วิธีสังเกตอาการผิดปกติของตู้เย็น และวิธีซ่อมแซมหรือแก้ไขเองเบื้องต้น จะได้ไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปจ้างช่างมาซ่อมโดยไม่จำเป็น
ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก เราก็สามารถรู้ได้เองว่าตู้เย็นของเรามีปัญหาจากสัญญาณเตือนต่าง ๆ เช่น ส่งเสียงแปลก ๆ หรือแช่ของไว้นานเท่าไหร่ก็ไม่เย็นซะที ซึ่งเวลาที่ตู้เย็นเสียบางคนก็ไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องจ้างช่างซ่อมมาดูเป็นเรื่องเป็นราวหรือเปล่า คุณจึงควรรู้วิธีตรวจสอบและแก้ไขเบื้องต้นง่าย ๆ ด้วยตัวเองเอาไว้บ้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปจ้างช่างมาซ่อมโดยไม่จำเป็น ด้วยการทำตามเคล็ดลับดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันดู
1. อยู่ ๆ ตู้เย็นก็ดับไปซะเฉย ๆ
ถ้าอยู่ ๆ ตู้เย็นของคุณเกิดดับไป สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกก็คือเช็กสายไฟและปลั๊กให้ดีว่าคุณเสียบแน่นดีหรือยัง และสายไฟมีอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่า นอกจากนี้ถ้าตู้เย็นที่คุณใช้เป็นแบบที่เสียบอยู่กับปลั๊กพ่วงก็ลองเปลี่ยนไปเสียบกับปลั๊กตัวอื่นแทนดู เพราะปลั๊กพ่วงอาจเป็นตัวที่เสียเองก็ได้ ซึ่งสุดท้ายถ้าลองเปลี่ยนปลั๊กแล้วยังไม่ได้ก็คงต้องลองเรียกช่างซ่อมมาดูแล้วล่ะ
2. แสงยังเปิดได้อยู่แต่ตู้เย็นไม่ทำงาน
ก่อนอื่นคุณควรมั่นใจว่าตู้เย็นของคุณอยู่ห่างจากผนังอย่างน้อย 1 นิ้ว เพราะถ้าตู้เย็นอยู่ติดกับผนังก็จะระบายอากาศออกได้ลำบากจนทำให้ตู้เย็นทำงานได้ไม่ดีตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ดีขึ้นคุณควรลองถอดปลั๊กให้เรียบร้อยและถอดแผงคอยล์ออกมาทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นเล็ก ๆ ดู ซึ่งอาจช่วยให้ตู้เย็นกลับมาทำงานได้คล่องขึ้นเหมือนเดิมจากการที่แผ่นคอยล์ในตู้เย็นกลับมาระบายอากาศได้สะดวกอีกครั้ง หรืออาจลองวิธีธรรมดาสุด ๆ ด้วยการถอดปลั๊กตู้เย็นออกทิ้งไว้สัก 2 ชั่วโมง แล้วค่อยเสียบใหม่อีกครั้งก็ได้ ถ้าวิธีนี้ได้ผลอาจหมายความว่าก่อนหน้านี้ตู้เย็นของคุณทำงานหนักเกินไปจนเครื่องร้อนแล้วก็ได้ ดังนั้น ควรตามช่างมาดูเพื่อความแน่ใจด้วย
3. ไฟตู้เย็นเสีย
ปัญหาเรื่องนี้ค่อนข้างเล็กน้อยและไม่ค่อยจะเกี่ยวกับวงจรทำงานของตู้เย็นสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเพียงแค่เปลี่ยนหลอดไฟหรือสวิตช์เสียใหม่ เท่านี้ไฟในตู้เย็นของคุณก็จะกลับมาสว่างเหมือนเดิมได้ง่าย ๆ แล้วล่ะ
4. ตู้เย็นทำงานแต่ไม่เย็นซะที
ถ้าตู้เย็นของคุณเย็นไม่พอจนทำให้ไอติมละลายก่อนที่จะได้กินไปซะทุกครั้งจนน่าหงุดหงิด ลองแก้ปัญหาด้วยการละลายน้ำแข็งในตู้ดู เพราะบางทีพวกเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะติดตู้เย็นก็อาจไปเกาะอยู่บนช่องลมหรือตามที่อื่น ๆ จนทำงานไม่สะดวกก็ได้ ทั้งนี้ ไหน ๆ กดละลายน้ำแข็งแล้วก็ควรถือโอกาสทำความสะอาดตู้เย็นด้วยการกำจัดของหมดอายุต่าง ๆ และเช็ดชั้นวางของให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
5. ตู้เย็นติด ๆ ดับ ๆ
ปัญหาแบบนี้ก็คล้าย ๆ กับปัญหาที่ตู้เย็นไม่ทำงานนั่นแหละ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ก็คล้าย ๆ กัน คือคุณควรถอดปลั๊กแล้วเอาแผ่นคอยล์ออกมาทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กหรือใช้แปรงปัดฝุ่นดู ถ้าลองวิธีแบบเดียวกับการแก้ปัญหาตู้เย็นไม่ทำงานแล้วยังไม่ได้ผล คุณก็อาจต้องจ้างช่างซ่อมมาช่วยดูให้
หากคุณอยากประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมตู้เย็น ลองทำตามวิธีการเหล่านี้ดู ข้อสำคัญ ! อย่าลืมถอดปลั๊กให้เรียบร้อยก่อนลองซ่อมตู้เย็นทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วยนะคะ แต่ถ้าหากไม่ได้ผลจริง ๆ คุณก็จำเป็นต้องเรียกช่างที่ชำนาญมาแก้ไขให้แล้วล่ะจ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก : appliancemechanics.com และ kitchen-arena.com.my