วิธีทำชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ไว้ปลูกผักสดกินเองที่บ้าน

รีวิว วิธีทำชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เวอร์ชั่นใหม่ หลังทดลองปลูกมาแล้ว 2 รอบ ไปดูกันว่ามีขั้นตอนการทำชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์อย่างไร ถึงจะได้ผักสด ๆ ปลอดสารพิษมากินบ้าง

ต่อให้ผักสด หวาน กรอบ และอร่อยแต่ก็มีอันตรายกับร่างกายอยู่ดี จะดีกว่าไหมหาว่าเป็นผักที่ทั้งสด สะอาด และปลอดสารพิษ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยอยากจะชวนทุกคนมาทำ ชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ไปพร้อม ๆ กันกับ คุณ TheGolfMania สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จะได้มีผักสดกรอบ ๆ ไว้กินและไม่ทำอันตรายกับร่างกาย เพราะเราสามารถปลูกเองได้กับมือ

ขั้นตอนทำชุดปลูกไฮโดรโปนิกส์+วิธีการปลูกอย่างละเอียด โดย คุณ TheGolfMania

มีหลาย ๆ ท่านสอบถามเรื่องชุดปลูก วิธีการปลูก อุปกรณ์ รวมถึงอื่น ๆ เกี่ยวกับผักไฮโดรโปนิกส์เข้ามามากมายพอสมควรเลยทีเดียวครับ หลังจากที่ผมปลูกด้วยชุดปลูกครั้งก่อนจนถึงวันนี้ก็ปลูกไปได้ 2 รุ่น พอจะทราบปัญหาบางอย่างของชุดปลูกรุ่นแรกบ้างนิดหน่อย ดังนั้นวันนี้ก็เลยมาขออัพเดทการสร้างชุดปลูกในเวอร์ชั่นใหม่ให้อีกครั้ง รวมถึงขั้นตอนการปลูกผักอย่างละเอียดมาให้ติดตามกันอีกครั้งครับลองมาติดตามกันเลย ^^

ขั้นตอนแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องเดิมคือการเตรียมวัสดุครับ

- ท่อพีวีซีขนาด 2 นิ้ว ผมใช้สีขาวเพราะจากการหาข้อมูลพบว่าสีขาวจะอมความร้อนน้อยกว่าสีฟ้า ^^ ผมใช้ชุดละ 9 เส้นครับ

- ข้อต่อพีวีซีงอ 90 ขนาด 2 นิ้ว แบบบาง 11 ตัว

- ข้อต่อพีวีซี 3 ทาง ขนาด 2 นิ้ว แบบบาง 8 ตัว

- บอลวาล์ว ขนาด 1/2 นิ้ว 9 ตัว

- ท่อพีวีซี ขนาด 1/2 นิ้ว 2 เส้น

- สายยางขนาด 1/2 นิ้ว 2 เมตร

- ถัง 200 ลิตร

- ข้องอเกลียวใน 1/2 นิ้ว 1 ตัว

- ท่อรับสายยาง ขนาด 1/2 นิ้ว 1 ตัว

หมายเหตุ : สามารถปรับแต่งจำนวนของของด้านบนตามสัดส่วนที่ต้องการสร้างได้เลยครับ

อุปกรณ์และเครื่องมือ

- สว่านและโฮล์ดซอล์ขนาด 38 1/2 มิลลิเมตร

- ตัวตัดพีวีซีหรืออาจจะใช้เลื่อยตัดเหล็กธรรมดาก็ได้ครับ

- กาวต่อท่อพีวีซี

- นอตเกลียวปล่อยเบอร์ 7 ยาวนิ้วครึ่ง

เอาหละเมื่อเตรียมของได้แล้วก็เริ่มกันเลย ^^ ท่อพีวีซี ขนาด 2 นิ้วที่ได้มาจะมีปลายด้านหนึ่งบาน เพื่อให้ต่อท่อเข้าด้วยกันผมจึงต้องตัดปลายนี้ออกครับ และเมื่อตัดแล้วความยาวจะลดลงนิดหน่อยประมาณ 10 เซนติเมตรแล้วจะได้ท่อหน้าตาแบบนี้ครับ

- จะเห็นว่าผมเริ่มเอาข้องอมาสวมที่ปลายด้านหนึ่งของท่อ เพื่อกำหนดเป็นทางน้ำเข้าและในเวอร์ชั่นนี้จะได้เห็นว่าน้ำแรงพอ ๆ กันหรือไม่ ^^ หลังจานั้นก็ทากาวให้เรียบร้อยครับเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมออกมา จากประสบการณ์ส่วนตัวนั้นแนะนำว่าทากาวมาก ๆ ครับและก่อนทาควรจะเช็ดฝุ่นออกให้เรียบร้อยด้วย เมื่อทากาวต่อข้องอครบทุกท่อแล้วก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ

- หลังจากนั้นผมก็จะวัดระยะเพื่อสร้างความห่างที่เหมาะสม ซึ่งจากการที่ทดลองปลูกมา 2 รอบก็พอจะบอกได้ว่าระยะที่เหมาะสมระหว่างแถวนั้นจะอยู่ราว ๆ 10 -15 เซนติเมตรครับผม แล้วก็ตัดเศษท่อเพื่อใช้เป็นตัววัดระยะเพื่อความสะดวกเลยครับ ซึ่งด้านนี้ผมจะใช้ท่อพีวีซี ขนาด 1/2 นิ้ว แล้วยึดด้วยนอตเกลียวปล่อยระยะโครงชุดปลูกในฝั่งหัวจะได้ไม่เคลื่อน

- เมื่อวัดระยะเรียบร้อยแล้วจากนั้นก็ยึดชุดปลูกกับท่อ 1/2 นิ้วได้เลยครับ

- จากนั้นผมก็จะวัดระยะการเจาะเพื่อใส่ ถ้วยปลูก ซึ่งก็ยังคงใช้ระยะเดิมครับ 10-15 เซนติเมตรแล้วแต่ชอบ โดยผมจะวัดระยะที่รางที่ 1 และรางที่ 9 แล้วค่อยใช้ไม้ทาบเพื่อมาร์กรางที่ 2-8 ครับ

- ทีนี้เราก็จะมาต่อส่วนท้ายของรางปลูกเพื่อรับน้ำจากปลายรางแล้วส่งน้ำกลับไปที่ถังพัก โดยผมจะใส่ข้องอ 90 ไปที่รางแรกแบบนี้ครับ

- และก็จะใช้ท่อพีวีซีที่เป็นตัววัดระยะเพื่อให้ได้ระยะห่างที่เท่ากันกับด้านต้นราง

- โดยรางที่ 2-9 ก็จะต่อปลายรางด้วยข้อต่อ 3 ทางครับ เมื่อต่อเสร็จแล้วจะได้หน้าตาแบบนี้ครับ

- การยึดหัวท้ายของรางให้เรียบร้อยก่อนนั้นเราจะช่วยให้เราทำงานส่วนอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นค่อยมาใส่ระบบน้ำเข้าโดยใช้พีวีซี ขนาด 1/2 นิ้วมาต่อกันแบบนี้ครับ ชุดที่ 1 ให้ใส่ข้องอ 90 ตามด้วยบอลวาล์วแบบนี้

- ในขณะที่ชุดอื่น ๆ จะต่อ 3 ทางเข้ากับบอลวาล์วแบบนี้ครับ

- เมื่อทำครบทั้ง 9 ชุดแล้วก็ลองเอาไปวางดูเพื่อตรวจสอบระยะและทำการประกอบ

- และประกอบทั้ง 9 ชุดเข้าด้วยกันแบบนี้ครับ

- จากนั้นก็วัดระยะทาบของรางที่ 1 และ 9 แล้วขีดเส้นเพื่อจัดระยะเจาถ้วยปลูกแล้วทำการเจาะด้วยสว่านกับโฮล์ดซอล์ครับ

- เมื่อทำการเจาะเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว จะเห็นว่าจะมีขุย ๆ ที่เป็นร่องรอยของการเจาะ ซึ่งถ้าไม่เอาออกจะมีปัญหาพอสมควรในช่วงที่ปลูกนะครับ

- ผมจึงใช้หัวขัดเพื่อตัดขุยพวกนี้ออกซะ

- ซึ่งเมื่อขัดเสร็จได้จะได้ความต่างกันมาก ๆ เลยทีเดียวแบบนี้

- ทีนี้เราก็มาใส่ระบบน้ำเข้า+ออกให้สมบูรณ์กัน

- ผมใช้ถังพักน้ำที่เป็นปุ๋ยร่วมกัน 2 ชุดครับ เพราะจากการคำนวณแล้วพบว่าช่วงที่ผักอายุ 35 วันขึ้นไปจะเป็นช่วงที่ใช้น้ำมากที่สุด 250 ต้น ใช้ราว ๆ 30 ลิตรต่อวัน ดังนั้นจึงต้องวางถังน้ำไว้ระหว่าง 2 ชุดแบบนี้