ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นหลังน้ำท่วม พบโครงการส่วนใหญ่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ในขณะที่บ้านเดี่ยวยังครองแชมป์ความนิยมสูงสุด
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2555 ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ช่วงครึ่งปีแรก 2555 นั้น เป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้ความต้องการบ้านหลังใหม่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2554
ในขณะที่ ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง มีอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีที่ผ่านมา จากค่าแรง 120.4 เป็น 124.6 หรือเพิ่มขึ้นถึง 4.20 คิดเป็น 10-15% จากการปรับค่าแรงและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างจำนวนมาก เพื่อซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือน และเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ตลอดจนการที่ผู้ประกอบการได้พยายามมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่กังวลเกี่ยวกับน้ำท่วม ส่งผลให้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นอีก
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดการเติบโตในภาคอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น มีด้วยกันถึง 4 ปัจจัย คือ
1. ปริมาณความต้องการบ้านที่ชะลอตัวจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา
2. ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศนโยบายเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 5 ปี เพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัย (Soft-loan)
3. ความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าหรือบ้านพักตากอากาศสูงขึ้น เพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่สอง หากเกิดเหตุการณ์อุทกภัยเกิดขึ้นอีก
4. นโยบายบ้านหลังแรกของรัฐบาล
และจากการตรวจสอบความต้องการของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีดังนี้
1. บ้านเดี่ยว ได้รับความนิยมถึง 47%
2. คอนโดมิเนียม ได้รับความนิยมถึง 42%
3. ทาวน์เฮาส์ ได้รับความนิยมถึง 11%
ประกอบกับ ผู้ประกอบการ ที่มีโครงการตั้งอยู่ในเขตที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจะมีการจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ลูกบ้านและผู้บริโภคที่กำลังมองหาบ้านมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก มาตรการที่ผู้ประกอบได้ออกมาเพื่อรับมือปัญหาน้ำท่วมถึง 3 มาตราการด้วยกัน คือ
1. มาตรการป้องกัน โดยการถมโครงการให้สูงขึ้น ด้วยการยกถนนสูงรอบโครงการเพื่อเป็นเขื่อนกันน้ำ ก่อกำแพงให้สูงขึ้น ยกปลั๊กไฟขึ้นสูง รวมถึงการยาแนวอุดรูรั่วรอบโครงการ
2. มาตรการแก้ไข โดยการขุดบ่อพักน้ำ พร้อมเพิ่มระบบสูบระบายน้ำ เพื่อให้การระบายน้ำออกจากโครงการได้รวดเร็วขึ้น
3. มาตรการเยียวยา จัดซื้อประกันอุทกภัยเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อมอบเงินชดเชยแก่ลูกค้าในทุกหลัง โดยในขณะนี้มีวงเงินประกัน ที่ทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มอบให้ตั้งแต่ 100,000 - 900,000 บาท เป็นต้น
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก