x close

รีโนเวทบ้านเก่าสุดโทรม สู่บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมือนได้หลังใหม่

          รีโนเวทบ้านเก่าที่คนชอบบ้านสไตล์รีสอร์ทห้ามพลาด เพราะเขาคนนี้จะมาเล่ารายละเอียดการรีโนเวทบ้านเก่าหลังนี้ให้ฟัง ตั้งแต่ซื้อบ้านจนขั้นตอนสุดท้าย ไปดูกันว่าหลังรีโนเวทเสร็จจะน่าอยู่หรือเปล่า

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          แม้บ้านเก่าจะราคาถูกกว่าบ้านใหม่มาก แต่การรีโนเวทบ้านเก่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย โดยเฉพาะบ้านเก่าที่ถูกทิ้งร้างจนระบบต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ คุณ Paul Likitkeereeraht สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซื้อมารีโนเวทใหม่ แต่ในที่สุดก็สามารถเปลี่ยนสภาพบ้านเก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยขยะและได้บ้านสไตล์รีสอร์ทน่าพักมาแทน

รีโนเวท Renovate (ภาค 2) บูรณะบ้านเก่าแนว ๆ ที่เชียงใหม่ ให้มีกลิ่นอายของรีสอร์ทนิด ๆ โดย คุณ Paul Likitkeereeraht

          ครั้งก่อนนั้นผมรีโนเวทห้องแถว "รีโนเวท renovate บูรณะห้องแถวเก่าเก็บ ทำเอาเองก็ได้ ง้อแค่ช่าง"  โดยลองดำเนินการด้วยตนเองในหลายส่วนเพื่อเซฟงบประมาณมาใช้ปรับปรุงบ้านในจังหวัดเชียงใหม่หลังนี้ครับ คอนเซ็ปต์คือจะรีโนเวทให้เป็นอารมณ์พักผ่อนแนว ๆ รีสอร์ทบ้าน ๆ ก็ถือโอกาสไปพักผ่อนแล้วก็รีโนเวทไปด้วย เริ่มจาก Before-After เลยนะครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ภาพ Before นี้ความจริงก็ไม่ได้เป็นภาพแรกก่อนการรีโนเวท ซึ่งในตอนนั้นสภาพมีต้นไม้ใหญ่ 3-4 ต้นอยู่แนวรั้ว กิ่งก้านปกคลุมหลังคา รูปนี้ได้ถ่ายไว้เมื่อตอนที่ตัดต้นไม้ออกแล้ว ขณะนั้นใบไม้ร่วงเยอะมากและกวาดยากด้วยเพราะเป็นอิฐตัวหนอน นี่เป็นภาพที่เก่าที่สุดที่สามารถเปรียบเทียบ Side by Side ได้ ผมชอบบ้านนี้มาก เพราะมีคาแรคเตอร์บางอย่างที่หลายคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ เช่น พื้นที่อาจไม่เป็นสี่เหลี่ยมทำให้มีซอกเล็กซอกน้อย อันนี้ผมพยายามคิดให้เป็นข้อได้เปรียบ เพราะถ้าพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมมันจะดูธรรมดามาก กรณีที่อยากมีมุมเล็กมุมน้อยเราต้องกั้นส่วนพื้นที่ เช่น ใช้ต้นไม้หรือระแนง ตรงนี้แหละที่ผมคิดว่าเราได้พื้นที่เล่นฟรี ๆ แถมยังทำให้บ้านดูเหมือนกว้าง เพราะมีหลายมุมให้ค้นหา จึงพยายามปรับแต่งมุมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม และที่ชอบเป็นพิเศษคืออากาศของจังหวัดนี้ ผู้คนก็ยิ้มเก่ง รถไม่ติด ไม่นับช่วงเช้า-เย็นนะครับ และมีหลายอย่างผสมผสานคล้ายกรุงเทพฯ+ธรรมชาติ+วัฒนธรรมครับ วันที่ได้บ้านหลังนี้ผมไปถึงบ้านตอน 9 โมงเช้า ผมขอพาเดินดูบ้านหลังนี้พร้อมกันครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท
      
          - พื้นที่เล็ก ๆ นี้ 39 ตารางวามีทางเดินเข้าบ้านทอดยาว ซึ่งข้างในมีบ้านอยู่ 2 หลังคือหลังเล็ก (พื้นที่ระบายสีฟ้า) และหลังใหญ่ (พื้นที่ระบายสีเขียว) วันแรกมาก็สำรวจและวัดพื้นที่เหมือนกับกระทู้แรก บริเวณทางเข้าจะมีพื้นอิฐตัวหนอนและใบไม้เยอะต้องเก็บกวาดอยู่ตลอดเวลา เดินเข้ามาจะพบกับบ้านหลังเล็ก (สีฟ้า) อยู่ขวามือมี 1 ห้องนอนและห้องน้ำในตัว เดินตรงเข้ามาอีกจะเป็นบ้านอีกหลังที่มีขนาดใหญ่กว่า มีห้องจำนวน 3 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำ ในบ้านหลังใหญ่นี้มีโถงโล่ง ๆ สภาพแสงดูมืดแม้เป็นเวลากลางวัน เมื่อเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ ด้านซ้ายมือพบเศษหินถมเอาไว้และมีท่อประปาหลงเหลืออยู่ ตรงนี้ดูไม่ค่อยสะอาดนัก ในใจมีตัวเลือก 3 ทางคือทำสระน้ำ ลานซักล้าง หรือปลูกต้นไม้เพราะมีดินอยู่แล้ว (ในรูปพื้นที่สีเทา) ส่วนรอบ ๆ ตัวบ้านหลังใหญ่ที่เป็นสีเทาก็เป็นพวกเศษวัสดุทับถมอยู่ ยังไม่ได้เทปูนให้ดูสะอาดตา

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ท่อประปาเก่ายังใช้งานได้ รีบเช็กก่อนเลยว่ามีน้ำให้ใช้หรือเปล่า พอเปิดน้ำดูและไปที่ห้องน้ำปรากฏว่า บางที่ไม่ไหล ส่วนที่ไหลก็เป็นน้ำสีขุ่นแดง ก็เลยลองถามบ้านข้าง ๆ ดูก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเหมือนกัน ตอนอาบน้ำ เอ๊ะ ! ทำไมมีกลิ่นแปลก ๆ คล้าย ๆ สุนัขจากฝักบัว มาทราบทีหลังว่าบ้านนี้เคยเลี้ยงสุนัข สันนิษฐานว่าอาจมีการรั่วตรงบริเวณนี้ แล้วน้ำเลยไหลย้อนกลับมาก็เป็นได้ เนื่องจากบางวันน้ำหยุดไหลเอาดื้อ ๆ ทั้งวันผมรีบจัดการให้น้ำไหล (สิ่งที่ต้องจัดการอันดับแรก ๆ ไล่ตามลำดับความสำคัญคือ แท็งก์น้ำ ปั๊มน้ำ ระบบกรองน้ำใช้ และระบบกรองน้ำดื่มต้องลงมือเลือกซื้อเองครับ ส่วนเครื่องกรองน้ำก็ควรให้ความสำคัญนะครับ เพราะจะช่วยไม่ให้เครื่องครัวและสุขภัณฑ์เป็นคราบ)

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  ห้องน้ำเดิมที่น่าจะมาจากคราบหินปูนและตะกอนดิน ถึงจะทำใหม่ขนาดไหนถ้าน้ำใช้ไม่ใสสะอาดไม่กี่วันก็จะเป็นคราบ ไม่ว่าจะเป็นซิงค์ โถส้วม อ่างล้างหน้า พื้นที่มีน้ำขัง ยิ่งถ้านานยิ่งฝังแน่นครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ผมติดตั้งเครื่องกรองหยาบก่อนเข้าแท็งก์เก็บ หลังจากเริ่มใช้งานไม่กี่นาทีก็มีสภาพอย่างที่เห็น ส่วนน้ำที่ออกมาใสใช้งานได้ทีเดียว เปลี่ยนไส้กรองบ่อยมาก หลังจาก 2 วันผ่านไป ผมมีปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำวางอยู่ตรงกองหินนั้นมีน้ำสะอาดใช้ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ไปสำรวจเส้นทางซึ่งจำยากมาก ๆ ครับ เพราะซอยเล็กซอยน้อยเต็มไปหมด เพื่อที่จะได้ทราบว่าตรงไหนของเมืองมีอะไรน่าสนใจบ้างจะได้เก็บมาเป็นไอเดีย ผมคิดว่าหลายท่านที่มีโอกาสไปเที่ยวแล้วขับขี่เอง ท่านคงจะงง ๆ กับถนนที่เชื่อมกันคล้ายตารางหมากรุกของเมืองนี้เป็นแน่

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ระหว่างที่รีโนเวทผมก็ถือโอกาสพักผ่อนไปด้วย เชียงใหม่มีอะไรเก๋ ๆ เยอะอยู่แล้ว ผมอยากได้ซุ้มแบบนี้ตรงทางเข้าบ้าน แต่สุดท้ายก็ได้ซุ้มที่ไม่เหมือนกันนี้ครับ ผมตระเวนไปนั่งชิล ตามร้านกาแฟที่มีอยู่อย่างดาษดื่น ไปบ้านม้า บ้านถวาย ดูเฟอร์นิเจอร์ไม้ ขี่รถขึ้นดอยบ้าง ได้ขี่ไปแม่กำปอง ม่อนแจ่ม แม้กระทั่งปาย แต่อยู่ที่เชียงใหม่นี้กว่าจะจำถนนหนทางได้ ก็ใช้เวลาพอสมควรครับ อาศัยเปิดจีพีเอสดูบ้าง หลงทางก็ไปตามทางที่หลง จนจำเส้นทางได้ ได้ไอเดียหลากหลาย แต่ผมอยากจะแนะนำแอพฯ หนึ่งที่ผมชื่นชอบคือ houzz ครับ ดูแบบได้ดีมากทีเดียวหรือจะดูในเว็บไซต์ก็ได้ครับ เลือกดูแบบที่มีวัสดุในประเทศก็ใส่ฟิลเตอร์ได้ตามที่ชอบเลยครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ผมเริ่มคิดแปลนบ้าน ความจริงไม่ได้วาดแปลนนี้นะครับ เขียนเพื่อประกอบโพสต์นี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่ทางเดินเข้า เดิมเป็นรั้วโปร่ง ๆ เป็นบานสวิงเดี่ยว กินพื้นที่มาก ทางเข้าใบไม้ร่วงเยอะ ต้องหมั่นเก็บกวาดสม่ำเสมอ ทำแนวต้นไม้ริมรั้ว จัดระเบียบท่อน้ำ ตรวจสอบซ่อมพวกไฟฟ้า เชื่อมต่อบ้านทั้ง 2 ด้วยโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ส่วนพื้นที่สีเหลืองทำเป็นสวนเล็ก ๆ มีน้ำตก สระน้ำ และลานซักล้าง บ้านทั้ง 2 หลังต้องซ่อมแซมใหม่ โดยผมจะเริ่มทำจากหลังใหญ่ (สีเขียว) ก่อน เสร็จแล้วทำหลังสีฟ้า ปรับปรุงทางเดินเข้า ทำประตูใหม่ หลังคาคลุมตลอดทางเดินเข้าบ้าน แล้วเก็บบ้านหลังเล็กไว้อาศัยก่อนเพราะมุ้งลวดของบ้านหลังใหญ่นี้ขาด กลัวยุงกัดครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  ผมออกไปหาแรงงานจ้างเป็นรายวัน โดยให้รื้อฝ้าออก (ของเดิมเป็นทีบาร์) ไล่เช็กหลังคา และระบบสายไฟฟ้า ผมออกไปหาแถวตลาดคำเที่ยงที่ขายต้นไม้เยอะ ๆ ก็ได้ช่างมาช่วยงาน ชื่อช่าง "อ่ำ" เขามาช่วยซ่อมบ้านอยู่หลายอาทิตย์และสอนผมอู้กำเมืองหลายประโยค มีเรื่องตลกคือวันหนึ่งรถเครื่องของเขาน้ำมันหมด ให้ผมถีบรถไปเติมน้ำมัน ไอ้ผมก็ไม่เคยถีบรถ ก็ถีบไปเติมน้ำมัน ถีบไปถึงแยกผมถามไปทางไหน เขาบอกไปซื่อ ๆ ผมก็เงิบสิ ทางไหนอ่ำ ทางไหน ผมถามอีก เขาก็ชี้ไปข้างหน้า ไปซื่อ อ่อ...มันคือตรงไปนั้นเอง คำว่าซื่อ คล้าย ๆ ซื่อตรงหมายถึงตรงไปนั่นเอง เมืองนี้มีอะไรให้ค้นหาดีจัง

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  เจอรูก็ปีนขึ้นไป (รูนี้ช่างเป็นคนปีนขึ้นไปทำให้ ผมใช้กระเบื้องอีกแผ่นตัดเป็นสี่เหลี่ยมแล้วทาซิลิโคนแปะไว้จากด้านใน ลูบด้านนอกให้น้ำไหลสะดวก) ผมเลือกทีบาร์เก็บเอาไว้ เพราะในอนาคตอาจจะทำฝ้าใหม่ ลาดไปตามแนวหลังคาอาจจะเล่นระดับได้อีกด้วย แต่ว่าเก็บทีบาร์ไว้มันจะดูไม่เนียนเท่าไร ผมจะหาโคมไฟมาติดทุกห้องแทนเพื่อดึงความสนใจ ซึ่งการรื้อนี่ง่ายมากเลยแค่ยกลงมาเองครับ แต่ตอนใส่ช่างรายวันไม่สามารถทำได้ ผมเลยต้องตัดฝ้าให้เขาแล้วนำขึ้นไปใส่ โดยวัดขนาดแล้วตัดให้ได้ทรงตามช่องว่างด้วยจิ๊กซอว์

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  ตอนนี้บ้านหลังนี้ตลบอบอวลไปด้วยฝุ่นครับ เพราะผนังเดิมไม่ค่อยเรียบเนียนอย่างที่ผมชอบ ก็เลยให้ช่างฉาบบาง ขัดออก แล้วค่อยทาสีใหม่ ผมใช้สีชื่อ Magnolia และ Dessert Floor ช่างรายวัน 2 คนขัดทาใช้เวลา 2 วันต่อห้อง ผมใส่ตู้สาขากับฮับแลนเชื่อมบ้านทั้ง 2 หลังไว้ด้วย เพื่อใช้กับกล้องวงจรปิด โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ห้องโถงบ้านหลังใหญ่รื้อฝ้าออกแล้ว ตรงนี้จะทำฉาบเรียบเพราะหลังคาไม่ได้สูงมาก อนาคตคงไม่ได้ทำอะไรอีกแล้ว ผมเดินสายลำโพงไว้ด้วยเลยจะได้มีเพลงเบา ๆ ฟัง ห้องนี้ทีแรกจะทำผนังปูนเปลือยแต่งเป็นสไตล์ลอฟท์ แต่หาช่างทำยากเพราะต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ครับ ที่เห็นเป็นช่างทำแต่ไม่เวิร์ก ตู้เย็นนี่ได้จังหวะลดราคาพอดี เลยซื้อเก็บไว้ก่อน

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ก็ไล่ทำไปเป็นห้อง ๆ ครับ ขัดพวกพื้นไม้ ขัดทำสีวงกบ หน้าต่าง เก็บรายละเอียดไปเรื่อย ๆ ช่างรายวันเขาก็ทำไปเรื่อย ๆ ชิล ๆ ตรงไหนอยากได้ดี ๆ ก็ลงมือเองบ้าง ใช้เครื่องมือดี ๆ มันก็ออกมาดั่งใจครับ ทุกห้องผมติดโคมไฟ ลองเอาหาแบบที่ชอบไปติดดูสิครับ มันจะช่วยทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ รวมเวลา 2 อาทิตย์ก็ทำสีห้องได้ 3 ห้องรวมห้องโถง ช่วงนั้นผมก็มาพักที่นี่คราวละ 2-3 อาทิตย์ พาคุณแม่มาใช้ชีวิตแบบคนในพื้นที่

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ขัดพื้นไม้ ทาโพลียูรีเทน งานละเอียดต่าง ๆ เก็บดีเทลเอง ตอนนี้ห้องทั้ง 3 ก็เสร็จแล้ว ผมใช้ห้องนึงเก็บเสื้อผ้าไปเลย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ห้องโถงนี่มันดูเพลนเกินไป จึงติดไฟเบอร์ออปติกเพื่อใช้เป็นไฟกลางคืน Night Light ครับ แล้วก็ใส่โคมไฟเข้าไปด้วย เวลากลางคืนจะมองเห็นดาวเหล่านี้จากห้องที่อยู่ติดกันด้วย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ประโยชน์ของมันคือเดินไปห้องน้ำเวลากลางคืน จะมองเห็นไม่เดินชนอะไรเข้าครับ ใช้แอลอีดีประหยัดพลังงานเนื่องจากเปิดทุกคืน

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - บริเวณห้องครัวกับห้องน้ำผมเปลี่ยนหลังคาใหม่ และก่อเคาน์เตอร์ซิงค์และเอาหินมาจากกรุงเทพฯ ซิงค์เป็นแบบ 3 หลุม

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  พอลองวางซิงค์ก็เจอปัญหาเลยครับ คือท็อปหินที่ตัดจากสเปคของอ่างซิงค์ แต่พอเอามาวางจริง ๆ กลับใส่ไม่ได้ ผมตัดหินออกด้านละ 1 เซนติเมตร ลุ้นว่าเวลาตัดจะพลาดเสียโฉมไหม ผมซื้อเครื่องตัดน้ำมาตัวหนึ่งเพื่อการนี้ จะไว้ใช้ตัดท็อปของเตาแก๊สด้วย ตรงนี้เป็นอีกเรื่องที่อยากแชร์เป็นไอเดีย การเปลี่ยนมุมเล็กมุมน้อยในบ้านให้เป็นพื้นที่จุกจิกจะได้ดูมีลูกเล่นหน่อย นับเป็นไอเดียที่ไม่เลว หลายคนที่เข้ามาดูพวกเขาชอบมุมเล็กมุมน้อยนี้ครับ เพราะมันดูมีคาแรคเตอร์ดี ด้านหน้าซิงค์เป็นหน้าต่างมีแสงแดดส่องถึง ได้แสงธรรมชาติช่วงเช้า-สายดูอนามัยอีกด้วย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - สุดท้ายก็โล่งใส่ได้อย่างพอดี ไม่พลาดด้วย ชอบซิงค์ตัวนี้จริง ๆ ใช้งานดี เรื่องซิงค์นี่ถ้าเป็นได้เลือกหนา ๆ ก็ดีครับ ในกรณีที่ต้องล้างครกจะสะดวกมาก 

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ส่วนท็อปหินที่เจาะช่องออกมา ก็เอามาทำโต๊ะวางทีวีแบบบ้าน ๆ คงต้องทาเคลือบผิวหน่อยจะได้ดูสวยขึ้น

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - เคาน์เตอร์ล้างจานจะอยู่ที่มุมบ้านด้านหนึ่ง อีกมุมจุกจิกที่เคยเกริ่นไว้ ตัวผนังเคาน์เตอร์ใช้แกรนิตโต้สีดำปิด

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ส่วนที่เป็นบริเวณห้องน้ำและห้องครัวเดิมจะมีฝ้าอยู่และมีกลิ่นเนื่องจากมีขี้หนู ตอนรื้อฝ้าออกเจอก้อนแฉะ ๆ ลักษณะคล้ายดินน่าจะเป็นมูลหนู มีกลิ่นแรง เลยตัดสินใจรื้อหลังคาออกหมดแล้วมุงใหม่จะได้จบเรื่องกลิ่นไป เนื่องจากรื้อมาสักอาทิตย์แล้วกลิ่นยังไม่หายไป ตรงนี้ผมมุงหลังคาโพลีคาร์บอเนต ซึ่งเป็นหลังคาโปร่งแสง แสงแดดผ่านได้ ตากผ้าได้ อีกทั้งเป็นแสงธรรมชาติ ให้แสงทั้งห้องน้ำ ห้องครัว แถมยังได้ความโล่งโปร่ง แสงแดดยังช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วยครับ ในรูปคือหลังจากที่มุงหลังคาใหม่และก่ออิฐปิดช่องว่างระหว่างกระเบื้องหลังคาป้องกันสัตว์และแขกไม่ได้รับเชิญ กระเบื้องผนังหลังเตาแก๊สเป็นกระเบื้องท้ายล็อตสวย ๆ ราคาถูก มีจำนวนจำกัด เหมาะกับการทำพื้นที่เล็ก ๆ เช่นนี้

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - พอผมมีเครื่องตัดน้ำ ผมตัดกระเบื้องแกรนิตโต้ 80x80 ตัดเข้ามุมเองเลยครับ (ใช้เครื่องตัดให้คุ้ม ซื้อมาแล้วนี่) ก็วัดจับฉาก แต่คิดว่าจะเปลี่ยนเป็นหินจริง ๆ ดีกว่า เพราะมันเป็นรอยง่ายเกินไป เคาน์เตอร์ของเก่าตรงนี้เป็นซิงค์ล้างจานหนึ่งหลุมมีที่พักครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - คราวนี้ก็ถึงเรื่องห้องน้ำ จากเดิมอยู่รวมกันกับส้วม อ่างล้างหน้า และฝักบัวอาบน้ำ ใช้ซักล้างในห้องเดียวกัน จากการใช้งานจริง ๆ เราต้องเช็ดถูพื้นบ้านและต้องนำน้ำมาเททิ้งตรงนี้บ่อย ๆ คงจะสะอาดยากจึงแยกส่วนเปียกออก ส่วนอาบน้ำผมเอาออกจากห้องนี้ไปอยู่พื้นที่ว่างข้าง ๆ แทนจะได้ใช้งานพร้อมกันได้ ส่วนซักล้างจะไปอยู่ที่อื่น ห้องน้ำเดิมจะมีขอบเป็นสเต็ประหว่างรอยต่อพื้นและผนัง ผมจะเทพื้นใหม่เสมอเลย จะได้ทำความสะอาดง่าย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  ตอนเลาะกระเบื้องออกครับ พลาดนิดตรงสเปคของสุขภัณฑ์ต้องวางท่อที่ตำแหน่ง 30.5 เซนติเมตร แต่ดันเว้นไว้น้อยกว่าสัก 5 เซนติเมตรได้ แก้ก็ไม่ได้ ตอนเสร็จนี่มีกลิ่นจากส้วม ซึ่งเกิดจากข้องอมันวางไม่ตรงรูต้องมาแก้ไข ถ้าไม่เสียตังค์เรียกศูนย์มาก็ต้องแก้ไขเอง ในรูปฝังท่อน้ำโดยผมขีดตำแหน่งแนวที่จะสกัดด้วยเมจิก แล้วสกัดปูนออกด้วยมือ ตอนนั้นผมยังไม่มีเครื่องสกัดไฟฟ้า สกัดกันจนค้อนพังไปด้ามนึง แนวท่อน้ำนี้วิ่งไปจ่ายให้อ่างล้างหน้าและแยกออกไปใช้ที่ตู้อาบน้ำ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ส่วนอ่างล้างหน้าจะอยู่ที่เดิมแต่เปลี่ยนการวางไป 90 องศาเพราะมีท่อระบายน้ำอยู่แล้ว เหนืออ่างล้างหน้านี้เป็นหลังคาใส ซึ่งจะทำให้พื้นห้องน้ำนี้แห้งอยู่ตลอดและดูแลรักษาง่าย ผมเจาะผนังด้านที่รับแสงช่วงเช้าใส่บล็อกใส ตอนเช้าช่วงพระอาทิตย์ขึ้นแสงจะลอดผ่านช่องนี้ หักเหเป็นแถบสเปคตรัม ลอดผ่านเข้ามาฉายที่ผนังใกล้ ๆ กับกระจกส่อง สวยไปอีกแบบ ไว้จะถ่ายรูปช่วงนั้นมาแชร์กันนะครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - วางมุมอ่างล้างหน้าใหม่ เคาน์เตอร์ได้มานานแล้วตอนลดราคา น่าจะ 2,000 บาท แมตช์กันได้พอดีกับอ่างล้างหน้า กระจกไปตัดกระจกมาราคา 130 บาทแถวเจริญเมือง ไม้กรอบกระจกเป็นไม้ที่ผมแพ็กหินแกรนิตส่งมาจากกรุงเทพฯ ผ่านทางบริษัทขนส่ง ส่วนชั้นเป็นไม้สักเก่าใช้ฉากเหล็กยึดกับผนังครับ ตรงนี้มีแสงลอดมาเลยเลี้ยงกุหลาบหินเอาไว้ ถ้าตอนเช้าล้างหน้าถ้าพอมีเวลาอาทิตย์ละครั้งก็หยอดน้ำลงไป ข้อดีอีกข้อคือคืนเดือนหงายจะสว่างมองเห็นเลยครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ช่องแสงที่เจาะครับทำฝ้าด้วยไม้เทียม ดาวน์ไลท์ใช้แบบลอยตัว เพราะถ้าจะเจาะเป็นรูใหญ่ ๆ ติดตั้งดาวน์ไลท์แบบฝัง น่าจะวุ่นวาย ส่วนสีระแนงฝ้าใช้สีสักเงา ทาบาง ๆ 4-5 รอบครับ ใส่ฉนวนกันร้อน แต่ถ้าจะทำช่องแสงละก็เช็กด้วยนะครับว่าไม่มีบ้านไหนมองผ่านเข้ามาได้ ถ้ามีก็คงต้องทำเป็น 2 ชั้นหรือจะทำให้เป็นขุ่น ๆ ที่เรียกว่า Frosted ครับ โดยจะเป็นสติ๊กเกอร์หรือใช้สเปรย์พ่นก็ได้

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  เรื่องโทนสีห้องน้ำเลือกคุมโทนให้อยู่ ขาว ส้ม และสีไม้ธรรมชาติ แม้แต่ตัวบังโคมของโคมไฟ ผมเลือกใช้ที่บุด้านในด้วยทองแดงจะได้ดูไปในทางเดียวกัน ในความเห็นของผมการเลือกโทนสี ผิวสัมผัส ของวัสดุ เช่น กระเบื้อง ตลอดจนเครื่องใช้และสุขภัณฑ์ ถ้าเลือกได้เหมาะสมมันก็ดูออกมาสะอาดตา น่าใช้ดีเหมือนกันครับ แม้ว่าวัสดุพวกนี้หาได้ทั่วไปและราคาไม่แพง สำหรับกระเบื้องผมใช้ 12x12 นิ้ว ลายหิน พื้นผิวด้าน ๆ ไม่ลื่น ตัวนี้จะมีเลื่อมวิ้ง ๆ เวลาแสงจากดาวน์ไลท์กระทบด้วย สวยดี ส่วนคาดกลางผนังได้มากล่องนึงถูก ๆ พอเข้ากันได้ครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  คราวนี้ก็มาถึงห้องอาบน้ำครับ ซึ่งผมแยกออกมาจากห้องส้วม แต่มีหลายคนว่าไม่กล้าอาบ 555 ตอนนี้เป็นรูปตอนใกล้เสร็จครับ ประตูห้องน้ำก็ใสเหมือนกัน ใช้บานกระจกที่มีอยู่ ซึ่งขนาดความสูงได้แต่ความกว้างไม่ได้ ต้องก่ออิฐเพิ่มไม่อย่างนั้นจะดูเปิดเผยไปนิด หน้าตู้อาบน้ำมีราวสีขาว ซื้อจากกรุงเทพฯ ไม่กี่บาท สำหรับใส่ม่านและใช้ตากผ้าได้ด้วยครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - สภาพตอนทำครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - นี่ภาพตอนติดตั้งกระเบื้องนี่ก็เคยปูครั้งแรกแหละครับ ส่วนผนังที่เป็นสีเทา ๆ กะว่าจะทำแนวปูนเปลือย ลองทำเองดูแต่ไม่ค่อยเวิร์กต้องรอช่างมาทำ แต่ถ้าจะขัดก็ได้อยู่เพราะลองขัดที่ผนังด้านติดโคมไฟ ขัดไปนาน ๆ เรียบเนียนมาก สีเทาอ่อน ชอบเหมือนกัน ตรงนี้ใช้สกิมโค้ทที่ผสมกับปูน ปั่นด้วยสว่านนาน ๆ ถ้าเนื้อเข้ากันได้ดีจะฉาบได้ลื่นเนียนสวย แต่คราวหน้าให้ช่างที่มีประสบการณ์ทำดีกว่า กระเบื้องนี่ปูเองเพราะอยากลองและเห็นว่ากำแพงด้านซ้ายคงทำไม่ยาก แต่ด้านที่มีก๊อกจะเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย ตอนที่ปูเองเปลืองปูนกาวมาก เวลาเจาะช่องก๊อกน้ำนี่โชคดีเพราะช่องเจาะอยู่ที่ขอบกระเบื้องพอดี แต่ตรงท่อน้ำร้อน-น้ำดีใช้สว่านแบตเตอรี่ดอกเจาะเหล็ก 2 มิลลิเมตร ค่อย ๆ เจาะทีละรู ตามเส้นรอบวงของท่อน้ำ เจาะไปเอาน้ำหยอดไปเรื่อย ๆ พอปูกระเบื้องเสร็จก็ติดบานตู้อาบ คำนวณ และวางแนวฉากให้ได้ดิ่งทั้ง 2 บาน พอติดบานทั้ง 2 ก่อนเสร็จวัดดูว่าระยะของประตูฉาก เข้ากันได้กับประตูจริง ๆ ก็ยึดบานตู้ให้เสร็จ ไม่งั้นเดี๋ยวต้องเจาะหลายรูครับ คราวนี้ถึงก้านฝักบัว ผมมีฝักบัวแบบถืออยู่อันนึง เลยเอามาใช้ โดยทำท่อพีวีซีเพิ่มเติม มีปลายด้านนึงเกลียวนอก เอาไว้สำหรับขันเข้ากับท่อน้ำที่กำแพง ส่วนอีกด้านเป็นเกลียวในที่จะต่อกับฝักบัวถืออาบนี้ ให้มันยื่นออกมาบริเวณกลางตู้ แต่ว่ามันเป็นสีฟ้า ผมจึงตัดท่อพีวีซีสีขาวขนาด 1 นิ้วมาหุ้มจะได้ดูโอเคขึ้นหน่อย ถ้าหาท่อโครเมียมได้ก็จะเปลี่ยนทีหลัง ส่วนฝักบัวทำมุมเอียงเข้าหากำแพงเล็กน้อย เผื่อไม่อยากผมเปียก ส่วนตรงถาดอาบน้ำจะเห็นผมเจาะช่องใส่ท่อ 1 นิ้วเอาไว้ด้วย เผื่อไว้สำหรับเครื่องซักผ้า น้ำทิ้งจากอาบน้ำส่งผ่านท่อไปรดน้ำต้นไม้ตรงทางเดินเข้าบ้าน

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ตอนนี้ติดเครื่องทำน้ำร้อน 4,500 วัตต์แล้ว หน้าหนาวที่นี่ต้องเปิดสุดถึงจะเอาอยู่ครับ ที่กรุงเทพฯ 3,500 วัตต์ หน้าหนาวปกติเปิดไปที่ตำแหน่งไม่เกินเที่ยงก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้หนาวมาก จนต้องเปิดไปที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาเลย หนาวจริงจัง

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - อันนี้ตอนใช้งานตั้งใจจะเอามาให้ดูว่า ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ ครับ ไม่งั้นจะเป็นคราบแบบนี้ คราบที่เห็นมีทั้ง สบู่ แชมพู และฝุ่นก่อสร้างรวมกันครับ เผื่อเป็นข้อมูลให้คนที่อยากใช้ แต่ต้องมีเวลาดูแลรักษามันด้วยนะครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  ตอนนี้ก็มาทำห้องโถงครับ ผมไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ตลอดเวลา พอมีเวลาก็จะมาทำต่อ อยู่ที่นี่ชิลกว่าในเมืองใหญ่ ๆ อย่างกรุงเทพฯ บางทีอยากกินผัดไทยก็ขี่รถเครื่องไปได้ ต่อด้วยโรตี ตามด้วยน้ำแข็งไส ซึ่งอยู่คนละที่กันแต่มันก็เป็นไปได้ ถ้าเปรียบเทียบกับกรุงเทพฯ แล้ว ไปที่เดียวยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย ในรูปข้างบนเป็นหน้าบ้านจะเห็นว่ามีช่องใหญ่ ๆ เป็นมุ้งลวด ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนจากทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะมองจากประตูหน้าบ้าน บ้านหลังเล็ก หรือมองจากห้องโถง  ผมทำ Thought Experiment ว่าตรงช่องว่างใหญ่ ๆ นี้จะทำเป็นอะไรให้ดูเด่นขึ้น เลยวาดแบบด้วยโปรแกรมแล้วให้ร้านไม้ตีราคา มันสวยแน่ ๆ แต่ราคาไม่สวยเลย เพราะต้องใช้ไม้สักเดี๋ยวปลวกมา ตรงนี้ผมเลือกทำขึ้นมาเอง ซื้อเหล็กกล่องบาง ๆ ตัดเชื่อม ทาสี จากนั้นตัดกระจกมาใส่ ใช้เงินไปประมาณ 5,000 บาท ฝ้าเปลี่ยนเป็นฉาบเรียบทั้งที่โถงและหน้าบ้านเพื่อจะใส่ดาวน์ไลท์

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - เสร็จออกมาก็ประมาณนี้ครับ มองออกจากบ้านไปจะเห็นหมดไปจนถึงทางเข้า สามารถเปิดหน้าต่างบานสวิงออกรับลมได้ทั้งหมด 4 บาน

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ผนังด้านขวามืออยากจะทำเป็นปูนเปลือย แต่ติดปัญหาเรื่องฝีมือแรงงาน เลยขัดออกจะทาสีน้ำตาลที่ชื่อ Natural Wheat ห้องจะได้ดูมีมิติ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - สุดท้ายไม่ได้ใช้สีน้ำตาลที่ต้องการเพราะว่าสีไม่พอ เลยต้องใช้สีเดิมที่ใช้อยู่คือ Desert Floor ก็คิดว่าไม่เป็นไร สีจะได้ไม่เหลือทิ้งหรือไว้ค่อยหามาทาใหม่ก็ได้

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ตรงนี้จะมีโคมสปอตไลท์ตัวนึงเผื่อจะติดภาพหรือวางอะไรแถว ๆ นี้จะได้ใช้แสงเน้นได้ครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ตอนนี้ห้องโถงก็ออกมาเป็นเช่นนี้  โคมผ้าได้ลดราคาจากกรุงเทพฯ 200 บาท ดาวน์ไลท์ของที่บ้าน ตรงหน้าต่างบานเกล็ดว่าจะติดตั้งมู่ลี่ จะได้บังบานเกล็ดที่ไม่ค่อยจะได้เช็ดทำความสะอาดบ่อยนัก ปัจจุบันบ้านหลังนี้ก็เกือบเสร็จแล้วเหลือเก็บรายละเอียด หลังจากนั้นผมย้ายของจากบ้านหลังเล็กมาเก็บไว้ที่นี่แล้วเริ่มลงมือ ผมยังไม่ทำทางเดินเข้าเพราะต้องขนวัสดุผ่านเข้า-ออกอีกเยอะ เอาไว้ทำท้ายสุด หลังเล็กนี่ก็ซ่อมแซมแบบปกติครับ ขอไม่ลงลึกในรายละเอียดจะได้กระชับหน่อย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  รูปภายในบ้านหลังเล็ก ไม่มีภาพตอนแรกเข้าเนื่องจากไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ครับ แต่ก็สภาพปานกลางรูปนี้ตอนปูกระเบื้องเรียบร้อยแล้ว ดูสะอาดตาขึ้น ตั่งเตียงได้มาจากบ้านม้า ว่าจะเปลี่ยนสีให้เข้ม ๆ จะได้เข้าชุดกับโต๊ะเก้าอี้

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ก็ฉาบฝ้า ฉาบบาง ทำสี ปูกระเบื้องใหม่ จากเดิมเป็นพื้นปูนปิดทับด้วยเสื่อน้ำมัน ผมใช้สีน้ำตาลตรงผนังด้านทีวีจะได้ดูสบายตาหน่อย ใส่ดาวน์ไลท์ โคมไฟ ฉาบบาง และทาสี โดยจ้างช่างรายวันมาทำ ผมช่วยทำไปแล้วกำกับไปด้วยจะได้ดูรายละเอียดแถมไม่ยืดยาดด้วยครับ เฟอร์นิเจอร์ได้จากบ้านถวาย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ลานซักล้างที่เดิมตรงนี้เป็นกองหินที่เฉอะแฉะ ไม่ชอบตรงที่มีเอเลี่ยนเยอะ ซึ่งก่อนหน้านี้วางแท็งก์น้ำไว้ชั่วคราว ด้านซ้ายก่ออิฐทำบ่อน้ำตกเล็ก ๆ ใช้ปั๊มขนาด 20 วัตต์ ส่วนแท็งก์น้ำใช้เอาไปซ่อนด้านข้างบ้านครับ ที่นี้ตอนแรกในใจคิดจะทำสระแช่น้ำตื้น ๆ ขนาด 3x3 เมตร แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้แน่และเป็นภาระที่ต้องดูแลรักษา ไม่แน่ใจว่าข้างใต้เป็นบ่อเกรอะหรือไม่ เลยไม่อยากให้มีน้ำหนักมากเกินไป จึงตัดสินใจทำที่อาบน้ำและซักล้างแทน โดยเทพื้นด้วยคอนกรีต น้ำที่ไหลผ่านระแนงไม้ที่เสริมขึ้นมา ใช้รดน้ำต้นไม้ สีระแนงปัจจุบันเปลี่ยนสีใหม่ครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - มีสปอตไลท์ (AR111 LED) ติดอยู่ที่เพดานเพื่อส่องให้เงาสะท้อนกับน้ำที่ตกจากน้ำตก ฉายไปที่ผนังเป็นริ้วคลื่นครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - มาถึงแนวต้นไม้ ซึ่งเดิมเป็นต้นไม้ใหญ่ก็อยากเก็บเอาไว้ แต่จะเป็นปัญหาเรื่องดูแลรักษาและดูไม่เข้ากัน ในรูปขุดตอต้นไม้ใหญ่ครั้งที่ 2 ขุดออกทั้งต้นเลยครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - จากนั้นก็ปลูกชาฮกเกี้ยนแทนที่เพราะน่าจะไม่ต้องดูแลมาก ถูก และจะมีหลังคากึ่งโปร่งแสงคลุมอีกด้วย แสงรำไรนี้ทำให้ใบต้นชายังคงเขียวปี๋แต่ใบจะใหญ่ขึ้นครับ คงต้องรอเป็นปีถึงจะสูงขึ้นพอจะปิดกำแพง

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  สภาพตอนทำพื้นระแนงผมเลือกไฟเบอร์ซีเมนต์ครับ แม้ราคาจะใกล้เคียงกับไม้จริง ผมเช็กราคาจากโรงงานแถวลำพูน แต่กลัวปลวกเลยจบที่ไฟเบอร์ซีเมนต์ ช่วงตัดฝุ่นเยอะหน่อย ผมต้องเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดเองตอนตัด บางทีฉีดน้ำแล้วดูด ฝุ่นแทบจะไม่เล็ดลอดออกมา ดูดแล้วต้องรีบล้างเครื่อง เพราะไม่อย่างนั้นเศษจะติดค้างแข็งในเครื่องเลยล่ะ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ปูเสร็จก็รอทำสีแต่ติดตรงที่โป๊วหัวนอตให้ผมใช้สีขาว พอผมเห็นเลยรีบให้เปลี่ยนเป็นสีโอ๊กแทน ท่อน้ำทิ้งที่ผ่านใต้ระแนง นำน้ำจากซักล้างไปรดน้ำต้นไม้ได้ด้วย

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ทำสีเสร็จตรงนี้ทำสี ทาบาง ๆ 4 รอบไม่รวมรองพื้น ก็แก้ปัญหาเวลาฝนตก เฉอะแฉะ ฝุ่น และใบไม้ไปได้เยอะ ใส่หลังคาคลุมตลอดแนวระแนง แต่เว้นเหนือศาลพระภูมิไว้ เพราะเคยได้ยินว่าไม่ควรมีอะไรคลุม แต่บางท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  สภาพก่อนรีโนเวทเท่าที่หาภาพได้ ดูภาพนี้จะใกล้เคียงที่สุด เดิมต้นไม้สูงประมาณตึกสองชั้นและแผ่กิ่งก้านคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมด พอได้เปรียบเทียบหลังการทำไม้ระแนง ก็ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะทีเดียว

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ซุ้มตรงประตูหน้าบ้าน ถักเหล็กเอาไว้ปลูกไม้เลื้อยที่ให้ดอก ผมเลือกสร้อยอินทนิลกับพวงชมพู ในรูปใช้เวลา 3 เดือนโตไวประมาณนี้ ตรงประตูทางเข้ากระทู้ก่อนหน้านี้ติดใจใช้ระบบไฟฟ้า คราวนี้ลองทำแบบบานสวิงคู่ เวลาตอนกลางคืน ผมอยากได้อารมณ์รีสอร์ทเล็ก ๆ เลยต้องทำไฟส่องพื้นด้วยครับ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - เลยทำไฟสเต็ปไลท์ 6 ตัวมาติดตั้ง ใช้จุกยางสำหรับปิดขาโต๊ะ กลึงอะลูมิเนียม ใส่แอลอีดีกับเลนส์เข้าไปยึดติดกับผนัง ใช้ไฟ AC12V

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - ผลออกมาก็ถูกใจครับ ดูคล้ายพื้นระแนงในสวนของบางโรงแรมอย่างที่อยากได้

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          -  ผนังด้านนอกหลังเล็กผมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองให้ดูสดใสหน่อย เหลืองไปนิดแต่สักพักคงซีดลงกำลังดี กะว่าจะเพิ่มเทกเจอร์ทอง ๆ ให้อีกโดยใช้สีที่คนขายเชียร์ ซึ่งจะหาเวลามาลองทำแล้วแชร์ครับ ตรงนี้ติดดาวน์ไลท์เพิ่มอีก

บ้านสไตล์รีสอร์ท

          - รูปนี้เป็นประตูหน้าบ้านก็เป็นโครงประตูเหล็กแปะด้วยไม้สนกระดาน ทำสีไม้ ผมใช้แดงประดู่พ่นสลับกับทา ใช้ไม้เนื่องจากจะได้น้ำหนักเบาเพราะต้องเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เคลือบแข็งกันขึ้นราช่วงหน้าฝน และนี่ก็คือส่วนสุดท้ายของบ้านหลังนี้ที่ผมใช้เวลาช่วงหนึ่ง งบประมาณ กับความตั้งใจปรับปรุง ซึ่งอยากเล่าสู่กันฟัง และผมจะมาอัพเดทกระทู้เมื่อผมได้กลับไปที่บ้านหลังนี้ เก็บรายละเอียด และจะถ่ายรูปมาฝากเพิ่มเติม ผมขอส่งท่าน ณ ที่นี้ครับ

          ท้ายนี้มีประเด็นที่อยากจะขยายความเนื่องจากได้อ่านประเด็นที่มีการถกเถียงกันซึ่งก็คือ เรื่องเงิน เงินสำคัญครับไม่เถียงเลยว่าต้องใช้เงิน แต่ไม่อยากให้เถียงกันว่าต้องใช้เงินหรือไม่ต้อง เพราะผมก็ไม่ได้บอกเลยตั้งแต่ต้นว่าไม่ต้องใช้เงิน เราทำอะไรมันก็ต้องใช้เงิน ไม่มีเงินแม้กระทั่งหมา-แมวยังเมินเลยครับ แต่ก็อยากให้คิดครับว่าจะต้องหามาอย่างไร ไม่อยากให้คิดว่ามีเพียงเงินแล้วจะทำได้ดั่งใจทุกอย่าง ถ้าคุณหรือผมเป็นมหาเศรษฐีก็เป็นข้อยกเว้น โอกาสดี ๆ มีแต่วิ่งเข้าหา แต่ผมคิดว่าแม้แต่มหาเศรษฐีเขาก็ไม่ได้ใช้เงินบันดาลทุกสิ่งหรอกครับ เขามีการจัดการทั้งความคิดและทรัพยากรของเขาให้ยิ่งเพิ่มขึ้นไป

          หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์และสร้างความบันเทิงให้แก่ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ในงานด้านอสังหาฯ ช่าง หรือสถาปนิก ผู้ที่กำลังหาไอเดียหรือที่ผู้สนใจ แม้กระทั่งท่องเที่ยว ฯลฯ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีความพยายามและขอให้ประสบความสำเร็จครับ ขอบคุณครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Paul Likitkeereeraht สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีโนเวทบ้านเก่าสุดโทรม สู่บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมือนได้หลังใหม่ อัปเดตล่าสุด 5 กรกฎาคม 2561 เวลา 17:27:15 73,001 อ่าน
TOP