แม้สายฝนจะมาพร้อมกับความสดชื่น แต่หากชะล่าใจไม่ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี ก็อาจโดนโรคร้ายถามหาได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นมาเตรียมตัวจัดบ้านป้องกันโรคกันก่อน ก่อนที่จะมีใครในบ้านป่วยกันดีกว่า
ก่อนโรคร้ายที่มาพร้อมกับฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดเอย ฉี่หนูเอย หรือโรคร้ายอื่น ๆ จะทำให้คนในบ้านค่อย ๆ ล้มหมอนนอนเสื่อกันไปทีละคนสองคน ตอนนี้เรามาเตรียมพร้อมรับมือกันตั้งแต่เนิ่น ๆ กันดีกว่ากับ วิธีจัดบ้านต้านโรคฤดูฝนที่เว็บไซต์ Terrabkk นำมาฝากกันในวันนี้ เพื่อปกป้องตัวเองและคนในครอบครัวให้มีสุขภาพดี ห่างไกลจากโรคร้าย ตลอดฤดูฝนในปีนี้
ฤดูฝนเป็นเวลาที่ต้นไม้เขียวสดชื่นที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่คนเจ็บไข้ได้ป่วยกันมากที่สุด โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่สุขภาพไม่แข็งแรง ทำให้ติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย โรคที่มากับฝนในประเทศไทย หลัก ๆ แล้วมีด้วยกัน 3 กลุ่มคือ
1 กลุ่มโรคที่พบได้ทั่วไป เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม
2. กลุ่มโรคที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และต้องเฝ้าระวังในช่วงหน้าฝน เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ
3. กลุ่มโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เช่น โรคฉี่หนู โรคปอดบวม โรคมาลาเรีย โรคเหล่านี้ หลายโรคเกิดขึ้นเพราะที่อยู่อาศัยเอื้อต่อการเกิดโรค หรือทำให้สุขภาพอ่อนแอลง
1. กำจัดแหล่งน้ำขัง
หน้าฝนทีไรโรคไข้เลือดออกระบาดทุกที นั่นเป็นเพราะยุงลายซึ่งเป็นพาหะของไข้เลือดออกหาที่วางไข่ได้ง่ายขึ้น หากรอบบ้านมีแหล่งน้ำขัง เช่น กระถางต้นไม้แตก ๆ ท่อเก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้ววางทิ้งไว้เฉย ๆ หรือสิ่งใดก็ตามที่กักน้ำไว้ได้ ล้วนแต่เป็นแหล่งอนุบาลลูกน้ำยุงลายทั้งสิ้น
ซึ่งตามธรรมชาติแล้วยุงลายชอบวางไข่ในน้ำนิ่งและตื้น การลดความเสี่ยงต่อไข้เลือดออกคือ ต้องคว่ำกระถางหรือวัสดุขังน้ำเหล่านี้ให้หมด หากเป็นวัสดุขนาดใหญ่ เช่น อ่างบัว น้ำพุต่าง ๆ ควรใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูเพื่อป้องกันยุงลายวางไข่ และต้องไม่ลืมสำรวจในบ้านว่ามีแจกัน จานรองขาตู้ ที่ยุงจะวางไข่ได้หรือไม่และจัดการแบบเดียวกัน
2. ทำเสื้อผ้าให้แห้ง
ฤดูฝนมาทีที่ตากผ้าให้แห้งก็หายาก บางทีตากไว้ 3 วันก็แล้ว 5 วันก็แล้ว แถมพอแห้งยังมีกลิ่นตุ ๆ อีกต่างหาก ปัญหาผ้าอับชื้นไม่ได้มีผลเสียเฉพาะเรื่องกลิ่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อราที่ผิวหนังอีกด้วย
3. อุดรอยรั่ว
ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ฝ้า เพดาน ที่ฝนมีโอกาสจะสาดหรือรั่วเข้ามาในบ้านได้ รอยรั่วเหล่านี้จะสร้างปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเมื่อฝนตกและเกิดรอยรั่วขึ้น นอกจากจะทำให้บ้านเปียก ห้องชื้น ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในห้องนั้นเจ็บป่วยง่ายแล้ว น้ำอาจซึมอยู่ในวัสดุบางอย่าง เช่น ไม้เทียมที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้างบ้าน บางชนิดเมื่อโดนน้ำแล้วจะพองเสียหาย และอาจเกิดเป็นเชื้อราขึ้นมาได้
ซึ่งวิธีป้องกันสำหรับข้อนี้คือ ควรสำรวจหารอยรั่วและข้อบกพร่องต่าง ๆ ของบ้าน และจัดการซ่อมแซมให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนฤดูฝน
4. จัดการกับหนู
โรคฉี่หนูระบาดมากในช่วงฤดูนี้ พาหะของมันคือหนูบ้านตัวเล็ก ๆ ที่เราหลายคนต่างก็รังเกียจกันอยู่แล้ว หนูบ้านเป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์เร็วมาก หากมีหนูหนึ่งคู่เข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับคุณ มันจะสามารถเพิ่มประชากรเป็น 20 ตัวได้ในเวลาไม่ถึง 3 เดือน หนูบ้านเป็นหนูที่สกปรก และชอบอยู่ตามซอกตามมุมบ้าน หนักกว่านั้นหลายตัวอยู่บนหลังคาบ้านซึ่งเป็นจุดที่ฝนอาจจะรั่วลงมาได้
ซึ่งวิธีกำจัดหนูมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวางยา พ่นควัน ทำเสียงดังไล่ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ ไม่ให้บ้านมีมุมอับหรือซอกเล็กซอกน้อย เพราะหนูจะปักหลักอยู่ในที่ ๆ มีอาหารและซอกเล็ก ๆ ให้หลบซ่อนตัว
5. ไม่หมักหมม
ฤดูฝนเป็นฤดูที่อะไร ๆ ก็ชื้นไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ที่นอนหมอนมุ้ง ผ้าห่ม พรมปูพื้น หากไม่ดูแลให้ดีหมัก ๆ ไว้ การเกิดโรคต่าง ๆ ก็จะเป็นไปอย่างง่ายดายมาก ดังนั้นหากวันไหนโชคดีแดดจัด การขนเอาทุกอย่างไปซักและตากแดดฆ่าเชื้อจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคได้มากทีเดียว
การดูแลบ้านให้เหมาะกับหน้าฝนคือการดูแลบ้านให้สะอาดและอยู่ในสภาพดีเสมอ หากสามารถทำได้ตามนี้ บ้านของคุณจะเป็นบ้านที่อบอุ่นและดีต่อสุขภาพตลอดทั้งหน้าฝนแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก