วิธีเลือกเครื่องซักผ้า ซื้ออย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน มาดูวิธีการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และใช้งานได้คุ้มค่ากับฟังก์ชั่นที่เครื่องซักผ้ามี
ทุกวันนี้ เครื่องซักผ้านับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่งที่หลายครอบครัวต้องมีติดบ้านเอาไว้ เพราะเครื่องซักผ้าเป็นตัวช่วยให้การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่จะทำให้คุณเบาแรงลงได้มากเลยทีเดียว แต่การจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าสักเครื่องหนึ่งให้ถูกใจและคุ้มค่านั้น มีอะไรที่ต้องพิจารณาบ้าง กระปุกดอทคอมมีขั้นตอนการเลือกเครื่องซักผ้ามาฝากกันครับ
การเลือกซื้อเครื่องซักผ้านั้น สิ่งแรกที่ต้องนำมาพิจารณาก็คือ ความต้องการในการใช้งาน เนื่องจากความต้องการเป็นสิ่งที่จะระบุว่า เราควรซื้อเครื่องซักผ้ารุ่นอะไร แบบไหน เช่น ในครอบครัวมีเสื้อผ้าที่ต้องซักแต่ละครั้งเฉลี่ยกี่ชิ้น, ความถี่ในการซัก, เสื้อผ้าประเภทที่ซักเป็นผ้าชนิดใด เป็นต้น เมื่อทราบแล้วว่าความต้องการเป็นแบบไหน ก็มาพิจารณาขนาดของเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับความต้องการ
ปริมาณผ้าที่จะซัก
ปริมาณผ้าที่จะซักในแต่ละครั้งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า โดยเทียบกับขนาดมาตรฐานของเครื่องซักผ้ากับจำนวนคนที่พักอาศัยอยู่ในบ้านได้ดังนี้
- 1-3 คน ปริมาณเสื้อผ้าที่ซักต่อครั้ง 3-5 กิโลกรัม
- 4 คนขึ้นไป ปริมาณเสื้อผ้าที่ซักต่อครั้ง 6-8 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากคำนวณเป็นจำนวนคน ก็สามารถคำนวณเป็นน้ำหนักของเสื้อผ้าแต่ละชนิดโดยคร่าว ๆ ได้เช่นกัน ดังนี้
- กางเกงยีนส์ 600 กรัม
- เสื้อ 200 กรัม
- เสื้อชั้นใน 100 กรัม
- กางเกงชั้นใน 100 กรัม
- ถุงเท้า 100 กรัม
- ผ้าเช็ดตัว 200 กรัม
- ผ้าคลุมเตียง 700 กรัม
ลองนำน้ำหนักคร่าว ๆ ของเสื้อผ้าแต่ละประเภทเหล่านี้มาคำนวณดูว่า เมื่อรวมกันแล้ว ในแต่ละครั้งที่คุณซักผ้า ผ้าของคุณและคนในครอบครัวมีน้ำหนักประมาณเท่าไหร่ จากนั้นจึงเลือกขนาดของเครื่องซักผ้าให้ตรงกับความต้องการในการซัก เพือให้ได้ขนาดเครื่องซักผ้าที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ทำให้เปลืองไฟมากขึ้น
รอบปั่นหมาด (RPM)
รอบปั่นหมาด คือจำนวนรอบในกรหมุนของเครื่องซักผ้า ยิ่งมีรอบปั่นหมาดมากเท่าไหร่ ผ้าของคุณก็จะแห้งได้มากเท่านั้น อีกทั้งรอบปั่นหมาดที่มากขึ้น ก็จะทำให้ผ้าของคุณแห้งได้เร็วขึ้นด้วย โดยเครื่องซักผ้าที่มีรอบปั่นหมาดมาก จะเหมาะกับการซักผ้าเนื้อหนา แต่ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าที่มีรอบปั่นหมาดน้อย ก็จะเหมาะกับการซักผ้าเนื้อบางมากกว่า
วัสดุที่ใช้ผลิต
เรื่องวัสดุที่ใช้ผลิตถังซักผ้า ก็เป็นปัจจัยที่นำมาเลือกเครื่องซักผ้าได้เช่นกัน เพราะถังซักผ้า ทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิดที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
- พลาสติก หรือ โพลีเมอร์ - จะมีน้ำหนักเบา และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย
- เหล็กเคลือบกันสนิม - มีความแข็งแรง ทนทาน และไม่เป็นสนิมได้ง่าย
- เรซิน หรือ ไฟเบอร์ - จะมีความทนทานปราศจากการผุกร่อน สามารถติดตั้งได้ในที่ที่มีความชื้นสูง อีกทั้งยังไม่เป็นสนิมอีกด้วย
- สเตนเลส - ทนทาน ไม่อับชื้น ไม่เป็นสนิม และไม่มีเชื้อราสะสม
- โพลีน็อกซ์ - ช่วยเก็บเสียงในการปั่น ลดความสั่นสะเทือน และช่วยประหยัดพลังงานขณะซักได้
โปรแกรมการทำงาน
เครื่องซักผ้าในปัจจุบัน มีโปรแกรมการทำงานพิเศษที่แตกต่างกันออกไปนอกเหนือจากโปรแกรมการซักพื้นฐาน เช่น มีโปรแกรมการซักกางเกงยีนส์, โปรแกรมการซักผ้าปูที่นอน, โปรแกรมการซักแบบประหยัดน้ำ เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะถูกบรรจุมาในเครื่องซักผ้าแต่ละรุ่น คุณจึงควรพิจารณาคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ของเครื่องซักผ้า ให้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด เพื่อใช้เครื่องซักผ้าที่ซื้อมาให้คุ้มค่าและเหมาะสม
ประเภทของเครื่องซักผ้า
ประเภทของเครื่องซักผ้า ก็เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่สามารถนำมาเป็นปัจจัยในการซื้อเครื่องซักผ้าได้ ดังนี้
- เครื่องซักผ้าฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ) เหมาะสำหรับการซักในครั้งน้อย ๆ ข้อดีคือ สามารถซักได้หลายครั้งโดยไม่เปลี่ยนน้ำ มีราคาถูก แต่ข้อเสียคือต้องคอยย้ายผ้าไปมาระหว่างถังซักและถังปั่นหมาด ทำให้ไม่สะดวกมากเท่าที่ควร
- เครื่องซักผ้าฝาบนหนึ่งถัง (อัตโนมัติ) มีราคาปานกลางถึงสูง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ในบ้านน้อย รักความสะดวกสบาย เนื่องจากมีโปรแกรมให้เลือกใช้งานเยอะพอสมควร แต่ข้อเสียคืออาจจะมีโปรแกรมในการใช้งานไม่มากเท่ากับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
- เครื่องซักผ้าฝาหน้า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผ้าสะอาดหมดจด และถนอมเนื้อผ้าได้ด้วย รวมทั้งสามารถจุผ้าในการซักแต่ละครั้งได้มาก จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถซักผ้าได้สะอาดใกล้เคียงกับการซักมือมากที่สุด อีกทั้งยังใช้พลังงานในการซักน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาบนด้วย ส่วนข้อเสียคือ มีราคาสูง อีกทั้งยังต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนติดตั้งให้
- เครื่องซักผ้า และอบผ้าในตัว (ฝาหน้า) เหมาะสำหรับคนที่มีปริมาณผ้าน้อย ๆ ซักผ้าบ่อยแต่ไม่เยอะ และมีพื้นที่ในการตากผ้าไม่มากนัก คุณสมบัติในการซักแบบเดียวกับเครื่องซักผ้าฝาหน้าธรรมดา แต่สามารถอบผ้าด้วยไอน้ำให้ผ้าของคุณแห้งได้โดยไม่ต้องเอาไปตาก และลดสารก่อโรคภูมิแพ้ได้ด้วย ข้อเสียคือมีราคาสูง และการอบผ้าแม้จะสะดวกแต่ก็ยังไม่สะอาดปลอดภัยเท่ากับการปล่อยให้ผ้าของคุณโดนแสงแดดอยู่ดี
บริการหลังการขาย
อย่าลืมว่าการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ ก็ตาม ย่อมต้องมีการเสื่อมอายุลงตามกาลเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเครื่องซักผ้าแต่ละยี่ห้อก็ยังมีการรับประกัน และเงื่อนไขการซ่อมแซมที่แตกต่างกันไป หากคุณจะมองหาเครื่องซักผ้าที่ถูกใจสักเครื่อง การพิจารณาถึงการรับประกันและบริการหลังการขาย จะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวหากเครื่องซักผ้าของคุณใช้งานไม่ได้ ลองเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ใส่ใจในการบริการหลังการขาย ซ่อมเครื่องซักผ้าให้คุณได้รวดเร็ว และมีอะไหล่สำรองด้วย จะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิดใจทีหลัง
รู้รายละเอียดในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแบบนี้แล้ว อย่าลืมเก็บข้อควรพิจารณาเหล่านี้ไปเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องซักผ้าที่ใช่และเหมาะสมกับคุณสักเครื่องนะครับ จะได้มีเครื่องซักผ้าดี ๆ ไว้ใช้งานไปได้อีกนาน ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
พาวเวอร์บาย