ไขข้อข้องใจ…ทำไมควรใช้เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA Filter

HEPA Filter คืออะไร เกรดไหนดี มาทำความรู้จักแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter พร้อมเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ HEPA H13

ฝุ่นพิษ PM2.5 กลายเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ เครื่องฟอกอากาศเลยกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีติดบ้าน หลายคนคงเคยได้ยินว่าการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดีควรมี HEPA Filter ฉะนั้นวันนี้จะพาไปหาคำตอบกันว่าแผ่นกรอง HEPA คืออะไร ดูแลอย่างไร เกรดไหนดี ตามไปดูกันเลย 

โดยทั่วไปแผ่นกรอง HEPA ที่ขายในท้องตลาดจะมีไส้กรอง 3 ชั้นหลัก ๆ คือ 

• ชั้นกรองหยาบ (Pre-Filter) : ใช้สำหรับดักจับฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่มีอนุภาคใหญ่กว่า 5 ไมครอน เช่น ฝุ่นทั่วไป ขนสัตว์ ฯลฯ
• ชั้นกรองฝุ่น (HEPA-Filter) : ใช้สำหรับดักจับฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็ก โดยกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุดได้ถึง 0.00024 ไมครอน เช่น ไรฝุ่น ควันบุหรี่ แบคทีเรีย ไวรัส รวมถึงฝุ่นพิษ PM2.5 ช่วยทำให้อากาศในบ้านสะอาดยิ่งขึ้น 
• ชั้นกรองกลิ่น (Odor หรือ Carbon Filter) : ใช้สำหรับกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นอับ กลิ่นสารเคมี กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง ทำให้อากาศบริสุทธิ์ไร้กลิ่นรบกวน 

สหภาพยุโรป (European Union) ได้กำหนดมาตรฐาน EN1822 ขึ้นมาเพื่อให้ทดสอบประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาดเล็ก และแบ่งชนิดของ HEPA Filter ออกเป็นเกรดต่าง ๆ ได้แก่

• E10 : ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองได้ 85%
• E11 : ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองได้ 95%
• E12 : ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองได้ 99.5%
• H13 : ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองได้ 99.95%
• H14 : ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองได้ 99.995%

จะเห็นว่ายิ่งเกรดสูงก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาดเล็กมากขึ้น เช่น HEPA H13 ขึ้นไป ที่จะช่วยกรองฝุ่นและมลพิษในอากาศได้มีประสิทธิภาพสูงกว่าไส้กรองอากาศทั่วไป 

ห้ามนำไส้กรอง HEPA Filter หรือแผ่นกรองอากาศ ไปซักล้างด้วยน้ำหรือน้ำยาต่าง ๆ เพราะจะทำให้เส้นใยของแผ่นกรองเสียหายและทำให้ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นลดลง แต่สามารถใช้แปรงปัดฝุ่นออกได้ และเปลี่ยนแผ่นกรองใหม่ทุก ๆ 1-2 ปีต่อครั้ง หรือตามคำแนะนำที่คู่มือของเครื่องฟอกอากาศกำหนด

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro จาก Xiaomi ครอบคลุมการทำงานพื้นที่ 35-60 ตร.ม. ใช้ไส้กรองแบบ 3 in 1 กรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ทั้งฝุ่น PM2.5 ควัน ขนสัตว์เลี้ยง รวมถึงไวรัส แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ใช้งานง่าย ฝาตะแกรงสามารถถอดทำความสะอาดได้

• ราคาเครื่องฟอกอากาศ : 8,790 บาท 

• ราคาตัวกรอง : 1,049 บาท 

เครื่องฟอกอากาศ Philips 1000i Series รุ่น AC1715/21 ช่วยกำจัดไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และมลพิษในบ้าน ด้วยเทคโนโลยี VitaShield และแผ่นกรอง 3 ชั้น พร้อม NanoProtect HEPA ที่มีประจุไฟฟ้าสถิต เพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศได้เป็น 2 เท่าของ HEPA H13 แบบดั้งเดิม ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ และดูแลรักษาง่าย

• ราคาเครื่องฟอกอากาศ : 9,990 บาท 

• ราคาตัวกรอง : 2,290 บาท

เครื่องฟอกอากาศ LG PuriCare AeroTower รุ่น FS15GPCN0 สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กสุดได้ถึง 1.0 ไมครอน นอกจากนี้ยังช่วยกำจัด PM2.5 ฝุ่นละออง เชื้อรา รวมถึงมลพิษในอากาศและกลิ่นไม่พึงประสงค์ พร้อมทั้งช่วยสร้างลมเย็นให้อากาศในบ้านเย็นสบาย ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้

• ราคาเครื่องฟอกอากาศ : 13,600 บาท 
• ราคาตัวกรอง : 2,290 บาท

เครื่องฟอกอากาศ Pure A9 ของ Electrolux ใช้ตัวกรอง Clean 360 สำหรับห้องขนาด 60 ตร.ม. มี Clean ultrafine ชั้นกรองฝุ่นอนุภาคละเอียดที่ใช้เทคโนโลยีการกรองของ HEPA13 นอกจากนี้ยังมีชั้นกรองอื่น ๆ รวม 5 ขั้นตอน นอกจากจะกำจัดฝุ่น PM2.5 แล้ว ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รวมถึงอนุภาคขนาดเล็กพิเศษถึง 0.003 ไมครอน ช่วยให้อากาศในบ้านสะอาด สดชื่น และดีต่อสุขภาพ

• ราคาเครื่องฟอกอากาศ : 15,990 บาท 
• ราคาตัวกรอง : 3,190 บาท

เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde BP03 มาพร้อมไส้กรองรุ่น 360° HEPA H13 Grade ช่วยดักจับฝุ่น PM2.5 สารก่อมลพิษอนุภาคขนาดเล็กสุดถึง 0.1 ไมครอน รวมถึงกลิ่นและก๊าซพิษต่าง ๆ พร้อมทั้งยังกระจายลมได้ในระยะไกล ทำให้อากาศหมุนเวียนได้ดี และทำงานแบบไม่มีเสียงรบกวน ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ มีล้อในตัว สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ใช้งานได้กับห้องขนาดใหญ่สูงสุด 100 ตร.ม.

• ราคาเครื่องฟอกอากาศ : 37,900 บาท 
• ราคาตัวกรอง : 3,990 บาท

สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศมาใช้ อย่าลืมเลือกเครื่องที่ใช้แผ่นกรอง HEPA ด้วยนะคะ เพื่อจะได้มั่นใจว่าช่วยกรองฝุ่นพิษอย่าง PM2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาในหลายพื้นที่และหลายปีที่ผ่านมา

• 10 เครื่องฟอกอากาศกรองฝุ่น PM2.5 พร้อมดักจับเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้

• เครื่องฟอกอากาศ เลือกยังไง วางตรงไหนช่วยกรองฝุ่นได้ดีที่สุด

• 7 วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ช่วยลดฝุ่นและกำจัดเชื้อโรคในบ้าน

• วิธีทำบ้านแรงดันบวก แบบไม่เจาะผนัง งบไม่เกิน 2,000 บาท