x close

บ้านมือสองแนวรถไฟฟ้า สำหรับคนไม่อยากอยู่คอนโดฯ



บ้านมือสองแนวรถไฟฟ้า ทางเลือกของคนที่ไม่อยากอยู่คอนโดฯ (บ้านพร้อมอยู่)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          ปัจจุบันตลาดบ้านมือสองมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการที่ตลาดบ้านมือหนึ่งขยายตัวค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า หรือบ้านใหม่ในทำเลรอบ ๆ เมืองที่ผุดขึ้นมากเช่นกัน


          ประกอบกับความต้องการโยกย้ายถิ่นฐานจากบริเวณชานเมืองเข้ามาอยู่ใกล้เมืองมีมากขึ้น เนื่องจากมีระบบขนส่งมวลชนหรือรถไฟฟ้าเข้ามารองรับ ทำให้การเดินทางมีความสะดวกและรวดเร็ว ตลาดบ้านมือสองจึงขยายตัวตามไปด้วย

          ในด้านการลงทุนเองก็เช่นกัน คนนิยมซื้อที่ดินหรือคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้ามากกว่าทำเลอื่น โดยเฉพาะคนที่มีฐานะทางการเงินที่มักจะซื้อเก็บไว้ให้ลูกให้หลาน หรือนำมาปล่อยเช่า-ขายต่อ ซึ่งกำลังซื้อกลุ่มนี้มีค่อนข้างมากในตลาดคอนโดมิเนียม

          อย่างไรก็ตามในการซื้อคอนโดฯ เพื่อการลงทุนก็ขึ้นอยู่กับทำเลของแต่ละโครงการว่าอยู่ตรงไหน หากสามารถเดินเพียงนิดเดียวถึงสถานีรถไฟฟ้า โครงการนั้นก็จะขายดีมาก บางโครงการเปิดขายตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ ผู้คนก็พากันจับจองกันแล้ว เพราะต้องการซื้อไว้แล้วขายต่อในอนาคตเมื่อได้ราคาดี


          นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักลงทุนหันมาจับตลาดเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อที่ดินขนาด 100-200 ตารางวา เพื่อรองรับกลุ่มผู้เช่าที่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อคอนโดฯ อยู่เอง หรือกลุ่มคนที่ทำงานในเมืองช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจจะ 6 เดือนถึง 1 ปี เป็นต้น โดยคนกลุ่มนี้มีความต้องการเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์หรู ๆ ตามแนวรถไฟฟ้าที่เดินทางไปทำงานในเมืองได้อย่างสะดวก

          สำหรับความแตกต่างระหว่างอพาร์ทเม้นท์กับเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์นั้น คือหากเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ อาทิ ซาวน่า ฟิตเนส หรืออาจมีสระว่ายน้ำ เข้ามาอยู่แล้วเหมือนได้อยู่คอนโดฯ แต่จ่ายเป็นค่าเช่าแทน

          ส่วนขนาดแปลงที่ดินที่มีความต้องการซื้อไปทำเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 100-200 ตารางวา โดยจะสร้างสูงประมาณ 8 ชั้น จำนวนห้อง 50-60 ยูนิต ซึ่งอัตราค่าเช่าจะอยู่ที่ 4,000-5,000 บาทต่อเดือน โดยต้นทุนของที่ดินจะต้องไม่เกิน 50,000 บาทต่อตารางวา

บ้านมือสองแนวรถไฟฟ้า ทางเลือกของคนที่ไม่อยากอยู่คอนโดฯ


          ขณะที่ทางด้านอาคารสำนักงานส่วนใหญ่มักจะนิยมซื้อในขนาดแปลงที่ดินประมาณ 50-60 ตารางวา เป็นอาคารสูง 4-5 ชั้น เพื่อนำมาทำเป็นออฟฟิศ โดยเฉพาะตามถนนสายหลัก ๆ เช่น บางนา-ตลาด หรือถนนวงแหวนด้านทิศใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีโครงการประเภททาวน์โฮมที่นำมาทำเป็นออฟฟิศขนาดเล็ก ๆ จำนวนมาก

         
จากข้อมูลของบริษัท บี.ซี.พี.นครินทร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทน นายหน้าระบุว่าปัจจุบันมีความต้องการบ้านมือสองในแนวรถไฟฟ้าที่ไม่ใช่คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่ดินเปล่าขนาด 50-150 ตารางวา รวมทั้งบ้านเดี่ยว, โฮมออฟฟิศและทาวน์เฮ้าส์ โดยที่สามารถเดินทางได้ 5-15 นาที ก็ถึงสถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่ทำเลแถว ๆ สถานีพร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย, พระโขนง ไปจนถึงสถานีอ่อนนุช ซึ่งทางบริษัทเองก็มีทรัพย์พร้อมเสนอขายกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 55 รายการด้วยกัน

          ยกตัวอย่าง ในทำเลแนวรถไฟฟ้าดังกล่าวหากเป็นคอนโดมิเนียมมีราคาขายตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาต่อตารางเมตร 80,000-100,000 บาท ถ้าต้องการพื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร ก็ต้องซื้อในราคา 10 ล้านบาท แต่ถ้าซื้อบ้านเก่าภายในซอย ซึ่งสามารถเดินทางจากซอยออกไปไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าในราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท แล้วนำมาปรับปรุงใหม่ ลงทุนเพิ่มอีก 3-4 ล้านบาท แต่ได้พื้นที่ใช้สอย 200-300 ตารางเมตร

          ทั้งนี้ยังมีบ้านเก่าที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า เดินเข้าซอยไปประมาณ 100-200 เมตร ที่ดินขนาด 100 ตารางวา ราคาถูกว่า 40,000-50,000 บาทต่อตารางวาก็มี หรือบางแปลงอาจจะสูงหน่อย 70,000 บาทต่อตารางวา แต่ได้ที่ดินมากถึง 100 ตารางวา ที่สามารถนำมาปรับปรุงใหม่หรือปลูกบ้านที่ได้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 300 ตารางเมตร เป็นต้น

          หากเป็นทาวน์โฮม 1 หลัง สูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 250-300 ตารางเมตร แต่การเดินทางอาจจะเพิ่มขึ้นอีกนิด ใช้เวลา 5-10 ทีขึ้นรถไฟฟ้าได้ก็มีให้เลือกอยู่หลายรายการด้วยกัน





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 มกราคม 2556




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บ้านมือสองแนวรถไฟฟ้า สำหรับคนไม่อยากอยู่คอนโดฯ อัปเดตล่าสุด 16 มิถุนายน 2558 เวลา 22:22:01 3,078 อ่าน
TOP