
รีโนเวทห้องแถว 2 ห้อง อายุ 30 ปี ให้เป็นบ้านและร้านมินิมาร์ท สีสันสดใส ใครเห็นก็ต้องแวะมอง ไปดูกันว่าจากห้องแถวทั้งเก่าและโทรม กลายเป็นบ้านเป็นมินิมาร์ทแสนสวยได้ยังไง !
รีวิวรีโนเวทห้องแถวอายุ 30 ปี ให้เป็นบ้านและมินิมาร์ท จาก คุณ Going Solo69 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ตามไปชมกันว่าจากห้องแถวทั้งเก่าและโทรม ถูกแปลงโฉมไปอย่างไรบ้าง กว่าจะกลายเป็นทั้งบ้านและร้านมินิมาร์ทหลังนี้ ขอบอกเลยว่ามันไม่ง่าย แถมอุปสรรคก็เยอะทั้งเรื่องคนและเรื่องเงิน แต่แล้วในที่สุดก็ทำสำเร็จ จนเธอคนนี้ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจหลังจากได้ฤกษ์เปิดร้านกับเขาเสียที
สวัสดีค่ะ จุดประสงค์ของการทำรีวิวครั้งนี้คืออยากแชร์ประสบการณ์รีโนเวทบ้านและร้านค้าของตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ เราจะเล่าแบบลงวันที่ไว้นะคะ เพราะจริง ๆ ตั้งแต่เริ่มทำเราเขียนไดอารี่ไว้ในเฟซบุ๊ก สรรพนามในกระทู้มี 2 อย่างนะคะคือ เราและต่าย ใช้ปน ๆ กันไป (บอกก่อนเดี๋ยวจะงง) เชิญชมได้เลยจ้า

- ร้านนี้เดิมเป็นสมบัติของคุณปู่ค่ะ คุณปู่ยกให้พ่อ
แล้วพ่อก็ยกให้เรากับสามีหลังแต่งงาน สามีเราเป็นคนเกาหลีค่ะ
ก็คิดกันว่าจะทำร้านอะไรดี คิดหลายอย่าง ตอนแรกก็ว่าจะร้านกาแฟ
แต่ก็ดูกลุ่มเป้าหมายก็ไม่ค่อยจะตรงกับคนแถวนั้นเท่าไร
เลยมาลงเอยด้วยร้านมินิมาร์ทชื่อแฮปปี้ มาร์ท (Happy Mart) ค่ะ
เดิมเป็นห้องแถวติดกันสองห้องก่อนเราจะมาทำ พ่อเราให้เขาเช่าค่ะ
สภาพคือเยินมาก ๆ เรากับสามีขึ้นไปดูตกใจมาก เพราะทั้งเก่าและสกปรกมาก
คนเช่าเขาไม่ดูแลให้เลย เขาเช่าอยู่นั่นก็มากกว่า 20 ปีแล้วค่ะ
เป็นคนเก่าแก่ที่นั่น ตอนให้เขาออกก็สงสารอยู่
แต่เราก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ก็ต้องทำมาหากินอะเนาะ

เริ่มต้นวางแผน
1. คิดดีไซน์สีของร้าน
เราอยากให้มินิมาร์ทของเราแตกต่างจากร้าน 7-11, family mart
หรือร้านค้าโชว์ห่วยอื่น ๆ เราเลยมานั่งวิเคราะห์ค่ะว่า
อะไรที่มันเหมือนกันไปหมดบ้าง เราจะไม่ทำแบบนั้น หลัก ๆ
คือชั้นวางของกับเคาน์เตอร์ค่ะ เราอยากได้อารมณ์ไม้ ๆ สีโอ๊กอ่อน ๆ หน่อย
วัสดุที่ใช้หลัก ๆ ก็เป็นไม้ ส่วนเรื่องโลโก้ โทนสี
เราเลือกเป็นสีส้มและเขียวน้ำทะเลค่ะ ดูเข้ากันดี
2. ออกแบบแปลนร้านคร่าว ๆ เพราะว่าเราต้องทำใหม่หมด มันเป็นห้อง 2 ห้อง ต้องทุบผนังกลางออกรวมเป็นห้องเดียว ก็ทำไปแก้ไปจนกว่าที่จะพอใจ ขอบอกว่าเหนื่อยมาก เนื่องจากเราไม่มีความรู้ทางด้านการก่อสร้าง ต้องอาศัยถามคนอื่นและหาอ่านในอินเทอร์เน็ตค่ะ เช่น ต้องถมดินสูงเท่าไรถึงจะดี การเดินท่อน้ำเป็นยังไง หลังคายังไง แบบไหน กระเบื้องยังไง ห้องน้ำทำใหม่อยากได้เป็นแนวไหน เราใช้โปรแกรม Sketch up ทำ ไม่ยากมากค่ะ ตอนแรกถามเพื่อนให้เพื่อนช่วยหาสถาปนิกจะให้มาออกแบบแปลนให้แต่ราคาค่อนข้างสูง เลยตัดสินใจเอาตามที่เราออกแบบนี่แหละค่ะ เสร็จจากนี้ก็หาช่าง ได้ช่างเหมาแต่ค่าแรงไปนะคะ ของทุกอย่างเราเลือกซื้อเอง
2. ออกแบบแปลนร้านคร่าว ๆ เพราะว่าเราต้องทำใหม่หมด มันเป็นห้อง 2 ห้อง ต้องทุบผนังกลางออกรวมเป็นห้องเดียว ก็ทำไปแก้ไปจนกว่าที่จะพอใจ ขอบอกว่าเหนื่อยมาก เนื่องจากเราไม่มีความรู้ทางด้านการก่อสร้าง ต้องอาศัยถามคนอื่นและหาอ่านในอินเทอร์เน็ตค่ะ เช่น ต้องถมดินสูงเท่าไรถึงจะดี การเดินท่อน้ำเป็นยังไง หลังคายังไง แบบไหน กระเบื้องยังไง ห้องน้ำทำใหม่อยากได้เป็นแนวไหน เราใช้โปรแกรม Sketch up ทำ ไม่ยากมากค่ะ ตอนแรกถามเพื่อนให้เพื่อนช่วยหาสถาปนิกจะให้มาออกแบบแปลนให้แต่ราคาค่อนข้างสูง เลยตัดสินใจเอาตามที่เราออกแบบนี่แหละค่ะ เสร็จจากนี้ก็หาช่าง ได้ช่างเหมาแต่ค่าแรงไปนะคะ ของทุกอย่างเราเลือกซื้อเอง

- 22 กุมภาพันธ์ 2559 เซ็นสัญญากับช่างตอนช่วงเย็น ๆ

- 23 กุมภาพันธ์ 2559 เริ่มทำการก่อสร้าง ช่างก็เริ่มต้นจากการทุบและรื้อห้องด้านบนค่ะ

- 24 กุมภาพันธ์ 2559 คุยกับช่างไฟดูตำแหน่งที่จะติดตั้งปลั๊กไฟ หลอดไฟ
- 26 กุมภาพันธ์ 2559 เราไปซื้อสีรองพื้นทาปูนเก่า กับเคมีโป๊วยาแนวปูนแตกตามที่ช่างสั่ง
- 27 กุมภาพันธ์ 2559 ดูประตูกับหน้าต่างที่ Homepro กับ Dohome
- 28 กุมภาพันธ์ 2559 วางระบบหลอดไฟกับสวิตช์ไฟทั้งตึก ไปที่ร้านจด ๆ ใส่กระดาษว่าอยากจะทำแบบไหนกลับมาห้องแล้วก็ทำใส่โปรแกรมค่ะ ง่ายดี
- 29 กุมภาพันธ์ 2559 ไปซื้อหน้าต่างอะลูมิเนียมที่ Homehub พนักงานดูแลดีมาก ไปดูมาหลายที่ พนักงานไม่ค่อยสนใจเลย แบบยืนมองหน้าลูกค้า ไม่ถามไม่สนใจไม่แนะนำอะไรทั้งนั้น ที่ Homehub แพงหน่อย แต่ก็ไม่ลังเลที่จะซื้อของจากที่นี่
- 26 กุมภาพันธ์ 2559 เราไปซื้อสีรองพื้นทาปูนเก่า กับเคมีโป๊วยาแนวปูนแตกตามที่ช่างสั่ง
- 27 กุมภาพันธ์ 2559 ดูประตูกับหน้าต่างที่ Homepro กับ Dohome
- 28 กุมภาพันธ์ 2559 วางระบบหลอดไฟกับสวิตช์ไฟทั้งตึก ไปที่ร้านจด ๆ ใส่กระดาษว่าอยากจะทำแบบไหนกลับมาห้องแล้วก็ทำใส่โปรแกรมค่ะ ง่ายดี
- 29 กุมภาพันธ์ 2559 ไปซื้อหน้าต่างอะลูมิเนียมที่ Homehub พนักงานดูแลดีมาก ไปดูมาหลายที่ พนักงานไม่ค่อยสนใจเลย แบบยืนมองหน้าลูกค้า ไม่ถามไม่สนใจไม่แนะนำอะไรทั้งนั้น ที่ Homehub แพงหน่อย แต่ก็ไม่ลังเลที่จะซื้อของจากที่นี่

- 6 มีนาคม 2559 หลังจากไปทำธุระเรื่องรับรองเอกสาร
ที่เพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกับโอปป้ามาที่แจ้งวัฒนะ
ก็รีบขับรถไปตรวจร้านเลยค่ะว่าถึงไหนแล้ว
- 7 มีนาคม 2559 ไปซื้อท่อน้ำมาเตรียมวางท่อ
- 8 มีนาคม 2559 วันนี้น้องชายคุณแม่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาทำหลังคากันสาด พอมาถึงตอนเช้าก็ชวนกันไปซื้อเหล็กชนิดต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวลงมือทำเลยจ้า ช่วงนี้อากาศก็ร้อนมาก เพิ่มเติมหลังไปซื้อเหล็กนะคะ คุณน้าไปดูร้านพูดให้ฟังว่า ควรเปลี่ยนตำแหน่งทางเข้า เพราะว่ามันชนกับประตูค่ายทหารฝั่งตรงข้ามเป็นทางสามแพร่งมันไม่ดี ควรจะย้ายข้างสลับกัน เลยต้องรีบกล้บห้องทำแปลนใหม่ใน Sketch up เหงื่อตกเลยค่ะ
- 7 มีนาคม 2559 ไปซื้อท่อน้ำมาเตรียมวางท่อ
- 8 มีนาคม 2559 วันนี้น้องชายคุณแม่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาทำหลังคากันสาด พอมาถึงตอนเช้าก็ชวนกันไปซื้อเหล็กชนิดต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวลงมือทำเลยจ้า ช่วงนี้อากาศก็ร้อนมาก เพิ่มเติมหลังไปซื้อเหล็กนะคะ คุณน้าไปดูร้านพูดให้ฟังว่า ควรเปลี่ยนตำแหน่งทางเข้า เพราะว่ามันชนกับประตูค่ายทหารฝั่งตรงข้ามเป็นทางสามแพร่งมันไม่ดี ควรจะย้ายข้างสลับกัน เลยต้องรีบกล้บห้องทำแปลนใหม่ใน Sketch up เหงื่อตกเลยค่ะ

- 9 มีนาคม 2559 ออกแบบป้ายให้น้าทำให้ค่ะ
- 12 มีนาคม 2559 ไปซื้ออุปกรณ์และสุขภัณฑ์ทั้งหมดที่ใช้ทำห้องน้ำ แล้วก็แวะไปดูตู้แช่มาด้วย ได้รับข่าวดีว่าตู้ราคาโอเคมาก แล้วก็มีขารับชั้นแบบที่ต้องการ กรี๊ดเลยจ้า...โล่งอกมาก ๆ
- 12 มีนาคม 2559 ไปซื้ออุปกรณ์และสุขภัณฑ์ทั้งหมดที่ใช้ทำห้องน้ำ แล้วก็แวะไปดูตู้แช่มาด้วย ได้รับข่าวดีว่าตู้ราคาโอเคมาก แล้วก็มีขารับชั้นแบบที่ต้องการ กรี๊ดเลยจ้า...โล่งอกมาก ๆ

- 15 มีนาคม 2559 วันนี้เทซีเมนต์แล้วค่ะ ช่างโทรศัพท์ไปจองให้ของ CPAC
ระบบการจ่ายเงินดีมากค่ะ
บริษัทจะส่งข้อความมาให้ในโทรศัพท์เป็นรหัสแล้วเราก็ไปจ่ายเงินที่ 7-11
ได้เลยจ้า ดีมากราคาคิวล่ะ 2,000 บาท เราใช้ไป 9 คิว


- 16 มีนาคม 2559 ปูนแห้งแล้ว คุณน้าเริ่มขึ้นโครงกันสาดด้านหน้า
คุณน้าเก่งมากทำเองกับแฟนแค่ 2 คน มีโอปป้าไปเป็นลูกมือด้วยนิดหน่อย
ร้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น จากแต่ก่อนที่ดูแทบไม่ได้

- 17 มีนาคม 2559 วันนี้ไปซื้อสีทาภายในชั้น 2 มา ซื้อมาแล้วก็ลงมือเลย
แต่เดี๋ยวต้องทาหลายรอบ ตอนนี้คือพยายามซื้อสีที่ไม่ต้องผสมจะได้ไม่แพงมาก
ถ้าเราเลือกจากแม่สีที่มีอยู่ก็ประหยัดลงไปมากค่ะ


- 22 มีนาคม 2559 มาเริ่มต้นทำป้ายกันบ้าง
สรุปว่าจะใช้แผ่นคอมโพสิตตัดเป็นแบ็คกราวนด์ แล้วก็ใช้ตัวหนังสือไม้ยึดกับแผ่นเอา
เราก็ไปสั่งทำสติ๊กเกอร์ก่อนเพื่อเป็นแบบในการตัด แผ่นคอมโพสิตซื้อมาแผ่นละ
1,950 บาท ซื้อมา 3 แผ่น ไม้อีก 1 แผ่นราคา 1,300 บาท
สติ๊กเกอร์ที่สั่งมาก็ราคา 1,000 บาท รวม ๆ
โครงเหล็กไม่รวมค่าแรงก็คงไม่เกินหมื่นบาทค่ะ
- 28 มีนาคม 2559 เช้าวันนั้นไปดูหน้าร้านใส่ประตูม้วนเรียบร้อยแล้ว ค่าเสียหายทั้งหมด 17,500 บาท หลังจากนั้นก็ไปไฟฟ้ากับพ่อเพราะว่าร้านที่ทำต้องใช้ไฟเยอะ เลยต้องเปลี่ยนขนาดหม้อเป็น 3 เฟส 15 แอมป์ ราคา 16,000 บาท ไปเขียนคำร้องไว้แล้ว เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะมาดูว่าทำได้ไหม พนักงานบอกว่าให้ไปต่อสายไฟเมนหลักเข้าบ้านให้เสร็จก่อน ทำเร็ว ๆ ก่อนเจ้าหน้าที่มาตรวจ (ไม่งั้นจะไม่ผ่าน)
- 28 มีนาคม 2559 เช้าวันนั้นไปดูหน้าร้านใส่ประตูม้วนเรียบร้อยแล้ว ค่าเสียหายทั้งหมด 17,500 บาท หลังจากนั้นก็ไปไฟฟ้ากับพ่อเพราะว่าร้านที่ทำต้องใช้ไฟเยอะ เลยต้องเปลี่ยนขนาดหม้อเป็น 3 เฟส 15 แอมป์ ราคา 16,000 บาท ไปเขียนคำร้องไว้แล้ว เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะมาดูว่าทำได้ไหม พนักงานบอกว่าให้ไปต่อสายไฟเมนหลักเข้าบ้านให้เสร็จก่อน ทำเร็ว ๆ ก่อนเจ้าหน้าที่มาตรวจ (ไม่งั้นจะไม่ผ่าน)

- 2 เมษายน 2559 สั่งกระเบื้องทั้งหมดมาแล้วรวมปูนกาวหมดไป 6 หมื่นกว่าบาท จะเป็นลมค่า

- 6 เมษายน 2559 กระเบื้องที่เลือกสีสวยถูกใจค่ะ สีออกสีขาวเลยนะคะ ขาวนวล ๆ ไม่ใช่สีไข่ สะท้อนไฟคงสว่างมาก ๆ

- 13 เมษายน 2559 ใคร ๆ ก็เล่นสงกรานต์ แต่ต่ายกับโอปป้ามาทาสีระเบียงชั้น 2 จ้า

- 14 เมษายน 2559 ลองทำภาพก่อนและหลังดูค่ะ (อันนี้ชั้นล่าง)

- 23 เมษายน 2559 วันนี้วันดีได้ฤกษ์ขึ้นป้ายค่ะ

- 24 เมษายน 2559 ช่างมาใส่ประตูแล้ว

- 25 เมษายน 2559 ช่างปิดบันไดแล้ว
เราก็นั่งคิดอยู่ว่าจะเอาสีอะไรดีระหว่างสีขาวกับสีส้ม
ตัดสินใจเป็นส้มจะได้เด่น ๆ หน่อย จะได้มีห้องใต้บันไดเล็ก ๆ
เอาไว้เก็บของด้วยค่ะ

- 27 เมษายน 2559 ไม่มีรูปภาพอะไร แค่อยากระบายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งเรื่องของร่างกายและจิตใจ อยากเลิกทำ ท้อหลายครั้งมาก ๆ เลยค่ะ หลายครั้งที่ทะเลาะกับคนในครอบครัว มันยากที่สุดที่เราเป็นคนกลาง แทบจะอยากฆ่าตัวตายเลยทีเดียว ตอนนี้ในส่วนของโครงสร้างร้านใกล้จะเสร็จแล้ว ที่เหลือหลัก ๆ คือ ตู้แช่ แอร์ กล้องวงจรปิด กระจก เคาน์เตอร์ ชั้นวางของ ซื้อของเข้าร้าน ประมาณนี้ค่ะ อยากจะเลิกทำแต่จะให้ทำยังไงได้มันมาขนาดนี้แล้ว ไหวหรือไม่ไหวมันก็ต้องทำต่อ ขอถอนหายใจยาว ๆ ทะเลาะกันหนักมากกับโอปป้า อารมณ์แบบเอาญาติมาทำแล้วเขาไม่ค่อยฟังเรา ทำงานก็ไม่ค่อยดี ทำอะไรก็ไม่ถามเราให้ดี ๆ เสียก่อน ช่างก็ทำงานไม่ดีมาก ๆ เราต้องมานั่งเก็บงานกันเองเยอะมากเลย แล้วเงินที่ใช้ทำร้านก็เงินโอปป้า เหมือนว่าเขาจ่ายเงิน แต่ทำไม่ดี ทิ้งเงินไป มีหน้าที่แค่จ่ายเงินอย่างเดียว โอปป้าพูดอะไรก็ไม่มีคนฟัง หนักมากสำหรับเราค่ะ
- 12 พฤษภาคม 2559 ช่วงนี้เก็บงานสีค่ะ เรากับโอปป้าช่วยกันทำเพราะช่างสีแย่มาก ทาสีไม่ดีทั้งหลัง ต้องมานั่งเก็บสีเองใหม่หมด เงินก็จ่ายแล้ว แล้วยังต้องมานั่งทำเองอีก งานไฟก็เสร็จแล้ว หลอดไฟใช้ Lamtan LTD T8 18wat ค่ะ

- 16 พฤษภาคม 2559 สั่งตู้แช่มาลงแล้วค่ะ 2 ตู้ 6 หมื่นบาทต้น ๆ มาส่งถึงที่ เฮียเจ้าของร้านใจดีมากค่ะ

- 19 พฤษภาคม 2559 ช่างเทปูนลาดยาวหน้าร้านสำหรับที่จอดรถค่ะ

- 23 พฤษภาคม 2559 ต่ายวาดรูปนี้เสร็จค่ะ ใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน ตอนที่ต่ายตัดสินใจวาดรูปนี้ไม่ได้มาแบบงง ๆ นะคะ ตั้งใจไว้แต่แรกแล้ว อยากโชว์ฝีมือตัวเอง แต่ก็ต้องคำนึงโทนของร้านด้วย การเลือกใช้สี รูปที่เลือก ให้เข้ากับชื่อ Happy Mart อารมณ์สนุก ๆ สดใส ๆ แบบนี้ค่ะ แปลกแหวกแนวดีไหม...ร้านนี้ 555+

- 24 พฤษภามคม 2559 ติดกระจกค่ะ เลือกสีขาว โอปป้าเลือกเอง เป็นราคาเหมานะคะ เพราะทำหลายจุด มีห้องน้ำด้วย ด้านบนชั้น 2 ด้วย ราคา 35,000 บาทค่ะ งานเรียบร้อยดีมาก ประตูสวิงดี ชอบค่ะ ร้านก็ใกล้ ๆ บ้านนี่แหละ

- 26 พฤษภาคม 2559 วันนี้จะเป็นการเริ่มต้นของการทำเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ต่ายออกแบบเคาน์เตอร์ให้รองรับการใช้งานมากที่สุดคือ ต้องมีที่ใส่บุหรี่ การวางของให้โชว์สินค้ามากที่สุด ดีไซน์ดูโมเดิร์น แต่ยังคงความคลาสสิกรับกับคานสีน้ำตาลในบ้าน แล้วก็สีที่จะใช้ทำค่ะ ไปซื้อไม้ก็ใช้เป็นไม้โครงนะคะ คือสร้างโครงโดยไม้แดงแล้วยิงปิดด้วยไม้อัดชื่อ ไม้แอชจีนลายเส้นค่ะ เราไปเลือกลายไม้อัดเอง ซื้อเสร็จก็เริ่มทำเลย ขอบอกก่อนนะคะว่า ต่ายกำหนดสเกลให้ช่างทุกอย่าง กว้างเท่านั้นเท่านี้ ง่ายต่อการทำงานค่ะ ต่ายไม่ได้มโนกำหนดเอาเองนะคะ ก่อนออกแบบไปลองยืน ลองวัดดูว่าเท่าไรจะพอดี เหนื่อยอยู่ค่ะ

- 6 มิถุนายน 2559 และแล้วก็เสร็จค่ะ แต่ยังไม่ทั้งหมดเหลืองานสีจ้า ต่ายวาดรูป Welcome เพิ่มข้างหน้า อยากให้มีอะไรโดดเด่นเวลาเดินเข้ามาในร้าน แทนที่จะเห็นแค่แผ่นไม้ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าโล่ง ๆ ก็ใส่ลายเข้าไปค่ะ ดูมีสีสันมากขึ้น ความพอใจของงานให้เต็ม 10 ต่ายชอบมาก ๆ เหมือนแบบเป๊ะ ๆ เลย

- 7 มิถุนายน 2559 ช่วงที่รอช่างเก็บงาน ต่ายเริ่มงานชั้น 2 แล้วนะคะ
พื้นบ้านด้านบนเป็นพื้นเก่าค่ะ ให้ช่างเฟอร์ขัดให้หมดหลัง 1 หมื่นบาท
แล้วก็เตรียมลงสีใหม่ ก่อนลงสีต้องใส่ยาแนวตามร่องไม้ก่อนนะคะ
เพราะถ้าไม่ทำเกิดน้ำหกลงไปมันจะรั่วลงไปด้านล่างเลย
ใช้ดินสอพองสำหรับงานไม้ผสมกับสี สีอะไรจำไม่ได้ค่ะ เป็นผง ๆ
ให้ใกล้เคียงกับพื้นไม้แล้วก็ลุยโลดจ้า ทำเองหมดทั้งหลัง
เล่นเอาหลังพังเลยค่ะ โหมงานหนักก็งี้ ใจมันไหวแต่ร่างกายน่ะสิ

- 13 มิถุนายน 2559 เสร็จจากงานดินสอพองชั้นสอง ลุยงานสีเคาน์เตอร์ต่อจ้า
ตอนแรกก็ใช้แปรงขนกระต่ายที่ทาไม้ทา แต่ไม่สวยเลย มาเห็นเป็นรอยเส้น ๆ
ช่างเลยแนะนำเอาสำลีห่อผ้า ชุบสีแล้วรูด ผลลัพธ์เกินคาด เนียบกริบ
ยังกะแม่พิมพ์สีเลย เทคนิคนี้เรียกว่า การประคบสี แหล่มจริง ๆ ค่ะ

- มาดูว่าก่อนลงสี ขั้นตอนทำยังไงบ้าง เผื่อว่าเอาไปทำกันเองนะคะ
1. โป๊วรอยหรือรูใช้ดินสอพองสำหรับงานไม้
2. ขัดไม้ให้ผิวเรียบเนียนใช้กระดาษทรายขัดไม้สำหรับเสี้ยนใหญ่ ๆ และใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ละเอียดสุดขัดแต่งผิวไม้ให้ลื่น จับแล้วไม่หยาบก็โอเค
3. ทาเชลแล็กปกป้องเนื้อไม้ 2 รอบ
4. ติดเทปป้องกันการเปื้อนแล้วค่อยลงสี ลงรอบแรกรอให้แห้ง ค่อยลงทับได้ (เราใช้สีน้ำมันทา เทคนิคคือทาไปทางเดียวกับลายไม้ลากยาว ๆ จนสุด)
1. โป๊วรอยหรือรูใช้ดินสอพองสำหรับงานไม้
2. ขัดไม้ให้ผิวเรียบเนียนใช้กระดาษทรายขัดไม้สำหรับเสี้ยนใหญ่ ๆ และใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ละเอียดสุดขัดแต่งผิวไม้ให้ลื่น จับแล้วไม่หยาบก็โอเค
3. ทาเชลแล็กปกป้องเนื้อไม้ 2 รอบ
4. ติดเทปป้องกันการเปื้อนแล้วค่อยลงสี ลงรอบแรกรอให้แห้ง ค่อยลงทับได้ (เราใช้สีน้ำมันทา เทคนิคคือทาไปทางเดียวกับลายไม้ลากยาว ๆ จนสุด)

- 18 มิถุนายน 2559 หลังจากที่เคาน์เตอร์เสร็จจริง ๆ ก็ยังไม่เสร็จดีค่ะ
เหลือตัวอักษรนิดหน่อย ก็ทำต่อด้วยงานตกแต่งตู้แช่แล้วก็ชั้นใส่ขนมค่ะ ป.ล.
ต่ายเอารูปที่เสร็จมาให้ดูนะคะ เพราะว่าตัวหนังสือติดตอนก่อนทำบุญร้านค่ะ

- 25 มิถุนายน 2559 ร้านต่ายมีมุมนั่งเล่นด้วยค่ะ ตั้งใจอยากให้เป็นมินิมาร์ทที่เราซื้อของกินเสร็จก็นั่งเล่นนั่งกินได้ด้วย

- 26 มิถุนายน 2559 เริ่มทำชั้นวางของ


- 20 กรกฎาคม 2559 ช่วงนี้ยุ่งมากกับงานชั้น 2 เก็บสีวงกบบ้าง
ทาพื้นบ้างเยอะมาก เราทาพื้นเป็นสีเทาค่ะใช้สี
ที่จริงต้องใช้สำหรับเครื่องขัดเราไม่มีก็ทาไปเลยค่ะ ชอบมาก ๆ ค่ะ
แห้งแล้วคือดีแบบลองเอาน้ำหยดลง น้ำเป็นหยดไม่ซึมใส่พื้นเลยค่ะ
เทกเจอร์ก็ชอบด้วย...ผ่านค่ะ แต่คนที่บ้านถามว่าทำไมเอาสีเทา
ก็ต่ายกับโอปป้าชอบอ่าค่ะ เหตุผลมีแค่นี้ 555
ห้องนอนต่ายก็วาดรูปหัวใจไว้กลางห้อง ตำแหน่งจะเป็นกลางเตียงพอดี

- 1 กันยายน 2559 ตู้เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ต่ายให้ช่างบิวท์อินให้เฉย ๆ นะคะ ไม่ได้ทำสีไม่ได้ขัด ต่ายกับโอปป้าจะตกแต่งกันเองค่ะ

- 2 กันยายน 2559 เริ่มขบวนการโป๊ว ขัด ลงน้ำยา อะไรก็ว่ากันไป ขอไม่ลงรายละเอียดเยอะนะคะ เพราะมันหลายขั้นตอนมาก

- ในส่วนของงานหลัก ๆ เสร็จหมดแล้วนะคะ
ถึงขั้นตอนเคลียร์ของออกพวกเศษไม้ต่าง ๆ โอปป้าให้ต่ายทำคนเดียวเลย
เหนื่อยมาก ไม้มันก็หนักฝุ่นก็เยอะ ฮึบ ๆ ก้มหน้าทำไปค่ะ

- 4 กันยายน 2559 แม่มาช่วยทำความสะอาดร้านค่ะ
ตอนแรกโอปป้าตั้งใจทำให้เสร็จแบบเคลียร์ทุกอย่างแล้วค่อยกลับเกาหลี
แต่มันก็ทำไม่เสร็จ แต่เราก็ทำดีที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้

- 18 ตุลาคม 2559 วันนี้เป็นวันที่เริ่มซื้อของค่ะ
ต่ายมีงบไม่มากในการศึกษา เลยคุยกันว่าจะซื้อแค่พอขายคือซื้อแบบไม่สต็อกของ
เอาแค่ขายพอดี โหลนึง ไม่ซื้อทุกยี่ห้อ เอาที่ฮิต ๆ
ต่ายตั้งใจแต่แรกแล้วว่าร้านต่ายจะขายของแบบใช้บาร์โค้ด
เพราะว่ามันง่ายดีเวลานับของและคำนวณทุนและกำไร ต่ายเป็นคนไม่เก่งเลขค่ะ
เลยใช้แบบนี้ดีกว่า 555 แต่ความยากมันก็มา จะว่ายากก็ไม่ใช่ คือมันเยอะไง
ต้องมานั่งยิงบาร์โค้ดแต่ละสินค้าแล้วก็พิมพ์ไปว่า ชื่อสินค้าอะไร
ราคาทุนเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ มีกี่ชิ้น ตาลายเลย
มานั่งหารนั่งคิดหารายการในใบเสร็จอะ ทำช้า ๆ ค่ะ ทำคนเดียว ไม่มีคนช่วย
แม่มาช่วยเรียงของแยกประเภทให้ ต่ายเป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไร

- 23 ตุลาคม 2559 จัดเรียงสินค้าประเภทแรก คือขนมค่ะ (อันนี้ทำคนเดียว)
- เราได้ฤกษ์เปิดร้านแล้ว จริง ๆ จะเปิดตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 แต่พอทดสอบตู้แช่มีปัญหานิดหน่อยค่ะ จนได้ฤกษ์เปิดในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 แทนค่ะ เปิดร้านขายวันแรกก็เตรียมใจไว้แล้วว่าลูกค้าคงไม่เยอะ ปิดยอดวันแรกได้กำไรพันนิด ๆ ก็พอใจมากค่ะ เราลองไปนั่งหน้าร้านสังเกตคนที่ขับรถผ่านไป-มา เขาก็มองกันเยอะว่าร้านอะไร คงงง ๆ กันอยู่ 555+
ลองมาดูรูปภาพร้านที่เสร็จแล้วนะคะ

- หน้าร้านโดยภาพรวมค่ะ ตอนกลางคืนสว่างมาก ๆ เราข้ามถนนไปถ่ายจากฝั่งตรงข้าม

- อีกมุมเมื่อมองจากด้านข้าง

- ทางเข้าร้าน


- มุมที่นั่งด้านซ้ายมือ

- เคาน์เตอร์แคชเชียร์ด้านหน้า

- ถ้าเข้ามามองฝั่งซ้ายก็จะเป็นแบบนี้เลยค่ะ

- มองจากอีกมุม

- ซื้อแล้วนั่งทานในร้านได้เลย

- ตู้แช่เจ้าปัญหา ><

- รูปสุดท้ายค่ะ ลูกค้าบางคนก็มาขอถ่ายรูป สร้างจุดขาย ดึงดูดลูกค้าดีมากค่ะ
ท้ายนี้...อยากขอบคุณทุกคนเพื่อนพ่อแม่พี่น้องที่ให้คำแนะนำ คำปรึกษาที่ดีตลอดเสมอมาค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Going Solo69 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม