วิธีแก้ปัญหาสนามหญ้าไม่เขียวชอุ่ม ต้นหญ้าแห้งเหี่ยวไร้ชีวิตชีวา เริ่มได้ง่าย ๆ แค่หยุดทำร้ายสนามหญ้าแค่นั้นเองนะคะ แต่ถ้าไม่รู้ว่าสนามหญ้าไม่ชอบให้เราทำอะไรกับเขาบ้างลองมาดูกัน
บ้านไหนมีสนามหญ้าเอาไว้เพิ่มความชิล แน่นอนว่าคงต้องมีภาระในการดูแลสนามหญ้าให้เขียวชอุ่มเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เอ๊ะ ไม่รู้ว่าดูแลสนามหญ้าอย่างไร ทำไมสนามหญ้าถึงได้เหี่ยวเฉา ไร้ความมีชีวิตชีวาแบบนี้ละเนี่ย เฮ้อ...หรือจะเป็นเพราะว่าคุณทำร้ายสนามหญ้าด้วย 9 สิ่งต่อไปนี้กัน รีบไปเช็กด่วนเลย
1. ตัดหญ้าสั้นเกินไป
การตัดหญ้าให้สั้นกุดเกินไปเป็นการทำร้ายระบบรากของหญ้าทางอ้อม คราวนี้ต้นหญ้าก็จะอ่อนแอ เป็นโอกาสให้วัชพืชแทรกแซงสนามหญ้าได้ง่าย ๆ ฉะนั้นความสั้น-ยาวในการตัดหญ้าควรอยู่ที่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของความยาวต้นหญ้า ซึ่งก็อาจจะทำให้หญ้าโตเร็ว โดยเฉพาะในหน้าฝนแบบนี้ แต่เราก็แค่ตัดหญ้าให้บ่อยขึ้นแค่นั้นเองนะคะ
2. ไม่คลุมหน้าดิน
ใคร ๆ ก็อยากมีสนามหญ้าที่เรียบโล่งกันทั้งนั้นจริงไหมคะ แต่หากสภาพต้นหญ้าของเรายังไม่แข็งแรงพอที่จะอยู่ได้เดี่ยว ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาการคลุมหน้าดิน คงปล่อยให้สนามหญ้าเรียบโล่งไม่ได้แล้วล่ะ ดังนั้นทางที่ดีควรคลุมหน้าดินให้ต้นหญ้าสักหน่อย เพื่อคงความชุ่มชื้นในดินให้มีมากพอไปหล่อเลี้ยงต้นหญ้าได้อย่างเต็มที่ ต้นหญ้าทุกต้นจะได้เขียวชอุ่มอวดสุขภาพดีและดูสดชื่นสุด ๆ ไปเลย
3. ตัดหญ้าในขณะที่ต้นหญ้าเปียกชื้น
เพราะความชื้นจะทำให้ต้นหญ้าอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมากกว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้คุณตัดหญ้าได้ลำบากกว่าตอนที่ต้นหญ้าแห้งสนิทดี และเมื่อเราต้องใช้ความพยายาม และเวลาที่นานขึ้นในการตัดหญ้า หน้าดินก็จะถูกอัดแน่นไปด้วยโดยไม่รู้ตัว สารอาหาร และน้ำในดินก็จะโดนหางเลขไปด้วยง่าย ๆ สุดท้ายต้นหญ้าก็ไม่เติบโตอย่างเต็มที่นั่นเอง
4. ใส่ปุ๋ยบำรุงมากเกินไป
ไนโตรเจนเป็นสารบำรุงต้นหญ้าที่ดีที่สุดก็จริง แต่หากคุณอัดปุ๋ยไนโตรเจนให้สนามหญ้ามากเกินไปคงไม่ค่อยดีกับต้นหญ้าเท่าไร เพราะนอกจากจะทำลายรากหญ้าแล้ว สารตกค้างจากปุ๋ยยังอาจเปลี่ยนค่า pH ในดิน ทำให้ดินกลายเป็นพิษสำหรับต้นหญ้าซะอย่างนั้นเลยก็ได้ เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไป ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นหญ้าแค่พอดี ๆ เท่านั้นก็พอ ที่สำคัญอย่าลืมเลือกชนิดปุ๋ยให้เหมาะกับชนิดต้นหญ้าที่คุณปลูกด้วยนะจ๊ะ
5. ใช้มีดทื่อตัดหญ้า
หลายคนตัดหญ้าโดยไม่ได้สังเกตความคมของใบมีด บางทีเลยใช้ใบมีดทื่อ ๆ ตัดต้นหญ้าโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการใช้ใบมีดที่ไม่คมตัดหญ้าก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หญ้าเสียโอกาสรับแสงแดด และสารบำรุงอย่างเต็มที่ได้เหมือนกันนะคะ เนื่องจากแทนที่ต้นหญ้าจะขาดอย่างสมบูรณ์ ก็อาจจะเกิดรอยหยัก และเหลือส่วนต้นหญ้าเซลล์เก่าอยู่
6. กำจัดวัชพืชด้วยสารเคมี
ผู้เชี่ยวชาญชี้แจงว่า สารเคมีที่อยู่ในยากำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าแมลงมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบของสนามหญ้าโดยตรง ทั้งขัดขวางการไหลเวียนของน้ำและธาตุอาหารในดิน และเป็นพิษกับต้นหญ้า คน และสัตว์อีกต่างหาก ดังนั้นแทนที่จะใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและแมลง ก็หันมาใช้วิธีธรรมชาติกำจัดศัตรูต้นหญ้าดีกว่าเนอะ
7. ตัดหญ้าไม่ถูกเวลา
อย่างที่บอกว่าการตัดหญ้าที่ถูกต้องควรต้องทำในขณะที่ต้นหญ้าแห้งสนิทดี แต่ทั้งนี้ก็ควรเลี่ยงช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ ไปด้วยนะคะ เพราะช่วงนี้นอกจากจะร้อนทั้งคน และต้นหญ้าแล้ว ความร้อนระอุยังจะทำให้ต้นหญ้าอยู่ในสภาพไม่พร้อมจะถูกกระทำด้วยอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดหญ้า หรือการรดน้ำต้นหญ้าก็ตาม
8. รดน้ำน้อยเกินไป
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ต้นหญ้าเป็นพืชที่ค่อนข้างชอบน้ำในระดับปานกลาง ซึ่งการรดน้ำในแต่ละครั้งควรปล่อยให้หญ้ามีเวลาดูดซับน้ำไปใช้ในกระบวนการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ดังนั้นก็ควรรดน้ำสนามหญ้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือจะหมั่นรดน้ำทุกเช้า-เย็นให้สนามหญ้าพอชุ่ม เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ต้นหญ้าเขียวชอุ่ม ปราศจากวัชพืชก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็อย่าให้น้ำเยอะเกินด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาต้นหญ้าเป็นสีน้ำตาล เนื่องจากเกิดเชื้อราขึ้นในดินเอาได้
9. ปล่อยให้เห็ดขึ้นบนสนามหญ้า
แม้ว่าเห็ดบางชนิดที่ขึ้นในสนามหญ้าของคุณจะไม่ใช่เห็ดมีพิษ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าควรจะปล่อยให้เห็ดขึ้นแซมสนามหญ้าได้ตามสบายนะคะ เพราะอย่าลืมว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดเห็ดก็คือ เชื้อรา และความชื้น ซึ่งทั้งหมดก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของสนามหญ้าเราเลยทีเดียว ฉะนั้นหากเจอเข้ากับเห็ดไม่ว่าจะชนิดไหนก็ตาม นั่นก็แสดงว่าสนามหญ้าของคุณกำลังมีปัญหาเชื้อราและความชื้นมาก่อกวน และเราควรหาทางแก้ไขโดยด่วน ด้วยการหาทางระบายน้ำในดินเพิ่มขึ้น หรือลดปริมาณน้ำลงด้วยก็ดี
หากสนามหญ้าของคุณมีปัญหาจุกจิกเกิดขึ้นเป็นประจำ ลองสำรวจดูนะคะว่า คุณมีพฤติกรรมทำร้ายสนามหญ้าอย่างนี้อยู่หรือเปล่า และถ้ารู้ตัวแล้วก็รีบแก้ไขโดยทันทีเลยดีกว่า
