ดอกไม้เล็ก ๆ หลายสายพันธุ์ เติมสีสันให้สวนสดชื่น เหมือนมีทุ่งดอกไม้ส่วนตัว จะถ่ายรูปเช็กอินก็เหมาะ หรือปิกนิกรับวันหยุดก็ได้ มีชนิดไหนบ้างที่น่าสนใจมาดูกัน
ใครอยากจัดสวนด้วยดอกไม้ ขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นสวนหน้าบ้าน ข้างบ้าน หรือหลังบ้าน เพื่อเพิ่มชีวิตชีวา และทำให้เราได้มุมจิบกาแฟหรือมุมพักผ่อนเพิ่ม แถมวันหยุดไม่ต้องเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อชมทุ่งดอกไม้ด้วย ว่าแต่จะมีดอกไม้เล็ก ๆ สายพันธุ์ไหนที่น่าสนใจบ้างตามมาชมกันเลย
1. ดอกเดซี่
ลักษณะ : เดซี่ (Daisy) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Thymophylia Tenuiloba (DC.) Small มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก รวมถึงบริเวณรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เป็นไม้ดอกอายุสั้น ต้นเป็นพุ่มสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ใบเดี่ยวออกตรงข้าม แผ่นใบหนักลึกตามแนวเส้น ใบคล้ายผักชีสีเขียวอ่อนมีกลิ่นฉุน ออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่นที่ปลายยอด โดยแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะดอกและสีที่แตกต่างกัน เช่น สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีส้ม เป็นต้น
วิธีปลูก : ส่วนใหญ่จะใช้การเพาะเมล็ด เพราะจะทำให้ต้นแข็งแรงและทนร้อนได้ดีกว่า สามารถปลูกได้ทั้งในกระถาง ลงแปลง และปลูกลงดิน ชอบดินร่วนปนทราย ไม่ต้องการความชื้นมาก ดังนั้นรดน้ำเพียงวันละครั้งเฉพาะตอนเช้าก็เพียงพอ ยกเว้นในช่วงหน้าร้อนควรรดวันละ 2 ครั้ง แต่ไม่ควรรดให้โดนดอก
2. ดอกคัตเตอร์
ลักษณะ : ดอกคัตเตอร์ (Cutter Flower) หรือพีค็อก (Aster Peacock) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Symphyotrichum ericoides (Aster ericoides) มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาเหนือ ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงได้ถึง 1 เมตร ใบรูปหอก ก้านสั้น ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด มีกลีบเป็นแฉกแหลมกระจายเป็นวงกลม มีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น ขาว น้ำเงิน เหลือง ชมพู เป็นต้น
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ 3 วิธีคือ หน่อ ต้นกล้า หรือเมล็ด ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดรำไร ชอบความชุ่มชื้นแต่ไม่ชอบน้ำขัง ควรให้ปุ๋ยคอกหรือชีวภาพ 1-2 ครั้งต่อเดือน ปลูกได้ทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะฤดูหนาวดอกจะใหญ่เป็นพิเศษ
3. ดอกยิบโซ
ลักษณะ : ดอกยิปโซ (Gypso) หรือยิปโซฟิลล่า (Gypsophila) หรือเรียกว่า Baby's Breath มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gypsophila paniculata L. ดอกไม้เล็ก ๆ สีขาวที่มีถิ่นกำเนิดในยุโรป ลักษณะเป็นพุ่มสูงได้ถึง 90 เซนติเมตร ลำต้นมีขนเล็กน้อย กิ่งก้านเล็ก ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอกขนาดเล็ก ปลายแหลมโคนมน แผ่นใบสีเขียว ดอกมีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น สีขาว สีชมพู สีม่วง เป็นต้น ทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ 2 วิธีคือ เมล็ดและปักชำ ปลูกในดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดเต็มวัน รดน้ำวันละครั้งช่วงเช้า นอกจากปลูกประดับบ้านแล้วยังนำมาจัดเป็นช่อดอกไม้สำหรับงานแต่งงานหรืองานรับปริญญาได้ด้วย
4. ดอกแคสเปีย
ลักษณะ : ดอกแคสเปีย (Caspia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Limonium caspium มีถิ่นกำเนิดจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ขอบใบหยักมน หรือหยักเว้า ดอกออกเป็นช่อพุ่มมีขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น สีขาว สีม่วง สีชมพู เป็นต้น สามารถนำมาจัดกระเช้าดอกไม้ ทำเป็นแจกันดอกไม้แห้งและทำเป็นดอกไม้แห้งก็ได้
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ 4 วิธีคือ เพาะเมล็ด แยกกอ ปักชำ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ชอบแสงแดดเต็มวัน อากาศเย็น ดินร่วนปนทราย น้ำและความชื้นปานกลาง
5. ไลแลค
ลักษณะ : ไลแลค (Lilac) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Syringa vulgaris มีถิ่นกำเนิดในยุโรป เป็นไม้พุ่ม มีความสูงได้ถึง 10 เมตร ใบสีเขียวรูปหัวใจ ออกดอกเป็นช่อ แต่ละช่อมีดอกแน่นมาก ดอกมีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น สีม่วง สีขาว เป็นต้น ดอกมีกลิ่นหอมมากโดยเฉพาะตอนกลางคืน
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบแสงแดดทั้งวัน ดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบอากาศเย็น รดน้ำเพียงวันละครั้ง แต่หน้าร้อนควรรดน้ำเพิ่มเมื่อดินแห้ง
6. ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์
ลักษณะ : ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ (Lily of the Valley) หรือดอกมูเกร์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Convallaria majalis มีถิ่นกำเนิดในยุโรป ลำต้นคล้ายต้นหญ้า ความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร มีใบสีเขียวเรียวยาว ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม ดอกเป็นรูประฆังคว่ำห้อยไปตามแนวก้านดอก
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ชอบแสงแดดรำไร ดินร่วนระบายน้ำดี รดน้ำได้ทุกวัน แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง
7. แพงพวยแคระ
ลักษณะ : แพงพวยแคระ (Vinca, Old maid, Madagasgar periwinkle) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Catharanthus roseus (L.) G.Don เป็นไม้ล้มลุกสูงได้ถึง 80 เซนติเมตร ใบสีเขียวเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรีปลายติ่งแหลม เส้นกลางใบสีขาว ดอกสีม่วงอ่อนเป็นดอกเดี่ยวออกตามปลายกิ่ง
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ได้ 2 วิธีคือ ปักชำและเพาะเมล็ด ชอบแสงแดดจัด ควรปลูกในดินร่วนปนทราย ต้องการน้ำปานกลาง
8. หลิวไทเปหรือหลิวไต้หวัน
ลักษณะ : หลิวไทเปหรือหลิวไต้หวัน (Elfin Herb) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cuphea hyssopifolia Kunth มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกและกัวเตมาลา เป็นไม้พุ่มสูงได้ถึง 50 เซนติเมตร มีขนตามกิ่ง ใบประกอบแบบขนนก ผิวใบสีเขียวเป็นมัน รูปรีปลายแหลม ดอกรูปกรวยออกดอกเดี่ยวที่ปลายกิ่ง ดอกมีสีม่วงหรือสีขาว
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบแสงแดดเต็มวัน ควรปลูกในดินร่วนปนทราย ชอบความชื้นแต่ไม่แฉะ น้ำไม่ขัง ต้องการน้ำปานกลาง
9. ดอกเมียววดี
ลักษณะ : ดอกเมียววดี หรือดอกเมย์เมียว (Vaccaria Pyramidata) สกุล Caryophyllaceous มีถิ่นกำเนิดอยู่ในยุโรป ใบเป็นใบเดี่ยว ปลายใบแหลม ก้านยาว กลีบดอก 5 กลีบ มีทั้งสีขาวและชมพู โดยดอกจะผลิบานในช่วงฤดูหนาว
วิธีปลูก : ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด ชอบแสงแดดทั้งวัน ควรปลูกในดินระบายน้ำดี รดน้ำวันละครั้ง ไม่ชอบดินแฉะ
ถ้าอยากให้สวนมีสีสันลองปลูกดอกไม้เล็ก ๆ แซมเพิ่มเติมกันได้เลย ชอบดอกไม้สีไหนลองไปช้อปปิ้งซื้อวันหยุดนี้กันเลยจ้า
