ดับกลิ่นบุหรี่ในห้องและที่อบอวลไปทั้งบ้านอย่างไรให้หมดจด ปัญหากลิ่นบุหรี่คละคลุ้งอยู่ทั่วบ้านคงเป็นประเด็นที่น่าปวดหัวไม่เบา ถ้าอย่างนั้นมาลองทำตามวิธีกำจัดกลิ่นบุหรี่ออกจากบ้านกันค่ะ
กลิ่นบุหรี่เป็นสิ่งที่เราเจอกันแทบทุกวัน แม้เราเองจะไม่ใช่สิงห์อมควันแต่คนรอบข้างที่สูบบุหรี่ก็เหมือนจะอยู่รายล้อมรอบตัวเราไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง ฉะนั้นปัญหากลิ่นบุหรี่ที่ปะปนไปกับอากาศบริสุทธิ์คงเป็นเรื่องที่หนีกันไม่ค่อยพ้น โดยเฉพาะหากสมาชิกในบ้านเป็นคนสูบบุหรี่ซะเองด้วย เราก็เชื่อว่าคุณคงต้องการวิธีดับกลิ่นบุหรี่ในห้องอยู่เหมือนกัน ว่าแล้วก็ไปกำจัดกลิ่นบุหรี่ออกจากบ้านด้วยวิธีต่อไปนี้กันเลย
1. เปิดหน้าต่างไล่กลิ่นบุหรี่
การระบายอากาศภายในบ้านเป็นวิธีที่ช่วยไล่กลิ่นบุหรี่ได้ดีที่สุด พร้อมกันนั้นให้คุณเสริมกำลังขับไล่บุหรี่เข้าไปอีก โดยเทน้ำส้มสายชูกลั่นบริสุทธิ์ใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วนำไปวางตามจุดต่าง ๆ ในบ้านให้ทั่ว (พยายามวางให้พ้นมือเด็กและห่างรัศมีของสัตว์เลี้ยง) ความฉุนของน้ำส้มสายชูจะช่วยกลบกลิ่นเหม็นจากบุหรี่ได้อีกแรงหนึ่ง ทว่าหากมีน้ำหอมปรับอากาศฉีดพ่นให้ทั่วบ้านด้วยก็จะช่วยไล่กลิ่นบุหรี่ได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ
2. ทำความสะอาดฝ้าและเพดาน
ไล่กลิ่นบุหรี่ไปก็แล้วแต่ยังได้กลิ่นบุหรี่อยู่จาง ๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะกลิ่นบุหรี่มีอานุภาพมากพอจะเกาะติดอยู่ที่ฝาผนังและฝ้าของบ้านคุณ ดังนั้นสองจุดนี้ก็ควรต้องได้รับการเยียวยาด้วย โดยอาจจะต้องทาสีใหม่ ซึ่งอยากให้เลือกใช้สีที่ีมีส่วนผสมของแอมโมเนียและไกลคอล (glycol) เพราะเป็นสารเคมีที่ช่วยดับกลิ่นเหม็นของบุหรี่ได้หมดจด ทว่าในระหว่างที่ทาสีผนังและฝ้าใหม่ ควรปิดจมูก สวมถุงมือ และกันเด็ก คนแก่ สัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ชั่วคราว ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง
3. ซักพรมให้หมดจด
สำหรับบ้านที่ปูพรมไว้ กลิ่นบุหรี่อาจติดหนึบอยู่กับพรมแบบจาง ๆ ฉะนั้นควรต้องทำความสะอาดพรมให้หมดจดไปพร้อม ๆ กับทำความสะอาดพื้นบ้านในบริเวณนั้นด้วย โดยโรยเบกกิ้งโซดาลงบนพรมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือนานกว่านั้นหากกลิ่นบุหรี่ค่อนข้างรุนแรง จากนั้นให้ทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นอีกรอบ หรือหากมีน้ำยาซักแห้งพรมก็ใช้ร่วมด้วยก็ได้
4. ถูพื้นบ้านและทำความสะอาดประตู
งานต่อไปมาเริ่มกันที่พื้นบ้านก่อน เนื่องจากก้นบุหรี่และกลิ่นบุหรี่อาจแทรกซึมลงไปในพื้นกระเบื้องได้ โดยเฉพาะกับพื้นไม้ที่จะได้รับผลกระทบจากกลิ่นบุหรี่ยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งการทำความสะอาดพื้นบ้านก็สามารถใช้วิธีตามปกติได้ค่ะ เพียงแต่อาจต้องถูซ้ำหลายรอบสักหน่อยเท่านั้นเอง นอกจากนี้ประตูบ้านที่เป็นประตูไม้ก็ต้องเช็ดทำความสะอาดไปด้วยนะคะ และถ้าจะให้ได้ผล ผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 กะละมังด้วยก็ดี เบกกิ้งโซดาจะได้ช่วยดูดซับกลิ่นบุหรี่อีกแรง
5. ซักม่านและมูลี่
หากผ้าม่านของคุณสามารถซักได้ ให้ปลดออกมาซักด้วยน้ำร้อน โดยผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงลงไป พร้อมกับน้ำยาซักผ้าด้วย ทว่าก่อนซักควรทดสอบความรุนแรงของน้ำส้มสายชูกับปลายผ้าม่านก่อนนะคะ ส่วนผ้าม่านหรือมูลี่ที่ไม่ใช่ผ้า ให้นำไปแช่ในน้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง นาน 15 นาที จากนั้นก็ล้างตามปกติ
6. เช็ดกระจกและหน้าต่าง
ผสมน้ำ 1 กะละมัง กับน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง เสร็จแล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำ บิดให้หมาด แล้วจัดการเช็ดหน้าต่างทุกซอกทุกมุม แต่ในส่วนที่เป็นกระจกจะใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ทำความสะอาดก็ได้ แต่น้ำยาเช็ดกระจกขอเป็นน้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นนะจ๊ะ
กลิ่นบุหรี่ไม่ได้ทำลายแค่บรรยากาศในบ้านเท่านั้น แต่ยังปะปนไปด้วยสารพิษที่อาจส่งผลกระทบมาถึงสุขภาพของเราได้ ฉะนั้นหากในบ้านของคุณมีกลิ่นบุหรี่อบอวลอยู่ในตอนนี้ ลองทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่อย่างที่เราแนะนำกันไปก็ได้นะคะ ที่สำคัญควรจัดสถานที่สำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้เป็นสัดส่วน โดยเลือกใช้สถานที่โล่ง ๆ ระบายอากาศได้ดี แค่นี้กลิ่นบุหรี่ก็จะไม่ไประรานภายในบ้านของคุณอีกต่อไปแล้วล่ะ
