วิธีใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ใช้ยังไง ใส่อะไรก่อน-หลัง

เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ใช้ยังไง ใส่อะไรก่อน-หลัง มาดูวิธีใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญกัน ให้ผ้าสะอาด หอมนุ่ม น่าใส่

เรียกได้ว่าตอนนี้หลายคนนิยมไปใช้บริการร้านสะดวกซักมากขึ้น เพราะมีเครื่องซักผ้าหลายขนาดให้เลือกใช้ ซักผ้าได้เยอะกว่า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องนอน รวมไปถึงท็อปเปอร์แถมบางร้านยังมีเครื่องอบผ้าให้บริการด้วย แถมยังซักสะอาดรวดเร็วใช้เวลาไม่นาน ผ้าก็แห้งพร้อมใส่ สำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มใช้จากตรงไหนก่อนไปดูวิธีใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญกันเลย 

• เหรียญ 10 บาท หรือเหรียญ Token (เหรียญเฉพาะของทางร้าน จะมีตู้ไว้ให้แลกก่อนนำไปซัก) บางร้านก็สามารถใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดไว้จ่ายเงินแทนการหยอดเหรียญ 

• น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก

• น้ำยาปรับผ้านุ่ม

• เลือกขนาดเครื่องซักผ้าให้เหมาะกับปริมาณผ้า เช่น 

  • เครื่องซักผ้าไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซักผ้าได้ประมาณ 25–30 ชิ้น

  • เครื่องซักผ้าไม่เกิน 9 กิโลกรัม ซักผ้าได้ประมาณ 36–45 ชิ้น

  • เครื่องซักผ้าไม่เกิน 11 กิโลกรัม ซักผ้าได้ประมาณ 46–65 ชิ้น

  • เครื่องซักผ้าตั้งแต่ 12 กิโลกรัมขึ้นไป ซักผ้าได้ 56 ชิ้นขึ้นไป

• นำผ้าจากตะกร้าใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้า หากเป็นชุดชั้นในควรใส่ถุงซักผ้าให้เรียบร้อย ก่อนใส่เข้าไปในตัวเครื่อง เพื่อลดการพันกันของเสื้อผ้าระหว่างซัก แล้วปิดฝาถังเครื่องซักผ้า

• เติมน้ำยาซักผ้าหรือใส่ผงซักฟอกในช่องสำหรับใส่น้ำยาซักผ้า หากเป็นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแบบฝาหน้า ควรใช้น้ำยาซักผ้าสำหรับเครื่องฝาหน้าเท่านั้น เพื่อความสะอาด ไม่ทิ้งคราบขาว และไม่เกิดฟองมากเกินไป และใส่ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดของเครื่องซักผ้า เช่น 

  • เครื่องซักผ้าขนาด 9-10 กิโกกรัม ใช้น้ำยาซักผ้า 1 ฝา 

  • เครื่องซักผ้าขนาด 13-18 กิโกกรัม ใช้น้ำยาซักผ้า 2 ฝา 

  • เครื่องซักผ้าขนาด 28 กิโกกรัม ใช้น้ำยาซักผ้า 3 ฝา 

          หากมีน้ำยาอื่น ๆ เช่น น้ำยาฟอกขาว ให้ใส่ที่ช่องน้ำยาอื่น ๆ หรือใส่ช่องเดียวกับน้ำยาซักผ้า 

• ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม

• จ่ายเงินโดยการหยอดเหรียญตามจำนวนเงินที่กำหนด โดยดูจากตัวเลขบนหน้าจอ LED ของตัวเครื่อง หรือแสกนจ่าย

          ทั้งนี้หากเป็นเครื่องซักผ้าเหยอดเหรียญทั่วไป แต่ละตู้จะมีราคาเดียวตามที่ตัวเครื่องกำหนด ส่วนบางร้านราคาของแต่ละเครื่องจะแตกต่างกันตามอุณหภูมิน้ำ แบ่งเป็นน้ำเย็น น้ำอุ่น และน้ำร้อน 

• กดปุ่มบนตัวเครื่องเพื่อให้เริ่มซักผ้า 

• นำผ้าออกจากเครื่องเมื่อถึงเวลาที่กำหนด

• นำผ้าที่ซักเสร็จแล้วใส่เข้าไปในเครื่องอบผ้า แล้วปิดฝาเครื่องอบผ้า

• หยอดเหรียญหรือสแกนจ่ายเงิน

• เลือกระดับความร้อนที่ต้องการ ประกอบด้วย

  • อุณหภูมิต่ำ (Warm) หรือระดับความร้อนต่ำ : อุณหภูมิระหว่ง 38-40 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับผ้าที่มีความบาง เช่น ผ้าอ้อมเด็ก ผ้าไนล่องบาง ผ้าลูกไม้ รวมไปถึงผ้าไหมและผ้าขนสัตว์ 

  • อุณหภูมิปานกลาง (Medium) หรือระดับความร้อนปานกลาง : อุณหภูมิระหว่ง 50-60 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับผ้าทั่วไปหรือผ้าหนาปานกลาง เช่น เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด กางเกงผ้า ตุ๊กตา ผ้าฝ้าย ผ้าใยสังเคราะห์ 

  • อุณหภูมิสูง (Hot) หรือระดับความร้อนสูง : อุณหภูมิระหว่ง 60-70 องศาเซลเซียส หมาะสำหรับผ้าหนา เช่น ผ้านวม ยีนส์ ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว 

• กดปุ่มให้เครื่องเริ่มทำงาน

• นำผ้าออกจากเครื่องเมื่อถึงเวลาที่กำหนด

หลังจากนี้ไม่ต้องไปยืนงงที่หน้าเครื่องอีกต่อไป ลองนำวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปใช้กันนะคะ 

• 13 วิธีซักผ้าแบบผิด ๆ ใช่เราหรือเปล่าที่ทำแบบนี้ประจำ

• 6 วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ให้ผ้านุ่มหอมนาน พร้อมช่วยถนอมชุดโปรด

• 7 วิธีซักผ้าให้หอม ติดทนนาน เหมือนออกมาจากร้านซักรีด

• วิธีซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ดูสัญลักษณ์ยังไง ใช้โปรแกรมอะไรดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : lg.com, เฟซบุ๊ก Otteri wash & dry, washxpressth.com และ LaundryBarThai