

          นอกจากจะใช้ทำความสะอาดฟันแล้ว ของใช้ใกล้ตัวอย่างยาสีฟันยังนำมาทำความสะอาดคราบไหม้บนเตารีดได้ด้วย ซึ่งวิธีก็ง่าย ๆ แค่บีบเนื้อยาสีฟันลงบนผ้าหนา ๆ แล้วนำไปถูวนเบา ๆ บนรอยไหม้หน้าเตารีด ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะหลุดออกหมด จากนั้นก็นำผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ด พร้อมนำคอตตอนบัดมาปัดคราบออกจากรูระบายน้ำอีกที ก็จะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมใช้งานได้อย่างสบายใจ อ้อ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เกลือ เทียนไข น้ำส้มสายชู หนังสือพิมพ์ เบกกิ้งโซดา น้ำยาล้างเล็บ และใบตอง มากำจัดคราบไหม้บนเตารีดได้เหมือนกันนะ ใครอยากรู้ว่าทำอย่างไร คลิกลิงก์ข้างล่างได้เลย
 

          เพียงแค่มีแปรงสีฟันกับผ้าสะอาด ก็ทำความสะอาดพัดลมได้แล้ว ขั้นตอนคือ แกะตัวล็อกแล้วถอดตะแกรงด้านหน้าออก จากนั้นก็หมุนตัวล็อกกลางใบพัดตามทิศทางที่กำหนด แล้วถอดทั้งตัวล็อกและใบพัดออกมาอีกที เสร็จแล้วให้หมุนตัวล็อกสุดท้าย แล้วถอดตะแกรงด้านหลังออกมาอีกขั้น นำทั้งหมดไปล้างให้สะอาดพร้อมกัน จะฉีดน้ำหรือใช้แปรงสีฟันขัดก็ได้ จากนั้นก็เช็ดให้แห้งสนิท แล้วประกอบเข้าเหมือนเดิม ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องล็อกทุกอย่างให้แน่น และกดตัวล็อกให้ครบ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ใบพัดส่าย จนต้องแกะมาประกอบใหม่ได้
 

          การทำความสะอาดพัดลมดูดอากาศนั้น คล้ายกันกับการทำความสะอาดพัดลมทั่วไปเลย ถ้าหากเป็นพัดลมดูดอากาศแบบติดผนัง ให้ถอดปลั๊กแล้วแกะใบพัดออกจากฐาน นำผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกจากใบพัด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำยาล้างจานอีกครั้ง เช็ดแบบนี้กับฐานพัดลมด้วย จากนั้นก็รอจนแห้งสนิท แล้วหมุนใบพัดใส่เข้าไปเหมือนเดิมได้เลย

          ส่วนพัดลมดูดอากาศแบบติดเพดาน ให้ใช้นิ้วสอดเข้าไปด้านข้างเพื่อแกะฝาครอบออกมา อย่าลืมดึงลวดยึดด้านข้างออกด้วย จากนั้นก็นำฝาครอบมาดูดฝุ่นและล้างทำความสะอาด ผึ่งไว้ให้แห้ง ระหว่างรอให้เปลี่ยนไปดูดฝุ่นที่มอเตอร์บนเพดาน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วก็ประกอบใส่เข้าไปดังเดิม กดลวดยึดด้านข้างไว้เหมือนตอนแรก ดันฝาครอบให้ปิดแน่นสนิท ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ
 

          เครื่องซักผ้าสามารถทำความสะอาดได้หลายวิธี แต่ถ้าหากใครอยากให้เอี่ยมอ่องทันใจ และป้องกันกลิ่นอับได้อยู่หมัดละก็ ขอแนะนำให้ใช้คู่หูทำความสะอาดอย่างเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูจะดีที่สุด โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ คือ ผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่า 1-2 ช้อนชา เข้าด้วยกัน คนจนเป็นสารละลายเหนียว ๆ แล้วใส่ลงไปในช่องผงซักฟอก จากนั้นเทน้ำส้มสายชู 250 มิลลิลิตร ตามลงไป ตั้งค่าเป็นซักด้วยน้ำร้อน แล้วปล่อยให้ทำงานปกติ แค่นี้ก็ช่วยให้เครื่องซักผ้าสะอาดเหมือนใหม่แล้ว อ๊ะ ๆ ๆ ทว่าวิธีอื่น ๆ เช่น ผงซักฟอก สารฟอกขาว ดีเกลือฝรั่ง หรือผงวิตามินซีและกรดมะนาว ก็ล้างเครื่องซักผ้าได้ดีไม่แพ้กัน ถ้าหากใครอยากลองดู ก็ตามไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เลย
 

           แน่นอนว่าเราสามารถทำความสะอาดไมโครเวฟได้หลายวิธี แต่ที่ง่าย เร็ว และดีสุด ๆ คือ นำทิชชูเปียกใส่เข้าไปในไมโครเวฟ เพื่อให้ไอน้ำทำให้คราบสกปรกอ่อนตัวลง ส่งผลให้นำผ้าแห้งหรือทิชชูเปียกไปเช็ดคราบฝังแน่นออกอีกครั้งได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง อ้อ แล้วนอกเหนือจากทิชชูเปียกแล้ว เรายังสามารถใช้เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู มะนาว น้ำยาล้างจาน และน้ำยาเช็ดกระจก ทำความสะอาดไมโครเวฟได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งจะทำอย่างไรนั้น ตามไปดูได้ที่นี่เลย
 

          ก่อนทำความสะอาดหม้อหุงข้าวทุกครั้ง ให้ถอดปลั๊กออกและรอจนกระทั่งหม้อเย็น จากนั้นค่อยแกะเอาหม้อในและฝาหม้อออกไปแช่น้ำที่ผสมน้ำยาล้างจานไว้ ระหว่างแช่ให้หันมาล้างอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วค่อยกลับไปกำจัดคราบข้าวแข็ง ๆ ที่ติดอยู่ก้นหม้อออกด้วยการนำช้อนมาขูดเบา ๆ หลังจากนั้นก็นำฟองน้ำนุ่ม ๆ ไปเช็ดให้ทั่ว ตามด้วยล้างน้ำเปล่าเพื่อทำความสะอาด พร้อมทั้งเช็ดให้แห้งสนิท สุดท้ายนำผ้าเปียกหมาดและผ้าแห้งไปเช็ดทั้งด้านในและด้านนอกของตัวหม้อหุงข้าวจนเกลี้ยง เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมหุงข้าวครั้งต่อไปแล้ว
 

          หน้าจอโทรทัศน์และหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ต้องคอยทำความสะอาดด้วยเหมือนกัน เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ฝุ่นเกาะบ่อยและเป็นคราบได้ง่าย โดยถ้าหากเป็นจอแอลซีดีให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด ถ้าหากเป็นจอพลาสมาให้ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดเบา ๆ และถ้าหากบริเวณไหนเข้าไม่ถึง ให้ใช้สำลีพันก้านเช็ดออกแทน สำหรับตัวปลั๊กให้ใช้ผ้าแห้งสนิทเช็ดเท่านั้น ส่วนสายไฟหลังตู้ให้ใช้ไม้ปัดฝุ่นปัดออก ก่อนเช็ดด้วยผ้าชุบสารชะล้างผสมน้ำเจือจาง แล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง ทั้งนี้อย่าลืมหมั่นปัดฝุ่นและดูแลบริเวณโต๊ะและรอบข้างอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ