ต้นไม้ดอกหอมตอนกลางคืนมีอะไรบ้าง ? รวมลิสต์ดอกไม้ไทยน่าปลูกจัดสวน ส่งกลิ่นหอมฟุ้งตลอดทั้งคืน แถมดอกสวย สีสด ปลูกง่าย และดูแลไม่ยากด้วย
เชื่อว่าหลายคนรู้จักดอกไม้กลิ่นหอมตอนกลางวัน เช่น ปีบ จำปี มะลิ บุหงา สายหยุด กรรณิการ์ และพุดน้ำบุศย์กันเป็นอย่างดี แต่รู้ไหมคะว่านอกเหนือจากนี้ยังมีดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมตอนกลางคืนอยู่อีกเพียบ แถมแต่ละต้นก็ดีงาม น่าสนใจไม่แพ้กันเลยด้วย เพราะนอกจากจะเป็นไม้ดอกที่ส่งกลิ่นหอมช่วงค่ำถึงช่วงสายแล้ว ตอนกลางวันยังให้ความสวยงาม ร่มรื่น และสดชื่นอีกต่างหาก ฮั่นแน่ ชักเริ่มอยากรู้กันแล้วล่ะสิว่าจะมีดอกไม้ไทยชนิดไหนที่มีกลิ่นหอมตอนกลางคืนบ้าง ถ้างั้นอย่ามัวรอช้า ตามมาชมและเลือกปลูกที่บ้านกันตามใจชอบได้เลยค่ะ
1. แก้ว
แก้ว (Orang Jessamine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Murraya paniculata. พบบ่อยตามป่าดิบแล้ง มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่ม สูงประมาณ 5-10 เมตร ใบเป็นช่อเรียงสลับ ขอบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนดอกมีขนาดเล็ก ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ส่งกลิ่นหอมตอนกลางคืน ผลเป็นทรงไข่ สีส้ม โคนรี ปลายทู่ มีเมล็ดข้างใน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง แข็งแรง ทนแล้งดี ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนปนทรายที่ร่วนซุย ชอบแสงแดดจัดเต็มวัน ชอบน้ำปานกลาง และหมั่นคอยตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เสมอ
2. โมก
2. โมก
โมก (Moke) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wrightia religiosa Benth. เป็นต้นไม้มงคลที่เชื่อว่าปลูกแล้วจะช่วยให้เกิดความสุข ความบริสุทธิ์ และป้องกันภัยอันตราย มีสรรพคุณทางยาทุกส่วนของลำต้น ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 5-12 เมตร กิ่งก้านแตกออกรอบตัว ใบเป็นใบเดี่ยว ทรงไข่ ปลายมน โคนแหลม ขอบเรียบ เนื้อบาง สีเขียวสวย ส่วนดอกเป็นช่อสั้น สีขาว ขนาดเล็ก กลิ่นหอม ออกตามปลายกิ่งตลอดทั้งปี ผลเป็นทรงกระบอก มีเมล็ดข้างในจำนวนมาก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ แต่สามารถตอนกิ่งหรือเพาะเมล็ดได้เหมือนกัน ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน ชอบดินร่วนซุย ชอบความชื้นปานกลาง ต้องการแสงแดดจัดกลางแจ้ง และต้องการน้ำประมาณ 5-7 วัน/ครั้ง
3. ลำดวน
3. ลำดวน
ลำดวน หรือที่ชาวเหนือรู้จักในชื่อ หอมนวล (Lamdman หรือ White Cheesewood) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melodorum fruticosum Lour. เป็นต้นไม้มงคล สีนวลสว่าง สื่อถึงความสดชื่นและกลมกลืน มักพบแถวป่าดิบแล้งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคและบำรุงร่างกาย แต่คนส่วนใหญ่นิยมปลูกจัดสวน ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลเทา ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ทรงรียาว โคนใบแหลม ปลายใบเรียว ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเป็นมัน ยอดและใบอ่อนสีแดง ส่วนดอกเป็นทรงสามเหลี่ยมขนาดเล็ก สีเหลือง ออกตามซอกใบและปลายยอดช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ กลีบหนาและแข็ง มีกลิ่นหอมเย็น ผลเป็นทรงกลมรี มีเมล็ดข้างใน ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและเพาะเมล็ด แข็งแรง ไม่ค่อยมีโรคและศัตรูพืชรบกวน ชอบดินร่วนผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ต้องการแสงแดดปานกลาง ต้องการน้ำปานกลาง ต้องการปุ๋ยปีละ 3-5 ครั้ง และควรปลูกให้มีระยะห่างที่เหมาะสม
4. คัดเค้า
4. คัดเค้า
คัดเค้าหรือหนามเล็บแมว (Siamese Randia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oxyceros horridus Lour. เป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย นิยมปลูกตามแนวรั้ว เพราะเป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ลำต้นเป็นเถาแข็งพาดตามรั้วหลักหรือพรรณไม้อื่น มีหนามแหลมตามกิ่งก้าน ใบมีลักษณะคล้ายใบมะม่วง ยาว แข็ง หนา สีเขียวสดเป็นมัน และมีแกนกลางใบชัดเจน ส่วนดอกมีขนาดเล็ก สีขาว คล้ายดอกมะนาว หอมมากช่วงค่ำหรือช่วงอุณหภูมิต่ำ ออกตลอดทั้งปี แต่จะดกสวยงามพร้อมกันทั้งต้นในช่วงปลายฝนถึงกลางฤดูหนาว ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและย้ายกล้าปลูกลงดิน ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน ชอบดินที่ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ต้องการแสงแดดสาดส่องทั่วถึง จะครึ่งวันหรือเต็มวันก็ได้ ต้องการน้ำประมาณ 2 ครั้ง/วัน ระวังอย่าให้น้ำแฉะ และหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มอย่างสม่ำเสมอ
5. นมแมว
นมแมว (Nom-Maew) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rauwenhoffia siamensis. เป็นต้นไม้ไทยโบราณ พบบ่อยตามป่าชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าละเมาะแถวภาคใต้และภาคกลาง มีลักษณะเป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อยขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร เลื้อยได้ไกล 2-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ทรงหอก โคนใบมน ปลายใบแหลม ส่วนดอกมีขนาดเล็ก สีเหลือง กลีบแข็งและสั้น กลิ่นหอมแรงช่วงเย็นถึงค่ำ ออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด จะดกสวยงามในช่วงหน้าฝน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง โตได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการแสงแดดจัด และต้องการความชื้นสูง
6. ชมนาด
6. ชมนาด
ชมนาด หรือ ชำมะนาด (Bread Flower) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vallaris glabra (L.) Kuntze. เป็นต้นไม้ให้ความสวยงามและร่มรื่น นิยมปลูกประดับบ้านและประดับซุ้มประตู ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นเถาเลื้อย เลื้อยได้ไกลกว่า 8 เมตร เนื้อไม้แข็ง มียางสีขาวทั่วลำต้น ตัวยางเป็นยาสมุนไพร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้าม ทรงไข่ สีเขียวสด ผิวเรียบเป็นมัน ส่วนดอกเป็นสีขาว ออกตามซอกใบหรือปลายยอดในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม มีกลิ่นหอมคล้ายข้าวสุกหรือใบเตยหอมตลอดทั้งวัน แต่จะหอมมากเป็นพิเศษในช่วงกลางคืน ผลเป็นเนื้อนิ่ม ๆ และมีเมล็ดเล็ก ๆ ข้างใน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ตอนกิ่ง และโน้มกิ่ง โตได้ดีในดินแทบทุกชนิด แต่ชอบดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์และระบายน้ำดีเป็นพิเศษ ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ชอบแสงแดดจัดเต็มวัน แข็งแรง ทนทาน ดูแลง่าย เพียงแค่ทำซุ้มให้เลื้อย รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และตัดแต่งทรงให้สวยงาม
7. พลับพลึง
7. พลับพลึง
พลับพลึง (Crinum lily หรือ Spider lily) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crinum asiaticum L. เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชียเขตร้อน ผู้คนนิยมปลูกประดับสวน เพราะทรงดอกสวยงามและมีกลิ่นหอมสดชื่น ลักษณะเป็นต้นไม้ที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีกาบใบห่อเป็นชั้นคล้ายลำต้น ใบเป็นสีเขียว ทรงแคบ โคนเรียว ปลายแหลม ขอบหยัก ยาว หนา และอวบน้ำ ส่วนดอกเป็นสีขาว กลีบเรียวยาว และก้านชูยาวออกจากลำต้น ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง มีเกสรเพศเมียตรงกลางดอก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนปนทราย ชอบน้ำปานกลาง และชอบแสงแดดปานกลางถึงเต็มวัน
8. เล็บมือนาง
เล็บมือนาง (Rangoon Creeper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Quisqualis indica Linn. เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกริมรั้วหรือปลูกทำซุ้มประตู ลักษณะเป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดกลาง สูงประมาณ 5 เมตร กิ่งก้านหนาทึบ มีขนอ่อนหรือหนามปกคลุมทั่วลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้าม ทรงมน เนื้อบาง โคนเว้า ปลายแหลม ขอบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ส่วนดอกเป็นหลอดยาว ขอบโค้งเล็กน้อย สีชมพูหรือสีแดงอมขาว ออกเป็นช่อกลางยอดตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โตง่าย ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี ต้องการแสงแดดจัดเต็มวัน ต้องการน้ำปานกลาง (ระยะแรกควรรดทุกวัน วันละ 2 ครั้ง) และต้องการหลักยึดเกาะ สามารถบำรุงดอกด้วยการใส่ปุ๋ยได้ ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน แต่ต้องหมั่นกำจัดใบที่ร่วงลงมาด้วยการขุดหลุมฝังหรือเผาไฟ
9. จันทน์กะพ้อ
9. จันทน์กะพ้อ
จันทน์กะพ้อ (Resak หรือ Broken Heart Flower) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vatica diospyroides Symington. พบมากทางภาคใต้ ลักษณะเป็นต้นไม้ใหญ่ สูงประมาณ 6-15 เมตร ทรงพุ่มโปร่ง ใบน้อย ไม่ผลัดใบ มียางในลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ทรงรี โคนเบี้ยว ขอบขนาน เมื่ออ่อนเป็นสีน้ำตาลแดง เมื่อแก่เป็นสีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนดอกมีขนาดเล็ก สีขาวหรือเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อสั้นตามซอกใบและปลายกิ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ส่งกลิ่นหอมคล้ายน้ำมันจันทน์ และจะส่งกลิ่นแรงขึ้นในตอนกลางคืน สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการตอนกิ่งและปักชำ แต่จะนิยมเพาะเมล็ดมากที่สุด โตค่อนข้างช้า ต้องการความชื้นสูง ชอบลมไม่แรง แสงแดดไม่จัด เลี่ยงปลูกใกล้แหล่งน้ำ
10. ปาหนันช้าง
10. ปาหนันช้าง
ปาหนันช้าง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Goniothalamus giganteus Hook.f. & Thomson. พบบ่อยตามป่าพรุและป่าดิบชื้นทางภาคใต้ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและปลูกเอาสรรพคุณทางยา ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ทรงพุ่มกลม สูงประมาณ 5-15 เมตร เปลือกสีเทาเข้ม หนา ฉ่ำน้ำ คล้ายกับต้นกระดังงา ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ทรงรียาว โคนมน ปลายแหลม ขอบเรียบ มีสีเขียวเป็นมันและกรอบ ส่วนดอกมีขนาดใหญ่ สวยงาม กลีบเป็นทรงไข่ สีสันหลากหลาย ทั้งเขียว เหลือง ครีม ชมพู และส้ม ออกตามกิ่งก้านในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม มีกลิ่นหอมเย็นทั้งช่วงเช้าและค่ำ ผลออกสีเหลืองอมเขียว เปลือกขรุขระ และมีเมล็ดอยู่ข้างใน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำ ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์และระบายน้ำดี ต้องการน้ำและความชื้นสูง ต้องการแสงแดดจัดเต็มวัน ควรเว้นระยะห่างจากต้นอื่นอย่างน้อย 3 เมตร และตัดแต่งทรงให้สวยงามอยู่เสมอด้วย
เป็นอย่างไรบ้างคะ แต่ละต้นสวยงาม น่าปลูก ถูกใจทุกคนเลยใช่ไหม ฉะนั้นถ้าหากใครอยากให้บ้านหอมกรุ่น อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้นานาชนิดละก็ นอกจากจะปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมตอนกลางวันแล้ว อย่าลืมปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมตอนกลางคืนเหล่านี้ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 108 พรรณไม้ไทย/แก้ว, ไม้ประดับออนไลน์/ลำดวน, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง/คัดเค้า, ไม้ประดับออนไลน์/คัดเค้า, 108 พรรณไม้ไทย/นมแมว, วิชาเกษตร/ชมนาด, เกษตรดิจิทัล, ไม้ประดับออนไลน์/เล็บมือนาง, ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง/จันทน์กะพ้อ และวิชาเกษตร/ปาหนันช้าง
เป็นอย่างไรบ้างคะ แต่ละต้นสวยงาม น่าปลูก ถูกใจทุกคนเลยใช่ไหม ฉะนั้นถ้าหากใครอยากให้บ้านหอมกรุ่น อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้นานาชนิดละก็ นอกจากจะปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมตอนกลางวันแล้ว อย่าลืมปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมตอนกลางคืนเหล่านี้ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 108 พรรณไม้ไทย/แก้ว, ไม้ประดับออนไลน์/ลำดวน, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง/คัดเค้า, ไม้ประดับออนไลน์/คัดเค้า, 108 พรรณไม้ไทย/นมแมว, วิชาเกษตร/ชมนาด, เกษตรดิจิทัล, ไม้ประดับออนไลน์/เล็บมือนาง, ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง/จันทน์กะพ้อ และวิชาเกษตร/ปาหนันช้าง