บ้านกำลังจะโดนยึด ทำยังไงดี ? มาดูวิธีเซฟบ้านให้ปลอดภัย ป้องกันการโดนธนาคารยึด จนกว่าจะสามารถชำระหนี้หมด ให้บ้านเป็นของเราอย่างแท้จริง
1. จัดอันดับความสำคัญในการชำระหนี้
หากตอนนี้คุณประสบปัญหาด้านการเงิน จนต้องเรียงลำดับการผ่อนชำระหนี้ของตัวเองอย่างรอบคอบ ก็พยายามผ่อนจ่ายหนี้เงินกู้บ้านให้เรียบร้อยก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนหนี้บัตรเครดิต และหนี้อื่น ๆ ค่อยทยอยผ่อนชำระเป็นลำดับต่อไป เนื่องจากส่วนมากแล้วระยะเวลาในการชำระหนี้บัตรเครดิต มักจะมีระยะเวลาให้คุณได้พักหายใจหายคอ หรือมีการผ่อนชำระขั้นต่ำ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินจริง ๆ แต่ทางที่ดีกันเงินไว้ให้เพียงพอต่อการผ่อนชำระหนี้ทุกอย่างจะปลอดภัยที่สุดนะคะ
2. เจรจาขอประนอมหนี้
หากถึงเวลาที่คุณจวนตัวมาก ๆ และเสี่ยงจะถูกยึดบ้านอยู่รอมร่อ คงจะดีกว่าหากจะเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงินที่คุณกู้เงินมาซื้อบ้าน เพื่อขอผ่อนปรนการชำระหนี้ หรืออย่างน้อยก็ขอขยายเวลาการชำระหนี้ไปก่อน แต่อาจจะต้องแลกกับค่าธรรมเนียมหรืออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือหากใครอยากจะรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่นที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารที่ขอกู้อยู่ ก็ได้เช่นกันค่ะ
3. ติดต่อธนาคารทันที หากไม่สามารถผ่อนหนี้ได้
ปกติแล้วธนาคารผู้ให้เงินกู้เองก็ไม่อยากยึดทรัพย์ หรือยึดบ้านผู้กู้อยู่แล้ว ดังนั้นหากคุณรู้ตัวว่าเดือนนี้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้จำนวนเต็มได้แน่ ๆ ให้ติดต่อธนาคารผู้ให้กู้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีจดหมายทวงหนี้ส่งมาถึงบ้านก่อน และการไปเจรจากับธนาคารในหนนี้ คุณก็จำเป็นต้องเตรียมเอกสารการเงิน ที่สามารถยืนยันสถานภาพทางการเงินของคุณได้ไปด้วย เพื่อให้ทางธนาคารเชื่อถือเครดิตของคุณ และยอมผ่อนปรนให้คุณผ่อนขยายเวลาชำระหนี้ ซึ่งทางธนาคารอาจจะใจดีผ่อนปรนงดเก็บหนี้ประมาณ 1-6 เดือน หรือสูงสุด 1-2 ปี และอีกกรณีก็อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยให้คุณนานสูงสุด 18 เดือนเลยก็ได้
4. ขอปรับโครงสร้างเงินกู้
หากสถานการณ์ทางการเงินของคุณมีการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร มาตรการชั่วคราวอาจจะไม่เพียงพอ ในกรณีนี้น่าจะลองพยายามเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างการจำนองหรือการกู้ยืมเงิน ซึ่งการปรับโครงสร้างก็สามารถทำได้หลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปอาจจะเน้นหนักไปที่การขยายระยะเวลาของเงินกู้ เพื่อให้คุณผ่อนชำระหนี้ในอัตราที่ต่ำกว่า หรือลดอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมเงิน
5. ยื่นจดหมายขอผ่อนชำระหนี้
บางครั้งการเจรจาขอผ่อนชำระหนี้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารทางโทรศัพท์อาจจะเกิดความคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้นเพื่อความแน่นอนของข้อมูล และเจตจำนงของคุณ จึงควรจะร้องขอเอกสารการผ่อนชำระหนี้จากธนาคาร แล้วนำไปยื่นเป็นเอกสารยืนยันให้ชัดเจนจะดีกว่า
6. รีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน
การรีไฟแนนซ์เป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาบ้านถูกยึดได้ แต่ก่อนจะรีไฟแนนซ์ควรตรวจสอบข้อมูลธนาคารใหม่ให้ดี และพิจารณาผลได้ ผลเสียให้รอบคอบด้วย เพราะมีหลายกรณีที่รีไฟแนนซ์ไปแล้ว แต่เกิดปัญหาหนักกว่า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงกว่าที่คาดไว้ ทำให้คุณเสี่ยงถูกยึดบ้านอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
7. ลดภาระค่าใช้จ่าย
หากรู้ตัวว่าสถานภาพทางการเงินไม่ได้มั่นคงอย่างเก่า คงดีกว่าหากคุณจะลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และยอมตัดใจขายทรัพย์สินบางอย่างเพื่อให้มีเงินเพิ่มขึ้นบ้าง เช่น อาจจะยอมตัดใจขายรถ แล้วหันไปใช้บริการขนส่งมวลชนแทน ซึ่งนอกจากจะเป็นวิธีลดค่าใช้จ่ายแล้ว คุณยังจะได้เงินก้อนโตมาโปะค่าผ่อนบ้านอีกด้วย
8. ประกาศขายบ้าน
ในเมื่อไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ไหวอีกต่อไปแล้ว ก็น่าจะประกาศขายบ้านไปเลย อย่างน้อยก็ยังได้เงินก้อนใหญ่ไปโปะหนี้เงินกู้บ้าน แล้วค่อยผ่อนชำระส่วนต่างที่เหลือต่อภายหลัง ซึ่งคุณเองก็จะไม่มีประวัติถูกยึดทรัพย์ ให้เสียเครดิตทางการเงินต่อไปในอนาคต และแม้ว่าการขายบ้านอาจจะเป็นตัวเลือกที่ทำให้คุณขาดทุนไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าถูกยึดบ้านนะจ๊ะ
9. ยอมเป็นบุคคลล้มละลาย
สำหรับกรณีที่หมดหนทางจริง ๆ คุณอาจจะต้องยอมให้ศาลฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย เพราะหากธนาคารส่งฟ้องให้คุณเป็นบุคคลล้มละลาย และคุณเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบในชีวิตมากนัก ไม่มีความจำเป็นต้องทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ (อาจให้คนในครอบครัวทำธุรกรรมการเงินแทน) คุณก็มีสิทธิ์ไม่สู้คดี ไม่ประนอมหนี้ แล้วปล่อยให้ธนาคารยึดบ้านและที่ดินไป ในกรณีนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องผ่อนชำระหนี้เงินกู้ที่เหลืออยู่ เพียงแต่ต้องยอมเป็นบุคคลล้มละลายเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนะจ๊ะ
10. ยกบ้านให้ธนาคาร
ในกรณีนี้คุณอาจจะขอเจรจายกบ้านให้เป็นทรัพย์สินของธนาคาร เพื่อให้เขาช่วยขายบ้านให้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ฝากบ้านให้ธนาคารช่วยขายให้นั่นเอง ซึ่งย่อมจะขายออกได้เร็วกว่าคุณประกาศขายเองแน่นอน แต่ยื่นข้อเสนอให้เขายกดอกเบี้ย หรือเงินส่วนต่างจากการขายบ้านให้คุณซะ และขออาศัยอยู่ในบ้านนั้นไปจนกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเครดิตว่า ถูกยึดทรัพย์สิน และยังจะช่วยตัดปัญหาหนี้เงินกู้บ้านได้ด้วย
หากใครกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เป็นลูกหนี้เงินกู้จากธนาคาร ก็ควรศึกษาวิธีเลี่ยงถูกยึดบ้านเอาไว้บ้าง เพื่อจะได้เรียนรู้ และป้องกันการถูกยึดทรัพย์โดยธนาคาร ให้เราผ่อนชำระหนี้บ้านจนเป็นบ้านของเราในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : krungsri.com และ สำนักงานกิจการยุติธรรม